1.8K
7 พฤษภาคม 2559
aliz paulin เพิ่มงบตลาด 2 เท่า ชูแฟรนไชส์ลุยศึกเวชสำอาง


“อลิสา อินทเสนี” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินตัน กรุ๊ป จำกัด


เวชสำอางสัญชาติไทย “aliz paulin” พร้อมบุกตลาดเต็มตัวปี 59 หลังสร้างแบรนด์มาร่วม 5 ปี ด้วยรายได้โตต่อเนื่องทะลุ 100 ล้านบาทในปี 58
กางแผนธุรกิจขยายแฟรนไชส์ พร้อมเปิดแฟลกชิพสโตร์กว่า 20 สาขา หวังเพิ่มรายได้เป็น 150-170 ล้านบาท ก่อนเปิดตลาดต่างประเทศด้วยสัดส่วนรายได้ 30%
      
น.ส.อลิสา อินทเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินตัน กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ชื่อ “aliz paulin” เปิดเผยว่า ในปี 2559 บริษัทฯ จะเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในทุกๆ ด้าน โดยเพิ่มงบประมาณการตลาดจากที่เคยใช้เฉลี่ยปีละ 10 ล้านบาทเป็น 17-20 ล้านบาท

นอกจากนั้นยังมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มอีกอย่างน้อย 20 สาขา ทั้งในลักษณะของการเปิดแฟรนไชส์ในราคา 3 แสนบาท 5 แสนบาท และ 1 ล้านบาท โดยจะเน้นพื้นที่หัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี และอื่นๆ รวมทั้งลงทุนเอง ตลอดจนเปิดร้านแฟลกชิพสโตร์ขนาดใหญ่ย่านใจกลางกรุงเทพฯ โดยขณะนี้กำลังพิจารณาพื้นที่ภายในสยามดิสคัฟเวอรี สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์ และดิไอคอน สยาม
      
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ เน้นการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ 70% และสิ่งพิมพ์ 30% ทำให้มีสัดส่วนยอดขายผ่านเคาน์เตอร์แบรนด์และช่องทางออนไลน์ทั้งผ่านตัวแทนจำหน่าย การรีวิวสินค้าของบล็อกเกอร์ และเว็บไซต์ในสัดส่วนใกล้เคียงกัน คือ 50:50 แบ่งเป็นยอดขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดด้วยสัดส่วน 50:50 โดยผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายดีที่สุดคือ นมผึ้งอัดเม็ดประมาณ 60% และผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 40%
      
“ที่ผ่านมาบริษัทฯ สามารถทำยอดขายเติบโตอย่างก้าวกระโดดมา นับตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งทำได้ประมาณ 60 ล้านบาทและเพิ่มเป็น 100 ล้านบาทในปี 2558 โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มเป็น 150-170 ล้านบาทในปี 2559 โดยบริษัทจะยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเป็น 17 เอสเคยู รวมถึงจะใช้พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์เพิ่มขึ้นอีก นอกจากนั้นยังจะเน้นการทำตลาดต่างประเทศมากขึ้นในสัดส่วน 30% โดยจะเน้นประเทศจีน อินโดนีเซีย อินเดีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สิงคโปร์ กัมพูชา และกลุ่มประเทศอินโดจีน”


      
ภาพจาก facebook.com/AlizPaulin

      
น.ส.อลิสากล่าวว่า หลังจากบริษัทฯ ใช้เวลาศึกษาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประมาณ 2-3 ปี จึงเริ่มดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2553 จนปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้น 15 เอสเคยู แบ่งเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์ประเภทต่างๆ เช่น ครีบลบเลือนริ้วรอย ครีมกันแดด ครีมบำรุงผิว ครีมโฟมล้างหน้า และอื่นๆ 13 เอสเคยู นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทนมผึ้งอัดเม็ด หรือ “รอยัล เยลลี่” (Royal Jelly) 2 เอสเคยู
      
ช่วงแรกของการดำเนินธุรกิจ บริษัทฯ เน้นการทำตลาดในลักษณะปากต่อปากโดยผู้บริโภคที่เห็นผลของประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ที่ใช้ฐานการผลิตและได้รับการรับรองจากประเทศเยอรมนี อิตาลี และฝรั่งเศส ก่อนที่จะเริ่มสร้างแบรนด์อย่างจริงจังในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนปัจจุบันมีเคาน์เตอร์แบรนด์ทั้งสิ้น 7 แห่ง คือ เดอะมอลล์ ท่าพระ, เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ นครราชสีมา, ดิ เอ็มโพเรียม, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลวิภาวดี และห้างสรรพสินค้าเวียงจันทน์ เซ็นเตอร์ ประเทศลาว
      
“การลงทุนเคาน์เตอร์แบรนด์แต่ละแห่ง บริษัทฯ เป็นผู้ลงทุนเองสาขาละ 5 แสนบาทจนถึง 1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 9 ตารางเมตรขึ้นไป
โดยสาขาใหญ่สุดมีขนาด 60 ตารางเมตรที่ประเทศลาว นอกจากนั้นยังมีการจัดจำหน่ายผ่านช่องทางร้านขายยาชั้นนำ คือ ฟาสซิโน รวมถึงร้านเพื่อความงามและสุขภาพโอเกนกิซึ่งสามารถทำยอดขายสูงเป็นอันดับ 1 ในหมวดเวชสำอางประจำปี 2557 ด้วยส่วนแบ่ง 22% จากแบรนด์ทั้งหมดที่จำหน่ายในร้านโอเกนกิ”
      
ล่าสุด ผลิตภัณฑ์ “aliz paulin” ยังได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 30 จาก 700 แบรนด์ที่ได้รางวัลผลิตภัณฑ์ความงาม “marie clarie Best Beauty” ประจำปี 2015 ซึ่งจัดโดยนิตยสาร “marie clarie” ประเทศไทย เทียบเท่าแบรนด์ระดับโลก เช่น CHANEL, Dior, LAMEIR, SKII, eucerin และอื่นๆ ทั้งยังเริ่มใช้พรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์นมผึ้งอัดเม็ด คือ “ลิเดีย-ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา”


อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ชายสี่ คอร์ปอเรชั่น เป..
4,992
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิดต..
4,018
เริ่มแล้ว! งานแฟรนไชส์..
2,896
แรงจริง! #แฟรนไชส์ ก๋ว..
1,617
พบบูธ “ก๋วยเตี๋ยวเรือป..
985
ธงไชยผัดไทย ร่วมกับ 7-..
981
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด