|
|
|
|
21 มิถุนายน 2558 |
ฟาสต์ฟู้ด "มะกัน" ติดหล่ม "ปาป้าจอห์น" เบนเข็ม...โตต่างประเทศ
การหดตัวต่อเนื่องของตลาดฟาสต์ฟู้ดอเมริกันได้บีบให้บรรดาแบรนด์อาหารจานด่วน ต้องหันมาขยายสาขาหารายได้จากตลาดโลกมากขึ้น ล่าสุด "ปาป้าจอห์น พิซซ่า" (Papa John"s Pizza) แบรนด์พิซซ่าสัญชาติอเมริกันอายุกว่า 31 ปี และมีสาขารวมกว่า 4,600 สาขาทั่วโลก เป็นอันดับ 3 ด้านจำนวนสาขารองจากพิซซ่า ฮัทที่มี 1.36 หมื่นสาขา และ 1.17 หมื่นสาขาของโดมิโน พิซซ่า ได้ประกาศแผนธุรกิจประจำปี 2015 ด้วยการเน้นรุกตลาดต่างประเทศให้หนักขึ้นด้วยเช่นกัน
สำนักข่าว "อินเวสเตอร์ บิสซิเนส เดลี่" รายงานว่า บริษัทปาป้าจอห์น อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของแบรนด์ปาป้าจอห์น พิซซ่า ได้ประกาศแผนการขยายสาขาเพิ่มอีก 220-250 สาขาในปี 2015 นี้ ซึ่งเกือบทั้งหมดจะอยู่นอกทวีปอเมริกาเหนือ โดยจะเน้นประเทศบราซิล ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้เป็นหลัก จะทำให้บริษัทมีสาขานอกสหรัฐเพิ่มจาก 1,358 สาขา เป็นกว่า 1,600 สาขา หรือคิดเป็นสัดส่วน 35% ของสาขาทั้งหมด
ไม่เพียงแค่ประเทศในอเมริกาใต้ ยุโรป หรือแอฟริกาเท่านั้น จีนเป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีศักยภาพสำหรับฟาสต์ฟู้ด อเมริกัน ซึ่งปาป้าจอห์นฯมีร้านพิซซ่าในจีน 229 สาขา ทั้งในรูปแบบแฟรนไชส์และบริษัทบริหารเอง แต่ที่ผ่านมากลับมีผลประกอบการไม่ดีนัก โดยเมื่อต้นปี "สตีฟ ริชชี่" ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทยอมรับว่า ธุรกิจของบริษัทในจีนยังคงต้องปรับปรุงอีกมาก เพื่อหากลยุทธ์ที่เหมาะสมกับตลาดที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดทางบริษัทยืนยันว่า ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2015 ธุรกิจในจีนเริ่มมองเห็นการเติบโตบ้างแล้ว นอกจากการขยายสาขาเพื่อเพิ่มรายได้จากตลาดต่างประเทศแล้วการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นอีกหนึ่งปัจจัยการเติบโต เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาบริษัทได้จับมือกับ "Play Share" เพื่อเปิดบริการให้ลูกค้าชาวอเมริกันสามารถแชร์ค่าพิซซ่าได้ตั้งแต่ตอนสั่งซื้อ ซึ่งเป็นการรับมือกับเทรนด์การสั่งอาหารออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมทั้งในสหรัฐและทั่วโลก
"มาร์ค สมิท" นักวิเคราะห์จากเฟลท์แอนด์โค (Feltl & Co.) กล่าวว่า ออนไลน์มีผลอย่างมากต่อตลาดฟาสต์ฟู้ดสหรัฐ ด้วยยอดสั่งอาหารทางออนไลน์ทั้งเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของทุกแบรนด์ต่างมีสัดส่วนเกินกว่า 50% แล้ว ได้ทำให้แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดรายย่อยที่มีงบฯสำหรับวางระบบออนไลน์ต้องยอมถอนตัวออกไป ส่วนแบ่งตลาดที่ว่างลงจึงไหลไปยังผู้เล่นรายใหญ่
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ปาป้าจอห์นฯ มีรายได้จากตลาดต่างประเทศ 25.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.6% จากปีที่แล้ว ในขณะที่มีรายได้รวม 432.3 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตมากกว่าเล็กน้อยที่ 7.7% ด้านยอดขายร้านเดียวกันของสาขาต่างประเทศเพิ่มขึ้น 7.7% ในขณะที่ร้านในสหรัฐโตเพียง 6.5%
ยอดการเติบโตในไตรมาสแรกนี้ ทำให้บริษัทปรับเป้าสำหรับปี 2015 เป็นการเติบโตของยอดขายร้านเดิมเพิ่มขึ้น 3-5% จากเดิมตั้งไว้ที่ 2-4%
แม้จะมีการขยายสาขาอย่างรวดเร็ว หรือนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้จนยอดขายเติบโตขึ้น แต่ "จอห์น สแนชเตอร์" ผู้ก่อตั้งซึ่งควบตำแหน่งประธานและซีอีโอของบริษัทปาป้าจอห์น อินเตอร์เนชั่นแนลด้วยยังยืนยันว่า คุณภาพอาหารคือปัจจัยหลักที่ดึงดูดลูกค้าเอาไว้กับแบรนด์ โดยเฉพาะลูกค้าวัยรุ่นที่สัมผัสได้ถึงความแตกต่างของวัตถุดิบเมื่อเทียบกับพิซซ่าแบรนด์อื่น ๆ
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
