5.5K
26 สิงหาคม 2552

ซิงเกอร์ประเทศไทยโชว์ผลประกอบการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
 



ด้วยกำไรสุทธิสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ปี 2551 อยู่ที่ 12.9 ล้านบาท 
กำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 0.04 บาท มาอยู่ที่ 0.05 บาท สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนอย่างต่อเนื่องหลังพลิกจากเช่าซื้อจักรยานยนต์มาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

 
วันที่ 20 สิงหาคม 2551 - บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) โดยนายดาเนียล ไมเคิล ฟิลิโปเนท์ รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการ รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 ของปี 2551 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯมีผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ของปี 2551 ที่ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ของปีเดียวกัน ซึ่งบริษัทได้กลับมาสร้างผลกำไรอย่างต่อเนื่อง โดยมีกำไรสุทธิที่ 12.9 ล้านบาท สูงขึ้นจาก 10.5 ล้านบาทในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ หรือร้อยละ 23.3 และจากการขาดทุนที่สูงถึง 116.6 ล้านบาท เมื่อเทียบกับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550
 กำไรต่อหุ้นปรับตัวสูงขึ้นจากการขาดทุน 0.43 บาทต่อหุ้น ในใตรมาสที่ 2 ของปี 2550 และกำไร 0.04 บาทต่อหุ้น ณ ไตรมาสที่ 1 ปี 2551 เป็น 0.05 บาทต่อหุ้น ณ สิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ขอปีนี้


อย่างไรก็ตามบริษัทฯ มีรายได้ประจำไตรมาสลดลงจาก 697.7 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2 ของปี 2550 มาอยู่ที่ 615.3 ล้านบาท หรือลดลงเท่ากับร้อยละ 11.8 อันเป็นผลมาจากยอดขายสุทธิของสินค้าที่ลดลง สืบเนื่องมาจากยอดจำหน่ายรถจักรยานยนตร์ที่ลดลงสูงถึงร้อยละ 78.4 หรือ 94.6 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่กลับมาเน้นการให้เช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน สำหรับยอดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 7.8 หรือ 32.2 ล้านบาท แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการลดลงของรายได้จากรถจักรยานยนต์ได้
บริษัทฯ มียอดบัญชีเช่าซื่อทั้งหมด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 อยู่ที่ 211,777 บัญชี ลดลงจาก 230,957 บัญชี ณ สิ้นสุดเดือนธันวาคม 2550 ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของบัญชีที่ปิด และยึดคืนของรถจักรยานยนต์ ที่มีบัญชีเช่าซื้อเหลืออยู่เพียง 33,271 บัญชี หรือคิดเป็นร้อยละ 15.7 ของบัญชีทั้งหมด


การเก็บเงินซึ่งคำนวณมาจากจำนวนบัญชีที่รับชำระต่อจำนวนบัญชีเช่าซื้อทั้งหมด       ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 เพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 3.04 เมื่อเปรียบเทียบกับการเก็บเงิน ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550  

บริษัทได้รับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่สองของปี 2551 เป็นเงิน  53 ล้านบาท และเมื่อรวมทั้งสองไตรมาสบริษัทมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเท่ากับ 200.7 ล้านบาท
 ยอดรวมเงินกู้ทั้งหมดของบริษัทลดลง 160.9 ล้านบาท โดยเงินกู้ระยะยาวลดลง 161.7 ล้านบาท จาก 683.3 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 ลดลงเหลือเท่ากับ 521.6 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551 ในขณะที่เงินกู้ระยะสั้นเพิ่มขึ้นเพียง 0.8 ล้านบาทจาก 653.2 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2550 เพิ่มขึ้นเป็น 654.0 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2551


 “กลยุทธ์ในการตีแลกเปลี่ยนสินค้า (Trade-in) ทุกชนิด ทุกยี่ห้อ ที่บริษัทฯได้ทำการประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างท่วมท้น จนทำให้บริษัทวางแผนที่จะดำเนินการต่อไปจนถึงสิ้นปี 2551 เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับตลาดสินค้าทดแทนให้กับบริษัทฯ ได้อย่างมหาศาล

บริษัทฯ สามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจหลักจากรถจักรยานยนต์มาเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้สำเร็จ ดังจะเห็นได้จากสัดส่วนของยอดขายขั้นต้นของสินค้าไตรมาสที่ 2 ของปี 2551 ที่ประกอบด้วยยอดขายขั้นต้นของรถจักรยานยนต์ที่ลดลงเหลือเพียง 5.5% ของยอดขายขั้นต้นของสินค้าทั้งหมด


โดยนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้มีการพัฒนากระบวนการขายแบบเช่าซื้อและการปรับปรุงฐานข้อมูลลูกค้าบริษัทภายใต้การแนะนำของหัวหน้าของผู้ตรวจสอบภายในของบริษัทซิงเกอร์สำนักงานใหญ่ เพื่อทำให้ฐานข้อมูลของลูกค้าและผู้ค้ำประกันของลูกค้าเป็นปัจจุบันและครบถ้วน  ควบคู่ไปกับการพัฒนากระบวนการอนุมัติสินเชื่อให้รวดเร็วด้วยการการปรับปรุงการทำงานของผู้ตรวจสอบบัญชีให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายดาเนียล ไมเคิล ฟิลิโปเนท์ กล่าวสรุป




สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บุษกร คนหลัก, ชลธิชา  มาตย์นอก (จอย)
Effective Partners & Associates Co., Ltd.
โทร 086-6130827, 086-3015731
 

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
664
“เติมพลังความรู้” กับ ..
597
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
567
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
558
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
522
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด