2.8K
18 มีนาคม 2558
บอดี้เชพ ดิ้นหนีตลาดลดอ้วนซึม หันนำเข้าสกินแคร์บุกเคาน์เตอร์




บอดี้เชพแก้เกมธุรกิจรีดไขมันชะลอตัว เบรกเปิดสาขาใหม่ หันโฟกัสกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ-ความงามขยายตลาดแมสเต็มสูบ อัดงบฯโฆษณาโปรโมตกาแฟลดน้ำหนัก นำเข้าสกินแคร์บุกเคาน์เตอร์แบรนด์ เล็งขายแฟรนไชส์บอดี้เชพไลฟ์สไตล์ช็อปเพิ่มช่องทางขายออนไลน์-ต่างประเทศ

นายธีรพิชญ์ สืบวงศ์ลี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงผ่านช่องทางออนไลน์มา 1 ปี ปลายปีที่ผ่านมาจึงได้นำผลิตภัณฑ์ความงามกลุ่มสกินแคร์แบรนด์ "ทรีโลจี" จากนิวซีแลนด์เข้าไปวางขายในเคาน์เตอร์แบรนด์ ปัจจุบันมี 2 แห่งอยู่ที่เอ็มโพเรียม และเดอะมอลล์ บางกะปิ คาดว่าภายในปีนี้จะเปิดอีก 2 แห่งในเครือเดอะมอลล์

ถือเป็นอีกกลุ่มธุรกิจ ซึ่งในอนาคตคาดหวังว่าจะนำเข้าแบรนด์ใหม่ ๆ มาทำตลาดเพิ่มเติมผ่านช่องทางเคาน์เตอร์แบรนด์ โดยดีลจบแล้ว 1 แบรนด์ และอยู่ระหว่างเจรจาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของตลาด สภาพเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บริษัทปรับแผนหันมาเพิ่มรายได้จากการพัฒนาแบรนด์สินค้าของตัวเองมากขึ้น ทำให้สัดส่วนรายได้กลุ่มสินค้าและบริการขยับเป็น 50 : 50 จาก 30 : 70 โดยยังคงเน้นไปที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและลดน้ำหนัก เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มีความต้องการลดน้ำหนัก แต่มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว



 
โดยสินค้าที่เพิ่งลอนช์ช่วงเดือนธันวาคมปีก่อน คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนักชื่อ ซอนบี ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม ชื่อคอลลา กลูต้าและคอลลา คาร์นิทีน จำหน่ายผ่านร้านเพื่อสุขภาพและความงาม และเตรียมเข้าไปวางขายในร้านเซเว่นฯ และเซเว่นแค็ตตาล็อก ส่วนผลิตภัณฑ์กาแฟปรุงสำเร็จชนิดผงก็เตรียมจะลอนช์สูตรใหม่จำหน่ายผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จากเดิมที่มี 2 สูตรสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย

"เราจะใช้เวลามากขึ้นกับการพัฒนาสินค้าของตัวเอง ถือเป็นอีกช่องทางสร้างรายได้เสริมจากธุรกิจลดน้ำหนักกระชับสัดส่วน ซึ่งตลาดรวมมูลค่า 2,000 ล้านบาทมีอัตราเติบโตลดลง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัว พฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ต้องการเห็นผลลัพธ์รวดเร็วจึงหันไปบริโภคสินค้าพวกกาแฟลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือออกกำลังกาย บวกกับมีผู้เล่นรายใหม่เข้ามามากขึ้น ทำให้ส่วนแบ่งตลาดถูกแชร์ออกไป"

เพื่อรองรับการขยายไลน์สินค้าความงาม ทั้งที่บริษัทพัฒนาเองและจัดจำหน่ายให้กับแบรนด์อื่น ๆ จึงได้ต่อยอดการลงทุนเปิดช็อปเรียกว่า บอดี้เชพไลฟ์สไตล์ จำหน่ายสินค้าความงาม ขณะนี้มี 6 สาขา ปัจจุบันมีสินค้า 40-50 เอสเคยู ตั้งเป้ามีสินค้า 100 เอสเคยูจะพิจารณาขายแฟรนไชส์รูปแบบของคีออสก์และช็อป

สำหรับธุรกิจสถาบันลดน้ำหนัก บริษัทชะลอลงทุนเปิดสาขาใหม่และหันมาเน้นสร้างความแข็งแกร่งให้กับสาขาที่มีอยู่ ปัจจุบันบอดี้เชพมี 18 สาขา โดยปีที่ผ่านมาได้ปิดบางสาขาที่มีทำเลใกล้กัน เพื่อลดต้นทุนบริหารจัดการ ส่วนคริสตี้ฟรองซ์ 30 สาขา อย่างไรก็ตาม ยังคงให้ความสำคัญกับสถาบันลดน้ำหนัก ด้วยการลงทุนต่อเนื่องในแง่ของการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดความต้องการเข้ามาทดลองใช้บริการ โดยเตรียมงบฯไว้ 20 ล้านบาท



ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจของบริษัทสามารถแบ่งเป็น 5 กลุ่มประกอบด้วย เซอร์วิสหรือสถาบันลดน้ำหนัก, สินค้า, ศัลยกรรม เปิดคลินิกศัลยกรรมแบรนด์บีดีเอส เมดิคลินิกมา 3 ปี มี 1 สาขาที่อาคารชินวัตร ทำจมูก ปาก ตา บริเวณใบหน้าเป็นหลัก แต่มีความสนใจจะขยายบริการให้ครบวงจร, บอดี้เชพไลฟ์สไตล์, นำเข้ากลุ่มสกินแคร์เคาน์เตอร์แบรนด์

นายธีรพิชญ์กล่าวอีกว่า การทำตลาดปีนี้จะใช้งบฯโฆษณาผลิตภัณฑ์กาแฟบอดี้เชพเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผ่านสื่อใหม่ ๆ อาทิ ดิจิทัลทีวี สื่อออนไลน์ ยูทูบ โดยจะทำออนไลน์ มาร์เก็ตติ้งให้มากขึ้น ทั้งการสื่อสารตลาดและใช้เป็นช่องทางขายสินค้า ซึ่งมีแผนจะพัฒนาอีคอมเมิร์ซของตัวเอง จากที่มีฝากขายตามเว็บไซต์ลาซาด้า ซึ่งรายได้ออนไลน์มีสัดส่วน 20-30% ของยอดขายและเติบโตทุกเดือน

ส่วนการลงทุนอื่น ๆ ปีที่แล้วเพิ่งเริ่มส่งออกไปที่จีน และกำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะเข้าไปทำตลาดเองหรือผ่านตัวแทนจำหน่ายในพม่า ลาว โดยจะเลือกบางสินค้าเข้าไปทำตลาดในแต่ละประเทศ คาดว่าการหันมาให้น้ำหนักกับกลุ่มสินค้ามากขึ้นจะช่วยสร้างการเติบโตในปีนี้ ขณะที่รายได้ปีก่อนเติบโตลดลง

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,166
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
790
“เติมพลังความรู้” กับ ..
626
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
599
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
597
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
540
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด