|
|
5 กันยายน 2558 |
ฟาร์แมกซ์ ขยายธุรกิจร้านยา 3 ปี 20 สาขาบุกคอมมิวนิตี้มอลล์
ร้านยา "ฟาร์แมกซ์" สปีดเพิ่มเปิดสาขา มุ่งเกาะคอมมิวนิตี้มอลล์ ตั้งเป้า 3 ปี มี 20 สาขา มุ่งสร้างแบรนด์ผ่านสื่อโซเชียลและทำกิจกรรมนอกร้าน ชูจุดแข็งขายปลีก-ส่ง งัดบัตรสมาชิกเพิ่มลูกค้าประจำ วางแผนในอนาคตเล็งขายแฟรนไชส์
ภก.ธัชพล ชลวัฒนสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟาร์แมกซ์ รีเทล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านยา "ฟาร์แมกซ์" เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันตลาดร้านขายยายังมีศักยภาพจะเติบโตได้อีก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากยอดขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอางที่เติบโตจากช่องทางนี้เพิ่มขึ้น
รวมถึงนิยมซื้อยาจากร้านขายยากินเองเมื่อมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย เนื่องจากไม่ต้องการรอคิวที่โรงพยาบาล บวกกับประชากรผู้สูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวกับสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในอนาคต จึงมีผู้ประกอบการรายใหม่โดยเฉพาะเชนสโตร์ที่กระโดดเข้ามาในตลาดมากขึ้น ส่งผลให้มีการแข่งขันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับร้านขายยาฟาร์แมกซ์ ซึ่งอยู่ในตลาดมา 8 ปี หลังจากที่ได้ทุ่มงบฯในการพัฒนาระบบการบริหารการจัดการภายในเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสาขาเพื่ออำนวยความสะดวกลูกค้าสมาชิก จากนี้ไปมีนโยบายจะเปิดสาขาเพิ่มเฉลี่ย 3-5 สาขาต่อปี ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 100-200 ตร.ม. งบฯลงทุนเฉลี่ย 5-10 ล้านบาท
โดยจะมุ่งขยายไปตามคอมมิวนิตี้มอลล์ ตั้งแต่ต้นปีเปิดไปแล้ว 2 สาขา คือ สาขาเดอะ ไนน์ พระราม 9 และเดอะ แจ๊ส วังหิน จากปัจจุบันมี 7 สาขา และจะเปิดเพิ่มอีก 2-3 สาขา อาทิ เดอะ แจ๊ส รามอินทรา, ราชพฤกษ์
ส่วนปีหน้าจะเปิดที่สวนเพลิน คอมมิวนิตี้มอลล์ ย่านพระราม 4 และเดอะ แจ๊ส ศรีนครินทร์
"พื้นที่เขตกรุงเทพฯน่าจะขยายได้เต็มที่ 20 สาขาใน 3 ปี จากนั้นจะพิจารณาขยายออกไปหัวเมืองต่างจังหวัดและขายแฟรนไชส์ ตอนนี้ในร้านมีสินค้าประมาณ 6,000 รายการ เป็นยามากกว่า 4,000 รายการ คิดเป็นสัดส่วน 65% อีก 35% เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเวชสำอาง"
ภก.ธัชพลกล่าวว่า ควบคู่กับการสร้างแบรนด์ผ่านสื่อโซเชียลและทำกิจกรรมนอกร้าน ทำให้คนรู้จักและเข้ามาใช้บริการมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบบัตรสมาชิกเมื่อซื้อครบ 1,500 บาท ซึ่งสมาชิกจะได้รับสิทธิประโยชน์ในแง่ของส่วนลด ซึ่งเดือนสิงหาคมจะเริ่มเปิดรับสมาชิกใหม่อีกครั้งและในอนาคตมีแผนจะให้สมัครสมาชิกฟรีสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ากลุ่มนี้ ปัจจุบันมีฐานสมาชิก 5,000 ราย แอ็กทีฟ 3,000-4,000 ราย และมีจุดแข็งในแง่ของการเป็นร้านขายยาที่มีให้บริการทั้งในรูปของการค้าปลีกและขายส่ง 30%
ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลจัดซื้อ จัดเก็บสินค้าเพื่อให้การกระจายสินค้าเข้าร้านมีประสิทธิภาพ มีการเก็บประวัติลูกค้าเชื่อมโยงข้อมูลไปทุกสาขา อำนวยความสะดวกให้สมาชิก ซึ่งช่วยลดปัญหาสต๊อกสินค้าและลดต้นทุนได้ดี ปัจจุบันมีศูนย์กระจายสินค้า (ดีซี) 1 แห่งที่รามอินทรา พื้นที่มากกว่า 1,000 ตร.ม. และหน่วยรถจัดส่ง 3 คันที่มีระบบควบคุมอุณหภูมิ หากมีการขยายสาขาไปต่างจังหวัดมีแผนจะลงทุนดีซีและหน่วยรถเพิ่ม
"จากแนวทางการรุกตลาดด้วยการขยายสาขาเพิ่มการสร้างแบรนด์ การสร้างฐานลูกค้าสมาชิกเพิ่มดังกล่าว ปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตไว้เป็นดับเบิลดิจิต" ภก.ธัชพลกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันตลาดร้านขายยาปี 2557 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2.92 หมื่นล้านบาท โตลดลงจาก 1.35% จากปี 2556 ที่มีมูลค่า 2.96 หมื่นล้านบาท จากปกติโตปีละ 5% ขณะที่ตลาดยาโดยรวม (รวมช่องทางร้านยาและโรงพยาบาล) มีมูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาท
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|