"ซีอาร์จี"ผนึก6ร้านเร่งสร้างคอร์ปอเรตแบรนด์

"ซีอาร์จี" ธุรกิจอาหารจานด่วนในเครือเซ็นทรัล ประกาศสร้างคอร์ปอเรตแบรนด์ ยอมรับที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบ ผู้บริโภคยังไม่รู้จักมากนัก ประเดิมออกบัตร "ซีอาร์จี การ์ด" ผนึก 6 แบรนด์ ทำโปรโมชั่นส่วนลด ย้ำจุดแข็งผู้บุกเบิก ร้านอาหารจานด่วน คอนเซ็ปต์ใหม่ พร้อมลุยเปิดสาขาไม่ยั้ง โดยเฉพาะต่างจังหวัด คาดสิ้นปีไม่ต่ำกว่า 500 แห่ง เติบโต 15%

นายฐากฤต สนิทประชากร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (ซีอาร์จี) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารจานด่วน หรือ QSR ของเซ็นทรัล กรุ๊ป อาทิ มิสเตอร์โดนัท, อานตี้ แอนส์, บาสกิ้น-รอบบิ้นส์ เปิดเผยว่า หลังจากนี้บริษัทจะเดินหน้าสร้างคอร์ปอเรต แบรนด์ซีอาร์จี ให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง หลังจากที่ได้มีการรีแบรนด์ซีอาร์จี เมื่อ 5 ปีก่อน แต่ที่ผ่านมายังไม่ได้ทำกิจกรรม หรือสื่อสารอย่างจริงจัง

นายฐากฤตกล่าวด้วยว่า ความเคลื่อน ไหวแรกของบริษัทคือ การเปิดตัว "ซีอาร์จี การ์ด" มาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเป็นบัตรสมาชิกที่สามารถใช้เป็นส่วนลดของทุกแบรนด์ในกลุ่มซึ่งปัจจุบันมี 6 แบรนด์ ได้แก่ เคเอฟซี, พิซซ่า ฮัท, มิสเตอร์โดนัท, บาสกิ้น-รอบบิ้นส์, อานตี้ แอนส์ และเป๊ปเปอร์ลันช์ โดยจำหน่ายในราคา 129 บาท ตั้งเป้ายอดสมาชิกเบื้องต้นที่ 100,000 ราย ทั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มีการออกบัตรทำโปรโมชั่นร่วมกันเป้าหมายเพื่อสื่อสารให้ผู้บริโภคเข้าใจว่า ซีอาร์จีคืออะไร และมีแบรนด์อะไรบ้าง

"เป็นการซินเนอร์ยี (synergy) แบรนด์ครั้งแรก ทำให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน จากเดิมที่ต่างคนต่างทำการตลาด ซึ่งปัจจุบันทุกแบรนด์ก็มีบัตรสมาชิกของตัวเอง แต่คาดว่าในอนาคตจะค่อยๆ เฟดบัตรเหล่านั้นออกไป แล้วให้เหลือเพียงซีอาร์จี การ์ด เท่านั้น"

นายฐากฤตกล่าวต่อไปว่า ส่วนการสร้างแบรนด์หลังจากนี้ยังมีอีกหลายไอเดีย อาทิ โฆษณาโทรทัศน์ หรือการใส่ by CRG ลงไปในชื่อร้านของทุกแบรนด์ และหลังจากนี้ไปจะผลักดันให้ภาพของซีอาร์จีมีความเด่นชัดมากขึ้น และมีการแยกงบฯการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์อย่างเจาะจง โดยจุดแข็ง ของซีอาร์จี การเป็นผู้เบิกธุรกิจร้านอาหารจานด่วน คอนเซ็ปต์ใหม่ๆ ในไทยไม่ว่าจะเป็นการเปิดตลาดเพร็ทเซลกับแบรนด์ อานตี้ แอนส์ หรือเป๊ปเปอร์ลันช์ แฟรนไชส์ร้านอาหารจากญี่ปุ่น ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้ชูคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างจาก แบรนด์ อื่นๆ คือ Fast Casual Restaurant ที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว และความสนุกในการปรุงอาหารด้วย ตนเอง

"เราจะเน้นผสมผสานระหว่างไลท์ฟู้ด และเฮฟวี่ฟู้ด จากการเปิดตัวเป๊ปเปอร์ลันช์ ทำให้ภาพเฮฟวี่ฟู้ดของเราชัดเจนขึ้น จากเดิมซีอาร์จีโดดเด่นในไลท์ฟู้ด ทั้งสแน็ก และไอศกรีม หากไม่นับเคเอฟซี และพิซซ่า ฮัท ซึ่งทำการตลาดโดยยัม ประเทศไทย"

นายฐากฤตกล่าวว่า นอกจากนี้ ซีอาร์จียังมีแผนเพิ่มแบรนด์ใหม่ๆ ในพอร์ตให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไลท์ สแน็ก, เครื่องดื่ม หรืออาหารหนัก ซึ่งเป็นไปได้ทั้ง 2 แนวทางคือ พัฒนาแบรนด์ขึ้นเอง หรือซื้อลิขสิทธิ์จากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันในธุรกิจร้านอาหารจานด่วนยังมีคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจและยังไม่มีในไทยอีกมาก

สำหรับแผนธุรกิจปีนี้ จะเดินหน้าเปิดสาขาต่อเนื่อง เพราะมองว่าเป็นโอกาสสำคัญในขณะที่ค่ายอื่นๆ อาจไม่ได้รุกหนัก จากสิ้นปีที่ผ่านมามีจำนวนสาขารวมทุก แบรนด์อยู่ที่ 478 สาขา และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมีมากกว่า 500 สาขา ซึ่งจะเน้นไปที่ต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะมีโอกาสอีกมหาศาล ขณะที่พื้นที่ในกรุงเทพฯ ค่อนข้างจำกัด ทั้งนี้จะขยายไปตามศูนย์การค้าไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่ไปเปิดตามต่างจังหวัดมากขึ้น

"ยอมรับว่าข้อได้เปรียบของเราอีกอย่างคือ การเป็นบริษัทในเครือเซ็นทรัล ทำให้สามารถเปิดสาขาไปกับห้างเซ็นทรัลทุกแห่งได้ นอกจากนี้ คือความเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารแฟรนไชส์ ซึ่งทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของแฟรนไชส์ต่างๆ"

สำหรับครึ่งปีแรกบริษัทมีการเติบโตที่ 10% ต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 15% อย่างไรก็ตาม คาดว่าในครึ่งปีหลังจากการรุกตลาดอย่างเต็มที่จะทำให้สามารถเติบโตที่ 15% โดยปัจจุบันเคเอฟซีเป็นสัดส่วนยอดขายมากที่สุดอยู่ที่ 50% ตามด้วยมิสเตอร์โดนัทเกือบ 30% ที่เหลืออีก 20% เป็นแบรนด์อื่นๆ





อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ