|
|
|
|
15 เมษายน 2558 |
กาแฟดิโอโร่ ลุยสาขาบิ๊กไซซ์ ส่งเบเกอรี่-ฟู้ดเติมเต็มบริการ
ร้านกาแฟดิโอโร่จับมือเพิ่มพันธมิตรสถานีบริการน้ำมัน เดินหน้าลุยขยาย 15-20 สาขา เผยเน้นเปิดสาขาไซซ์ใหญ่ เพิ่มพื้นที่นั่ง-พัฒนาเบเกอรี่-โฟรเซ่นฟู้ด เติมเต็มบริการ รับมือร้านกาแฟแข่งดุ เตรียมส่งสมูทตี้พรีเมี่ยมบรรจุขวดรับหน้าร้อน เล็งส่งบุกคอนวีเนี่ยนสโตร์ ซูเปอร์มาร์เก็ต
นายวีระเดช สมบูรณ์เวชชการ ประธานบริหาร บริษัท วีพีพี โปรเกรสซีฟ จำกัด และบริษัท โกลเด้น ครีม จำกัด ผู้บริหารร้านกาแฟ "คาเฟ ดิโอโร่" กล่าวว่า ปีนี้ดิโอโร่มีความพร้อมในการขยายสาขามากขึ้น หลังจากที่โรงงานเบเกอรี่และศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่บนพื้นที่ 5,000 ตารางเมตรที่นิคมอุตสาหกรรมสินสาครมูลค่าการลงทุน 200 ล้านบาทแล้วเสร็จในปีที่ผ่านมา และจะสามารถรองรับการขยายสาขาได้ถึง 300 สาขา โดยปีนี้จะเปิดสาขาใหม่อีก 15-20 สาขา เป็นการลงทุนของบริษัทเอง 15 สาขา ที่เหลือเป็นแฟรนไชส์
นายวีระเดชกล่าวว่า บริษัทจะยังคงเน้นการขยายสาขาด้วยตัวเอง ส่วนในพื้นที่ที่บริษัทไม่สามารถดูแลได้ทั่วถึง ก็จะพิจารณาให้สิทธิ์แฟรนไชส์ที่มีความพร้อมและมีธุรกิจต่อเนื่อง อย่างเจ้าของสถานีบริการน้ำมันเป็นผู้ดูแล เริ่มเปิดแฟรนไชส์มา 2-3 ปีแล้วแต่ไม่เน้นมากนัก ปัจจุบันมีแฟรนไชส์ดิโอโร่ประมาณ 9 สาขา
จากทั้งหมด 110 สาขา ส่วนร้านกาแฟสดแบรนด์ "เฟิร์สท์ คัพ คอฟฟี่" ที่รองรับกลุ่มผู้สนใจธุรกิจร้านกาแฟสดที่การลงทุนไม่สูง ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 35-40 สาขา เป็นร้านแฟรนไชส์ทั้งหมด
โมเดลร้านดิโอโร่ต่อจากนี้จะเน้นช็อปใหญ่ที่มีพื้นที่นั่งใช้บริการในร้านมากขึ้นด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลายในคอนเซ็ปต์ควอลิตี้โมเมนต์เช่น สาขาภูเก็ตที่มีพื้นที่เกือบ 200 ตารางเมตร ที่จะใช้เป็นต้นแบบ ส่วนทำเลหลัก การขยายสาขายังคงเป็นสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งมีพันธมิตรที่เปิดกว้างขึ้น ทั้งเชลล์ เอสโซ่ คาลเท็กซ์ รวมทั้งการเปิดสาขาในโรงพยาบาลที่จะมีมากขึ้น
"ส่วนโมเดลที่จะขยับขยายร้านให้เข้าถึงชุมชนมากขึ้น แม้จะมีปัญหาเรื่องการหาพื้นที่ที่เหมาะสม แต่ก็ยังอยู่ในแผนที่จะขยับขยายอย่างต่อเนื่อง และมองโอกาสการขยายสาขาสแตนด์อะโลนในพื้นที่ชุมชน 4 มุมเมือง"
นายวีระเดชกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันตลาดร้านกาแฟมีการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นจากทั้งแบรนด์ต่างประเทศและโลคอลแบรนด์ ที่มีการเปิดให้บริการทั่วทุกที่ทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน สถานีบริการน้ำมัน ฯลฯ
ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น สำหรับดิโอโร่จะชูจุดต่างด้วยการเป็นร้านกาแฟสไตล์อิตาเลียนที่ใช้วัตถุดิบในไทยทั้งหมด และจะพยายามเติมเต็มโปรดักต์ในร้านด้วยการพัฒนาเครื่องดื่มอื่น ๆ นอกเหนือจากกาแฟ อาทิ สมูทตี้ น้ำผลไม้ และเบเกอรี่
รวมถึงการเพิ่มอาหารโฟรเซ่นฟู้ดเพื่อให้บริการในร้าน ที่ปัจจุบันมีให้บริการใน 10 สาขา โดยเป็นสาขาในโรงพยาบาลกว่าครึ่งหนึ่ง เริ่มทดสอบตลาดมา 6-7 เดือน จะขยายสาขาให้บริการเพิ่มเติม อาทิ ในพื้นที่ชุมชนที่มีทราฟฟิกสูง อยู่ระหว่างการพัฒนาเมนูเพิ่มเติมจากปัจจุบันที่มีอยู่ 6 เมนู เจาะกลุ่มครอบครัวยุคใหม่ที่ไม่มีเวลาทำอาหาร
ล่าสุด เตรียมจะวางจำหน่ายเครื่องดื่มสมูทตี้น้ำผลไม้รสชาติไทย ๆ ระดับพรีเมี่ยม อาทิ ฝรั่ง มังคุด เสาวรส มะนาว บรรจุขวดแบรนด์ดิโอโร่ในช่วงเดือนเมษายนนี้ เบื้องต้นวางจำหน่ายในร้านดิโอโร่ทุกสาขา และอาจขยายช่องทางจำหน่ายไปยังซูเปอร์มาร์เก็ตในอนาคต
สำหรับความพร้อมด้านวัตถุดิบกาแฟ นายวีระเดชกล่าวว่า ได้สนับสนุนการปลูกกาแฟในแม่แจ่มและขุนยวม เพิ่มเติมจากอมก๋อยที่มีพื้นที่ปลูกกว่า 500 ไร่ ซึ่งทำให้มีผลผลิตเมล็ดกาแฟดิบไม่น้อยกว่า 500 ตัน เพียงพอสำหรับการใช้ในประเทศทั้งในแบรนด์ของบริษัทและกลุ่มลูกค้าโรงแรม ภัตตาคาร ร้านกาแฟ และจะโฟกัสทำตลาดในประเทศเป็นหลัก
"ปีที่ผ่านมา เราเติบโตเฉลี่ย 4% จากเป้าหมายที่วางไว้ 12% แต่เป็นระดับที่พอใจ ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปีนี้คาดว่าบริษัทจะมีการเติบโตประมาณ 10% จากสาขาใหม่ ผลิตภัณฑ์ใหม่ และกิจกรรมที่จะทำต่อเนื่องตลอดทั้งปี"
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
|
|
