4.9K
22 มกราคม 2552

ธุรกิจใหญ่มะกาทรุดลง แฟรนไชส์กลาง-เล็ก เกิดเพิ่ม


โลกกับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำเวลานี้น่ากลัวกว่าสมัยปี 1997 อย่างเทียบกันไม่ได้ ทั้งๆ ที่โลกได้พัฒนาทางเทคโนโลยี ด้วยสิบนิ้วที่จิ้มไปมาบนแป้นคอมพิวเตอร์ได้ผลตอบแทน อย่างเหลือล้นอย่างไม่น่าเชื่อ และที่ ไม่น่าเชื่ออย่างยิ่งก็คือ ระบบคอมพิวเตอร์นี้นอกจากนำความสำเร็จมาให้แล้วยังนำความน่ากลัวความอับจนมาให้ด้วยเพราะเทคโนโลยีต่างๆ สามารถตามได้ทัน รู้ทันกันในชั่วเวลาพริบตาเดียว

แต่ก่อนประเทศมีพลเมืองมากเช่นจีนและอินเดียจะประสบปัญหาในการทำมาหากิน แม้ไม่ถึงขนาดแย่งกันแต่ก็เกือบเหมือน ต่างต้องหาทางปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ธรรมดาธรรมชาติ "เศรษฐกิจพอเพียง" อย่างเคร่งครัด

มิฉะนั้นก็จะไม่สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ เพราะปรัชญานี้ช่วยให้เรารู้จักประมาณตน ทำให้เรารู้แนว รู้ทางสงบของชีวิต อย่างน้อยก็รู้ว่าเราเกิดมาแบบเปล่าเปลือย ถึงเวลาตายก็เอาอะไรไปไม่ได้

มะกาที่อดีตเคยเป็นอันดับหนึ่งของโลก แต่ด้วยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ไม่เข้าใครออกใคร เราจะเห็นว่าพลเมืองของจีนและอินเดียมีโอกาสไปไกลกว่ามะกา เพราะคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วนักเทคโนโลยีของสองชาตินี้มีมากกว่ามะกา อดีตที่ผ่านมาทำให้เราเห็นสัจธรรมข้อนี้ชัดแจ้งขึ้น เช่น มะกาจะมีความหมายน้อยลง จีนและอินเดียจะมีความหมาย มากขึ้น แต่ก็จะหมดความหมายในระยะสั้น เพราะต่างแย่งกันทำมาหากินมากกว่าประเทศอื่น

มนุษย์เกิดมาต่างมีทุกข์ ขอโทษที...ผมเห็นจะต้องชมผู้มีอำนาจของจีนที่ห้ามคนจีนมีลูกเกินหนึ่งคน

ทุกเดือน หรือเกือบทุกสัปดาห์ น.ส.พ. ในมะกาจะลงข่าวบริษัทยักษ์นั้นยักษ์นี้ ห้างนั้นห้างนี้มีรายได้เท่าไร มีผลกำไรเท่าไร ซึ่งที่ผ่านๆ ก็มักจะมีรายได้ และ ผลกำไร น่าพอใจ ต่างก็พยากรณ์ว่า เดือนต่อๆ ไปจะขายสินค้าได้ดีและจะได้กำไรมากขึ้นอีก

แต่พักหลังนี้ หรือไม่น้อยกว่า 2 ปีที่ผ่านไป รายงานการค้าขายกลับมียอดขายลดลง มันลดลงเกือบทุกสินค้า ดูพวกบ้านแล้วกัน ราคามันตกลงเหลือเกือบเท่าเมื่อปี 2002 แล้ว เช่น บ้านขนาดกลาง 3 ห้องนอน เมื่อปี 2002 ราคาหลังละ 180,000 - 200,000 เหรียญ แต่ไม่มีคนซื้อ รัฐบาลมะกาจึงหาทางให้คนซื้อด้วยการให้แบงก์ปล่อยเงินกู้ โดยเอาเปอร์เซ็นต์กู้ต่ำ ก็ได้ผลดีชั่วคราว แต่ผลร้ายก็ตามมา เพราะทำให้บ้านราคาแพงกว่าปกติหลายเท่า ทำให้ผู้ซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไรขายบ้านไม่ได้ ถูกแบงก์ยึดบ้าน ทั่วมะกากว่า 2 ล้านหลัง สินค้าสำคัญอีกชนิดหนึ่งที่ทำให้มะกาเก็บภาษีได้มากก็คือ รถยนต์ ประมาณสิบปีที่ผ่านมา รถยนต์ใหม่ในมะกาขายได้ปีละ19 ล้านคัน พอปี 2008 คาดว่าจะขายได้ประมาณ 14 ล้านคันเท่านั้น

บ้านและรถยนต์เป็นสินค้าสำคัญสำหรับมะกันหรือคนทั่วโลก ถ้ายอดขายลดลงรัฐบาลก็ขาดรายได้จากภาษีจำนวนมหึมา เพราะเกี่ยวข้องถึงสินค้าอื่นๆ ที่จะขายไม่ได้ มะกาก็ต้องขาดรายได้จากภาษีเพิ่มขึ้น ในที่สุดก็ต้องปลดคนรัฐบาลออก เหมือนบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่ต้องปลดคนงานออก...จำยอมเจ๊งด้วยกัน

แต่คนเรานั้นไม่มีสิทธิอับจนเพราะต้องมีชีวิตอยู่ ถ้าตายไปแล้วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อสินค้าขายไม่ได้ก็ต้องหยุดผลิตแล้ว มองหาธุรกิจอื่นที่น่าจะทำเงินให้คนไม่ยอมอับจน คิดโน่นมองนี่ในที่สุดก็มักจะมอง ออกว่า น่าจะต้องทำธุรกิจนี้ หรืออย่างน้อยน่าจะลองดู

 

เขามองว่าธุรกิจแฟรนไชส์มักจะได้รับความนิยม ทั้งจากผู้มีเงินลงทุนและลูกค้าที่ต้องการเข้าไปซื้อสินค้า เพราะไม่เสียเวลาเข้าคิวและเสียเงินมากนัก มันดีและเหมาะสำหรับคนที่ต้องการสินค้าจำเป็นต้องใช้ เหมาะสำหรับเจ้าของร้านแฟรนไชส์ที่จะรับเงินเร็ว ปล่อยสินค้าเร็ว (และเติมสินค้าเร็ว) แต่มิใช่ว่าจะดีทุกแฟรนไชส์ อย่างเช่น ร้านอาหารพวกพิซซ่าต่างๆ และทั่วๆไป (ในตลาดมะกา) เช่น แมคโดนัลด์ เบอร์เกอร์ คิง ร้านอาหารขนาดกลาง เช่น เวนดี้, เดนนี่, ไก่ย่างเคเอฟซี, ทาโก้เบลล์ ฯลฯ ที่เปิดกันจนล้นคอหอย ทุกซอยทุกถนนแล้ว ไม่น่าจะเปิดเพิ่มอีกแล้ว งั้นเราทำไมไม่มองหาแฟรนไชส์อื่นที่มีอนาคต ใช้เงินลงทุนน้อย สินค้าอยู่ในความต้องการของคน ราคาไม่แพง เช่น 15-20-40 เหรียญ หรือมากน้อยกว่านี้ ไม่กี่เหรียญ

 

FRANdata สถานวิเคราะห์วิจัยเรื่องแฟรนไชส์เผยออกมาเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2008 ว่า ช่วง 9 เดือนแรกของปี 2008 มีการซื้อแฟรนไชส์ต่างๆ 272 แห่ง เทียบกับเวลาเดียวกันของปี 2007 ที่มี 216 แห่ง ทำให้แฟรนไชส์ขนาดกลางในมะกามีเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 3,000 แห่ง

International Franchise Associa tion (IFA) วิเคราะห์ว่าธุรกิจแฟรนไชส์ขนาดเล็กมีการซื้อขายเพิ่มขึ้นน้อยคือเพียง 5 เปอร์เซ็นต์ (ผมมีความเห็นว่า เพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์มีความหมายมากครับ แฟรนไชส์ขนาดเล็กเหมาะสำหรับ สถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำในขณะนี้และน่าจะมีผู้ต้องการเปิดเพิ่มขึ้นกว่าขนาดกลางในวันข้างหน้า)

ความได้เปรียบของแฟรนไชส์อยู่ที่ชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักกันทั่วมะกานานหลายสิบปี อยู่ที่ไหน อยู่ที่รัฐไหน อยู่ที่ประเทศใดก็ขายได้ขายดี ดูแฟรนไชส์ ร้านอาหารขนาดกลางชื่อ Wendy (หรือในชื่อใหม่ Wendy"s/Arby"s Group in Atlanta) ที่ซื้อร้านอาร์บีที่เป็นคู่แข่งกันมานาน เมื่อรวมกับร้านเวนดี้ก็จะมีทั้งหมดประมาณ 10,000 แห่ง ใหญ่เป็นอันดับ 3 มีรายได้ปีละ 12.5 พันล้านเหรียญ

ส่วนอันดับ 1 และ 2 คือแมคโดนัลด์ และยัม แบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแมคโดนัลด์มีร้านอยู่ในจีนเป็นพันแห่ง การเปิดร้านอาหารในจีนค่อนข้างง่ายและคนจีนก็ชอบกินด้วย

ยัม แบรนด์ ที่ครองอันดับ 2 มีร้านอาหารสำคัญ คือ พิซซ่า ฮัท, ทาโก้ เบลล์ และไก่ย่างเคเอฟซี มีร้านในจีนจำนวนมากเช่นกัน เผยว่า 9 เดือนแรกปี 2008 กำไรเพิ่มขึ้น 4.4 เปอร์เซ็นต์ ยัม แบรนด์ตั้งเป้าตลาดจีนว่าจะยิ่งใหญ่ขึ้นและมีเปิดเพิ่มมากขึ้นๆ

ไม่ต้องพูดถึงยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของมะกาและโลกคือแมคโดนัลด์ ซึ่งเข้าไปเปิดตลาดจนเป็นที่รู้จักนักกินจีนทุกรุ่นเกือบทศวรรษ ทั้งแมคโดนัลด์และยัม แบรนด์ มีรายได้ปีละเท่าไร ได้กำไรปีละเท่าไร ไม่มีรายงานให้เห็นครับ

ธุรกิจแฟรนไชส์ขนาดกลางและย่อมจะเปิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในมะกา จีนและอินเดีย ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าได้ผลดี ธุรกิจแฟรนไชส์ขนาดย่อมในมะกา เช่น รับจ้างทาสี ตัดผม บริการอาบน้ำและเสริมสวยสุนัขถึงบ้านที่กำลังเพิ่มความฮิตทุกเดือนและค่าแฟรนไชส์ไม่แพง ซึ่งจะหาโอกาสเอารายละเอียดต่างๆ มาให้ดูครั้งต่อไป

ระบบแฟรนไชส์ของมะกากำลังหาทางแก้ไข เพื่อความยุติธรรมของเจ้าของแฟรนไชส์และลูกแฟรนไชส์โดย FTC (Federal Trade Commission) ถึงจำนวนเงินลงทุน ค่าเปอร์เซ็นต์ที่ต้องจ่ายให้เจ้าของแฟรนไชส์ทุกเดือนว่าจะลดลงหรือเพิ่ม รวมทั้งส่วนผสม เช่น พวกสารที่ทำให้อ้วนว่าจะมีได้กี่เปอร์เซ็นต์ ฯลฯ กฎเกณฑ์ต่างๆ เหล่านี้ต้องใช้เวลาเกือบสิบปีจึงสำเร็จ และจะใช้ประมาณกลางปี 2009

ระเบียบแฟรนไชส์ใหม่นี้คือ Amended Franchise Rule มีความหนาประมาณ 400 หน้า














อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
5,493
PLAY Q by CST bright u..
1,065
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
940
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
931
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
783
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
755
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด