|
|
|
|
19 พฤศจิกายน 2557 |
ธนินท์ ดัน 7-11 ไทยขึ้นเบอร์ 2 โลก เล็งผนึกพันธมิตรใหม่ผุดสาขาโรงหนัง-อสังหาฯ
ยุทธศาสตร์ เจ้าสัวธนินท์ดันเซเว่นฯขึ้นเบอร์ 2 แซงสหรัฐ หวังทะลุ 10,000 สาขาใน 5 ปี เปิดโมเดลโตทุกรูปแบบ เล็งเปิดพันธมิตรรายใหม่ เจาะช่องทางโรงหนัง-อสังหาฯ เพิ่มน้ำหนักอีคอมเมิร์ซ ส่งแอปฯอีบุ๊กปลุกยอดร้านบุ๊คสไมล์
แม้จะมีสาขาทิ้งห่างคู่แข่ง แต่ร้านสะดวกซื้อ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซึ่งตัวเลขอัพเดตในเดือนมิถุนายนมีจำนวนสาขา 7,200 สาขา ครองส่วนแบ่งตลาด 70% เป็นอันดับ 1 ที่ถือว่าทิ้งห่างคู่แข่งไปมากแล้ว ก็ยังเดินหน้าขยายสาขาและเพิ่มนวัตกรรมค้าปลีกรูปแบบใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด เจ้าสัวธนินท์วางยุทธศาสตร์ ไม่เพียงเป็นผู้นำตลาดในประเทศ ที่มีการขยายสาขาก้าวกระโดด แต่เป้าหมายยังต้องการที่จะปั้นเซเว่นอีเลฟเว่น เมืองไทยให้มีจำนวนสาขาขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แซงหน้าอเมริกา ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 8,000 สาขา
ลั่นขึ้นเบอร์ 2 เซเว่นฯโลก
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี เปิดเผยว่า เซเว่นอีเลฟเว่นทำตลาดเข้าสู่ปีที่ 25 โดยผลดำเนินงานและการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ สามารถขยายสาขาอย่างก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับจำนวนสาขาของเซเว่นฯในประเทศอื่น ๆ ปัจจุบันมีสาขากว่า 7,000 แห่ง เป็นอันดับ 3 รองจากญี่ปุ่นและสหรัฐ ที่มีสาขามากเป็นอันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ
เชื่อว่าจะสามารถขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนแผนการลงทุนอีก 3 ปี ตั้งเป้าขยายให้ครบ 10,000 สาขา โดยมีจุดแข็งอยู่ที่ความแข็งแกร่งของทีมผู้บริหาร
"25 ปี เซเว่นฯ ก้าวสู่วัยเบญจเพส อีก 5 ปี ก็จะครบ 30 ปี ฉลองครบ 10,000 สาขา การเติบโตที่ผ่านมา ผมพอใจมาก เพราะมีการขยายตัวแบบก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับการแข่งขันกับเซเว่นฯทั่วโลก ตอนนี้สหรัฐเป็นเบอร์ 2 มี 8,000 กว่าสาขา ไทยมี 7,000 กว่าสาขา เร็ว ๆ นี้น่าจะแซงขึ้นเป็นเบอร์ 2 ได้ไม่ยาก"
ปัจจัยที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักคือ "เศรษฐกิจ" ที่โตต่อเนื่อง เป็นตัวหนุนให้เซเว่นฯสามารถเร่งขยายสาขาได้อย่างดี โดยเฉพาะถ้าการเมืองนิ่ง จะยิ่งผลักดันระบบเศรษฐกิจให้เติบโตมากกว่านี้ เชื่อว่าจะทำให้การขยายสาขาเซเว่นฯเป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะทำได้ถึง 1.2 หมื่นสาขา ภายใน 5 ปี ก็เป็นไปได้
นายธนินท์ฉายภาพรวมของธุรกิจค้าปลีกขณะนี้ว่ามีความผันผวนและชะลอตัว แต่เชื่อว่าเป็นแค่ระยะชั่วคราว โดยมองว่าภาครัฐต้องเร่งหามาตรการใหม่ ๆ เข้ามาเสริม ทำให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น ระบบเศรษฐกิจมีความเคลื่อนไหว
"ต้องเพิ่มเงินในกระเป๋าด้วยการสร้างงานและสร้างการลงทุนของภาครัฐ อย่างการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ทั้งรถไฟ ทางด่วน ต้องเร่งสร้าง เพื่อให้เกิดการจ้างงานในเมืองไทยมากขึ้น"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานฉลอง 25 ปีเซเว่นฯ ที่จัดขึ้นสยามพารากอนไม่เพียงผู้บริหารระดับสูงของคู่ค้าซัพพลายเออร์ทั้งไทยและต่างประเทศที่เข้ามาร่วมงาน โดยบรรยากาศของงานได้จำลองบรรยากาศย้อนยุคตั้งแต่สาขาแรกในเมืองไทยที่สีลมจนมาถึงยุคปัจจุบันที่สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดด
ผนึกพันธมิตรผุดสาขาทุกทำเล
รายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมาเซเว่นฯมีการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อเร่งสปีดเปิดสาขาให้รวดเร็วมากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย อาทิ โรงภาพยนตร์ และโครงการอสังหาริมทรัพย์ ล่าสุดเตรียมผนึกกับ "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" ขยายสาขาเข้าไปในโครงการ หลังจากปีที่ผ่านมาได้ร่วมมือกับแอลพีเอ็น
แหล่งข่าวจากวงการค้าปลีกมองว่ามีความเป็นไปได้ เนื่องจากเซเว่นฯมีแผนที่จะขยายสาขาจำนวนมากในทุกปี และที่ผ่านมามีความร่วมมือกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ หมู่บ้านต่าง ๆ อยู่บ้างแล้ว
นอกจากการขยายสาขาในทำเลที่หลากหลาย ล่าสุดยังมีบริการ "ซื้อยกแพ็ก" ในบางสาขา ซึ่งเป็นโมเดลแบบค้าส่ง หรือตามไฮเปอร์มาร์เก็ต ต่อเรื่องนี้แหล่งข่าวจากเซเว่นฯระบุว่า เนื่องจากร้านเซเว่นฯมีขนาดใหญ่ขึ้น จากเดิม 2 คูหา เป็น 3-5 คูหา และยังมีสาขารูปแบบสแตนด์อะโลน ทำให้มีพื้นที่ในการวางสินค้ามากขึ้น ถือเป็นอีกกลยุทธ์เพิ่มยอดขายต่อการซื้อ 1 ครั้ง
สาขาเซเว่นฯ ณ สิ้นเดือนมิถุนายนมี 7,200 สาขา ปีนี้ตั้งเป้าเปิดใหม่ 550 สาขา และอีก 5 ปี จะครบ 10,000 สาขา
ส่งแอปฯ-ลุยอีคอมเมิร์ซ
นอกจากขยายสาขาในทุกทำเล ในด้านบริการเซเว่นฯ ก็พยายามขยายช่องทางจำหน่ายให้เข้าถึงผู้บริโภคทุกกลุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใช้เวลาอยู่กับอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟนมากขึ้น
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้จะหันมาให้น้ำหนักกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ซึ่งยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น เนื่องจากสภาพตลาดเปลี่ยนแปลง จึงต้องปรับตัวให้ทันกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยจะมีรายการสินค้าเพิ่มขึ้น ทั้งสินค้าที่เป็นแบรนด์ดัง และสินค้าจากท้องถิ่นของกลุ่มเอสเอ็มอี โดยลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ shopat7.com เซเว่นแคตตาล็อก และสามารถมารับสินค้าที่ร้านเซเว่นฯ
"ยอดขายอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น ปีที่แล้วมีตัวเลขหลักล้าน ปีนี้เริ่มโตอยู่ที่ 5 ล้านบาทต่อเดือน คาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 10 ล้านบาทต่อเดือน การที่ลูกค้ามารับของที่ร้านเซเว่นฯ ก็เป็นอีกช่องทางช่วยกระตุ้นความถี่ในการเข้าร้านและซื้อสินค้ามากขึ้น"
นายปิยะวัฒน์กล่าวว่า นวัตกรรมทางการตลาด ถือเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยผลักดันการเติบโต ที่ผ่านมามีการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า 7-Eleven TH ซึ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับโปรโมชั่นใหม่ ๆ ในแต่ละเดือน และจุดค้นหาสาขาใกล้บ้าน พร้อมจัดโปรโมชั่นแคมเปญเฉพาะ ล่าสุดยังได้เปิดตัวแอปพลิเคชั่น BookSmile eBook Store รวบรวมหนังสือ นิตยสารดิจิทัล และเป็นอีกช่องทางในการสั่งซื้อหนังสือของร้านบุ๊คสไมล์
เร่งเพิ่มฐาน "เซเว่นฯการ์ด"
ด้านนายยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล รองกรรมการผู้จัดการซีพีออลล์ กล่าวว่า แผนตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงไตรมาส 3 หลังจากเซเว่นฯได้เปิดตัวแคมเปญแสตมป์รักเมืองไทย 77 จังหวัด 77 แบบ เมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ล่าสุดจึงเปิดตัวแคมเปญใหญ่ "แสตมป์รักเมืองไทย" ประจำปี 2556 โดยมีเจมส์-จิรายุเป็นพรีเซ็นเตอร์
นอกจากการสะสมแลกของรางวัล ยังเพิ่มการลุ้นมอเตอร์ไซค์ทุกวัน และลุ้นทองคำ มูลค่า 1 ล้านบาท ทุกเดือน โดยตั้งเป้ายอดขายในแคมเปญแสตมป์โตขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมาในแคมเปญเดียวกัน
"ปีนี้เสริมความแรงเข้าไปอีก มั่นใจว่าน่าจะเกิดพฤติกรรมการล่าแสตมป์เหมือนเดิม เพราะมีพรีเซ็นเตอร์เข้ามาช่วยสร้างกระแสอีกทางหนึ่ง"
นอกจากการเพิ่มความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในการจัดโปรโมชั่น ปีนี้เซเว่นฯยังมุ่งเพิ่มจำนวนสมาชิกบัตรเซเว่นฯการ์ด ที่มีการจัดสิทธิประโยชน์จำนวนมาก ปัจจุบันมีสมาชิก 4 ล้านใบ มีผู้สมัครใหม่ 50,000-100,000 ใบต่อเดือน ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นมีการจัดโปรโมชั่นของบัตร
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
