|
|
|
|
5 พฤศจิกายน 2558 |
เอสแอนด์พีรุก ต่อยอด ร้านอาหาร เปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่-บุกออนไลน์-โหมสาขาตปท.
ยักษ์ใหญ่ร้านอาหาร "เอสแอนด์พี" ปรับสปีดธุรกิจ เปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ "เอสแอนด์พี คอนเน็กชั่น" ขยายฐานสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ ชูจุดขาย "อาหาร+เบเกอรี่+ร้านกาแฟ" เดินหน้าช่องทางอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง เสริมยอดขายช่องทางค้าปลีก 10% หวังสร้างโอกาสทางการตลาดทั้งใน-ต่างประเทศ ปูพรมเปิดสาขาใหม่ในประเทศกลุ่ม CLMV และร้านอาหารไทยในยุโรป
ทั้งเหตุผลเนื่องมาจากภาวะด้านการแข่งขัน ความต้องการเปิดตลาดสู่ผู้บริโภคกลุ่มใหม่ ๆ ตลอดจนสภาพเศรษฐกิจ ผลักดันให้ "เอสแอนด์พี" ยักษ์ใหญ่ที่ถึงแม้จะเป็นผู้บุกเบิกตลาดร้านอาหารของไทยมาอย่างยาวนานต้องสร้างโมเดลร้านรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมา เพื่อนำเสนอจุดแข็งในเรื่อง "เบเกอรี่และเค้ก" ของตัวเอง
นางเกษสุดา ไรวา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหารและเบเกอรี่ "เอสแอนด์พี" กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปลายปีนี้จะเปิดตัวร้านเอสแอนด์พีคอนเซ็ปต์ใหม่ ภายใต้ชื่อเอสแอนด์พี คอนเน็กชั่น (S&P Connection) พื้นที่ร้าน 600 ตร.ม. ที่ตึกอิตัลไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งลงทุนสูงกว่าร้านปกติ 20-30% ที่ภายในร้านจะมีอาหาร เบเกอรี่ กาแฟบลูคัพ พร้อมทั้งเค้กสตูดิโอที่เป็นการนำเค้กแบบต่าง ๆของเอสแอนด์พีมาจัดแสดงรวมกันและมีพื้นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ กิจกรรมทำเค้ก ฯลฯ
หากได้รับการตอบรับที่ดีจะเปิดร้านคอนเซ็ปต์นี้เพิ่มในอนาคต ขณะที่ภายในสิ้นปีจะเปิดสาขาปกติเพิ่มอีก 10 สาขา จากปัจจุบันที่มีกว่า 440 สาขา โดยจะเน้นการเปิดในโรงพยาบาลมากขึ้น ส่วนปีหน้าจะเปิดขายแฟรนไชส์ให้ขยายสาขาได้เร็วขึ้นตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมระบบ การวางเงื่อนไขแฟรนไชส์
ผู้บริหารเอสแอนด์พีชี้ว่า ด้วยสภาพกำลังซื้อที่ชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้ผู้บริโภคลดการจับจ่าย ประกอบกับมีร้านอาหารเปิดใหม่เพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารมีการแข่งขันรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องโปรโมชั่นราคา เพื่อรับมือกับสภาวะดังกล่าว จากนี้ไปบริษัทจึงจะเร่งสร้างการรับรู้แบรนด์ ปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้น
"เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ที่ผ่านมาได้ลงทุนกว่า 185 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จังหวัดลำพูน เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตสินค้ากลุ่มเบเกอรี่ และคาดว่าจะเริ่มการผลิตได้ก่อนสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีโรงงานที่เชียงใหม่, สุขุมวิท 62, บางนา, ลาดกระบัง และภูเก็ต รวมทั้งจะมีการพัฒนาสินค้าให้ทันสมัย สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีแผนจะจ้างผลิตสินค้าใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ให้มากขึ้น"
นางเกษสุดากล่าวว่า ปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญกับช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้น เพิ่มโอกาสการขายสินค้าทั้งในและต่างประเทศ จากปัจจุบันที่มีรายได้กว่า 10% จากการขายสินค้า อาทิ อาหารพร้อมรับประทาน ขนมไหว้พระจันทร์ คุกกี้ ไส้กรอก ฯลฯ ในพื้นที่ค้าปลีก และจะเน้นการสื่อสารการตลาดผ่านสื่อออนไลน์เพื่อสื่อสารกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ และทำโปรโมชั่นราคา เพื่อให้สอดรับกับสภาพกำลังซื้อในปัจจุบัน อาทิ ร่วมกับเอ็นโซโก้ให้ส่วนลดกว่า 30% ทำลอยัลตี้โปรแกรมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความถี่ในการใช้บริการ และปลายเดือนพฤศจิกายนนี้จะจัดงานแฟร์ประจำปีซึ่งอยู่ระหว่างหาพื้นที่ เพื่อโชว์เค้กปีใหม่และออกบูทร้านอาหารและสินค้าในเครือเอสแอนด์พี ซึ่งงานนี้จะมีร้านสุดา ร้านอาหารของเอสแอนด์พีที่เปิดให้บริการที่อังกฤษมาออกบูทด้วย
สำหรับธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันมีร้านทงคัตสึ (หมูชุบแป้งทอด) ไมเซน ที่ได้สิทธิ์แฟรนไชส์จากญี่ปุ่น 8 สาขา และร้านอาหารฟูลคอร์ส อุเมะโนะฮานะ ที่ร่วมทุนกับญี่ปุ่น 1 สาขา แม้ตลาดนี้จะมีการแข่งขันสูง แต่ร้านอาหารญี่ปุ่นยังมีศักยภาพที่จะเติบโต จึงมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมทั้งพัฒนาสินค้า อาทิ แซนด์วิช ข้าวกล่องเบนโตะ ฯลฯ เพื่อนำไปวางจำหน่ายในช่องทางค้าปลีก เพิ่มรายได้จากธุรกิจอาหารญี่ปุ่นอีกทางหนึ่ง
ขณะที่ทิศทางของร้านอาหารแบรนด์อื่น ๆ ในกลุ่ม อาทิ วานิลลา ที่มี 4 สาขา จะมีคอนเซ็ปต์หลากหลายตามเทรนด์ปัจจุบัน เพื่อได้เปิดเพิ่ม 1 สาขาที่เอ็มควอเทียร์ภายใต้ชื่อวานิลลา คาเฟทีเรีย ส่วนกาแฟบลูคัพที่มีอยู่ 2 สาขา จากนี้จะเน้นขยายแยกออกจากร้านเอสแอนด์พี หลังจากที่แบรนด์มีความแข็งแรงมากขึ้น นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาร้านอาหารแบรนด์ใหม่ และมองโอกาสจะนำแบรนด์จากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม
ส่วนการขยายธุรกิจในต่างประเทศ ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 15% ของยอดขายรวม ปีหน้ามี 2 แนวทางหลัก ๆ คือ ใช้ร้านเอสแอนด์พีเป็นแบรนด์หลักในการขยายตลาดในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ตั้งเป้าจะเปิด 10 สาขาใน 4-5 ปี โดยไตรมาส 1 ปี 2559 จะเปิดในกัมพูชา 2 สาขา จากเดิมที่มี 1 สาขาที่อิออนมอลล์ ส่วนเมียนมา อยู่ระหว่างการศึกษาซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งไปลงทุนเอง ร่วมทุน หรือการให้สิทธิ์แฟรนไชส์ ควบคู่กันนี้ก็จะใช้ร้านภัทรา, สุดา เป็นแบรนด์หลักในการรุกตลาดในยุโรป หลังร่วมทุนกับไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล มีนโยบายจะเร่งขยายสาขาให้เร็วขึ้น โดยตั้งเป้าจะเปิดในอังกฤษให้ครบ 15-20 สาขาภายใน 5 ปี จากปัจจุบันที่มีภัทราอยู่ 4 สาขา สุดา 1 สาขา และกำลังจะเปิดภัทราสาขาที่ 5 ในเดือนพฤศจิกายนนี้
รวมทั้งมองโอกาสขยายภัทราในประเทศอื่น ๆ ที่มีสาขาอยู่เดิม อาทิ จีน สิงคโปร์ ออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ และเมื่อเร็ว ๆ นี้เพิ่งจัดตั้งบริษัท เอส แอนด์ พี ดีเวลลอปเมนท์ โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ในต่างประเทศอีกทางหนึ่ง
"เอสแอนด์พียังเติบโตได้ 5-7% จากเป้าหมาย 12-13% เชื่อว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัวได้ในช่วง 12-18 เดือนต่อจากนี้ หากไม่มีปัจจัยลบจากเหตุการณ์เศรษฐกิจโลกหรือปัญหาทางการเมืองเพิ่มเติม"
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|
|
