|
|
|
|
28 พฤษภาคม 2557 |
ซีเอ็ดเพิ่มไลน์สินค้านวัตกรรม
"ซีเอ็ด" ปรับแผนรับพฤติกรรมคนไทยเปลี่ยน ลดพื้นที่ขายหนังสือ หันเพิ่มไลน์สินค้านวัตกรรม ขายทั้งแผ่นมาส์กหน้า เก้าอี้สุขภาพ กล่องทีวี wi-fi พร้อมหันปั้นรายได้ช่องทางอื่นเสริม ล่าสุดปล่อยแฟรนไชส์ ร.ร.กวดวิชา หวังผุด 100 สาขาทั่วประเทศ ขณะที่ภาพรวมธุรกิจร้านหนังสือยอดขายฮวบลดลงกว่า 10%
นายทนง โชติสรยุทธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านซีเอ็ดบุ๊คเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทปรับคาแรกเตอร์ตัวเองใหม่ จากเดิมที่เคยเป็นเพียงแค่ร้านหนังสือ ต่อไปบริษัทจะเน้นสัดส่วนสินค้าด้านนวัตกรรมต่างๆมากขึ้นในรูปแบบเอ็กซ์คูลซีพ จากปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ในกลุ่มหนังสือประมาณ 80% และกลุ่มนอนบุ๊ก 20% ต่อไปหลังจากนี้บริษัทจะปรับสัดส่วนสินค้าในร้านให้กลุ่มนอนบุ๊กเพิ่มขึ้นเป็น 40% และกลุ่มหนังสือลดสัดส่วนลงเหลือ 60%
ทั้งนี้บริษัทมองว่าปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มมองหาสินค้าที่แปลกใหม่ และมีความพิเศษโดดเด่น ดังนั้นนอกจากสินค้าประเภทหนังสือแล้ว บริษัทจึงตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยการนำสินค้านวัตกรรมต่างๆ เข้ามาตอบโจทย์เพิ่มเติม
"ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคนอกจากจะเลือกซื้อหนังสือแล้ว ผู้บริโภคยังต้องการหาสินค้าหรือนวัตกรรมที่แปลกใหม่เพิ่มเติมด้วย ดังนั้นบริษัทจึงได้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ และสำหรับสินค้าที่บริษัทจะนำเข้ามาเบื้องต้น ได้แก่ แผ่นมาร์กหน้า เก้าอี้สุขภาพ และกล่องทีวี wi-fi เป็นต้น ขณะเดียวกันบริษัทได้กระตุ้นการซื้อสินค้าในกลุ่มนอนบุ๊กของผู้บริโภค ด้วยการโชว์สินค้าในเวบไชต์และแอพพลิเคชันต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคสะดวกสบายในการซื้อสินค้ามากขึ้น"
ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจนอนบุ๊กเติบโตขึ้นกว่า 10% ดังนั้นในอนาคตบริษัทคาดว่าสินค้าในกลุ่มนี้จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับบริษัทอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายธุรกิจเพิ่มเติม เช่น การร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการพัฒนาโรงเรียนหลักสูตรใหม่ ภายใต้ชื่อโรงเรียนเพลินพัฒนา ที่เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล จนถึงระดับประถม และ "ซีเอ็ด เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์" โรงเรียนกวดวิชา ในหมวดคณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และหุ่นยนต์ เป็นต้น โดยปัจจุบันเปิดให้บริการจำนวน 10 สาขาทั่วประเทศ และภายใน 2-3 ปีจะขยายสาขากว่า 100 สาขาในรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์
"รายได้รวมของบริษัทมาจากธุรกิจร้านหนังสือ 80% และที่เหลือ 20% เป็นธุรกิจอื่นๆ เช่น โรงเรียน,เลิร์นนิ่ง เซ็นเตอร์ และแมกกาซีน เป็นต้น ขณะเดียวกันในช่วงที่ผ่านมาปัญหาทางการเมืองส่งผลกระทบต่อยอดขายหนังสือลดลง ดังนั้นบริษัทจึงต้องพยายามหาสินค้ากลุ่มอื่นเข้ามาทดแทนรายได้ โดยในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ 5 พันล้านบาทใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับผลกระทบจากปัจจัยรอบด้านโดยเฉพาะค่าแรงพื้นฐานที่ส่งผลต้นทุนให้สูงขึ้นกว่า 40% ขณะที่ภาพรวมธุรกิจร้านหนังสือน่าจะลดลงประมาณ 10%"
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทได้เปิดสาขาร้านซีเอ็ดบุ๊คฯ เพิ่มขึ้น 2 สาขา และเปิดแฟรนไชส์ของศูนย์การเรียนรู้ซีเอ็ดอีก 6 สาขา รวมเปิดจำนวนทั้งสิ้น 23 สาขา และได้ปิดสาขาซีเอ็ดบุ๊คฯ ที่ไม่สามารถทำกำไรได้ประมาณ 5 สาขา และ 1 จุดสาขาย่อย โดยในปัจจุบันบริษัทมีสาขาที่ยังเปิดดำเนินการทั้งสิ้นอยู่ 422 สาขา และจุดขายสาขาย่อย 9 สาขา ขณะที่รายได้รวมไตรมาสแรกบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.22 พันล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 7.45% ซึ่งสาเหตุการลดลงมาจากยอดขายในส่วนธุรกิจค้าปลีกของร้าน
อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ
|
|
|
|
|
