|
|
|
|
27 มิถุนายน 2557 |
TWZ จัดหนักส่งสมาร์ทโฟนราคาถูกพรึ่บ 15 รุ่น
"TWZ" เดินหน้าลุยต่อมือถือ "เฮาส์แบรนด์" ปรับโฟกัสมุ่ง "สมาร์ทโฟนราคาถูก" พร้อมขน 15 รุ่นใหม่ทยอยลงตลาด จับมือ "ซีทีเอช-จีเอ็มเอ็ม" เปิดจุดชำระค่าบริการ-ขายกล่องทีวีดาวเทียมกว่า 70 แห่งทั่วประเทศในสาขาโฮมโปร หวังเพิ่มรายได้อีก 10%
นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันโทรศัพท์มือถือเฮาส์แบรนด์ในไทยค่อย ๆ หายไปจากตลาด เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่โอกาสทางการตลาดยังมีอยู่ จากราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และมีฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค เพราะควบคุมการผลิตโดยคนไทย ซึ่งบริษัทเองมีสินค้ากลุ่มเฮาส์แบรนด์เช่นกัน และในปีนี้จะเน้นไปที่สมาร์ทโฟนราคาระดับกลางถึงล่างที่รองรับการใช้งานระบบ 3G จากที่ผ่านมาเน้นฟีเจอร์โฟนเป็นหลัก คาดว่าจะมีสินค้าออกสู่ตลาด 15 รุ่น ภายใต้แบรนด์ TWZ เกือบทั้งหมดเป็นสมาร์ทโฟน
"แต่ละตัวจะมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันออกไป เช่น หน้าจอใหญ่ หรือดูโทรทัศน์ได้ จึงเชื่อว่าจะทำให้ทีดับบลิวแซดมีส่วนแบ่งในตลาดเฮาส์แบรนด์ได้ แต่มีคู่แข่งบางรายหายไปทำให้เราได้ลูกค้าจากพวกเขามาตลาดเฮาส์แบรนด์ที่ค่อย ๆ ลดขนาดลงแต่การแข่งขันยังดุเดือดเหมือนเดิม เฮาส์แบรนด์มีสัดส่วนยอดขายประมาณ 20% ของตลาดรวมโทรศัพท์มือถือปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 20 ล้านเครื่อง บริษัทมีมาร์เก็ตแชร์ประมาณ 10% ในเฮาส์แบรนด์ทั้งหมด"
สำหรับสมาร์ทโฟน "TWZ" ที่เปิดตัวไปแล้ว ได้แก่ รุ่น AA9 หน้าจอ 3.5 นิ้ว รองรับการใช้งาน 2 ซิม ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 ซีพียูดูอัลคอร์ ความเร็ว 1.2 GHz กล้องความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล ราคา 1,990 บาท และแท็บเลต Tab-PLAY 555 หน้าจอ 7 นิ้ว ใช้งาน 3G ได้ ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2 ซีพียูดูอัลคอร์ ความเร็ว 1.2 GHz ราคา 2,990 บาท
รุ่นราคาสูงที่สุดจะมีราคาไม่เกิน 6,000 บาท นอกจากนี้ยังเตรียมนำนวัตกรรมใหม่ ๆ เข้ามาทำตลาด เช่น ดองเกิลที่รับสัญญาณทีวีดิจิทัลได้ มีราคาหลักพันบาทเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับการใช้งานสมาร์ทโฟนของ TWZ
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่าสมาร์ทโฟนอินเตอร์แบรนด์หลายยี่ห้อเริ่มขยับราคาลงมาต่ำกว่า 2,500 บาท เป็นปัจจัยหลักทำให้เฮาส์แบรนด์ไม่สามารถสู้เรื่องราคาโดยตรงได้ บริษัทจึงต้องสร้างจุดต่าง ทั้งการทำโปรโมชั่นร่วมกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เช่น การรับชมทีวีดิจิทัลได้ เป็นต้น
นายพุทธชาติ กล่าวต่อว่า บริษัทมีร้านค้าปลีกโทรศัพท์มือถือภายใต้ชื่อ TWZ จำนวน 8 สาขา และเป็นแฟรนไชส์ร้าน Telewiz อีก 24 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ และปีนี้ไม่มีแผนขยายสาขาในลักษณะดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่หันไปใช้วิธีร่วมมือกับศูนย์การค้า "โฮมโปร"เปิด TWZ คอร์เนอร์แทน เพราะใช้เงิน 3-5 แสนบาท/แห่ง รวมถึงเพิ่มบริการรับชำระค่าบริการโทรทัศน์บอกรับสมาชิก และจำหน่ายกล่องของซีทีเอชและจีเอ็มเอ็มแซทด้วย
"เราจะนำโทรศัพท์มือถือของเราผูกไปกับการขายกล่องซีทีเอชและจีเอ็มเอ็มแซทด้วย เพื่อจูงใจลูกค้าให้ซื้อมากขึ้น รวมถึงการเป็นที่ชำระค่าบริการเพย์ทีวีจะช่วยเพิ่มรายได้ให้บริษัท คิดเป็น 10% ของรายได้รวม และการเลือกโฮมโปรเป็นที่ตั้งคอร์เนอร์ เพราะมีกว่า 70 สาขาทั่วประเทศ น่าจะช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ปีนี้จะทยอยเปิดไปจนกว่าจะครบทั้งหมด"
นอกจากนี้ บริษัทยังเพิ่มธุรกิจใหม่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการสร้างออฟฟิศเพื่อให้เช่า คาดว่าปีนี้จะมีรายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนปิดที่ 4,029 ล้านบาท มาจากธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ 80% อสังหาริมทรัพย์ 10% และการชำระค่าบริการเพย์ทีวี และกล่องทีวีดาวเทียม 10%
อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ
|
|
|
