4.6K
2 เมษายน 2557
"ส.ขอนแก่น"หันโฟกัสธุรกิจใหม่ ผุดแฟรนไชส์ร้านอาหารดันยอด


ส.ขอนแก่น กางแผน 3 ปีโตต่อเนื่อง 15% เพิ่มน้ำหนักธุรกิจร้านอาหารจานด่วนเปิดแฟรนไชส์ "แซบ เรสเตอรองต์" ข้าวขาหมูยูนนาน พร้อมบุกหนักธุรกิจขนมขบเคี้ยว เร่งบุกช่องทางเทรดดิชั่นนอลเทรด เพิ่มยอดอาหารพื้นเมือง

นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทมีเป้าหมายสร้างการเติบโต 15% ต่อเนื่อง 3 ปีต่อจากนี้โดยจะโฟกัสธุรกิจในประเทศที่เป็นรายได้หลักกว่า 90% แม้แนวโน้มของตลาดในประเทศปีนี้จะค่อนข้างลำบากด้วยการเติบโตของจีดีพีที่น่าจะไม่เกิน 3% แต่เชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามที่วางไว้ ด้วยการขยายสาขาร้านอาหารบริการด่วน หรือ "คิวเอสอาร์"มากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะเดินหน้าออกสินค้าใหม่ที่เชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และการเข้าไปในช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ เพิ่มเติม

สำหรับการเติบโตในกลุ่มธุรกิจอาหารจานด่วน ปีนี้จะใช้โมเดลแฟรนไชส์ขยายสาขาร้านอาหารอีสาน "แซบ เรสเตอรองต์" ในรูปแบบจุดจำหน่ายหรือคีออสก์แทนการเปิดร้านเพื่อลดจำนวนแรงงาน คาดว่าปีนี้จะได้เห็น 20 จุด จากเดิมมี 5 สาขา

นอกจากนี้ยัง รุกตลาดร้านข้าวขาหมู "ยูนนาน" ในปั๊มน้ำมัน ที่เพิ่งเปิดตัวในปีที่ผ่านมา ปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 7-8 สาขา คาดสิ้นปีมี 12-15 สาขา ไม่รวมการขยายคีออสก์ในรูปแบบแฟรนไชส์ที่จะเริ่มในครึ่งปีหลังเช่นกัน

"ปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจคิวเอสอาร์ของบริษัทเติบโตสูงที่สุดถึง60% แต่ฐานรายได้ยังเล็กมาก เพียง 2% ของรายได้รวม หรือประมาณ 40 ล้านบาทต่อจากนี้จะเดินหน้าขยายสาขา โดยเฉพาะรูปแบบคีออสก์จะช่วยให้รายได้ในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 ล้านบาทได้ ขณะเดียวกันก็มีแผนผลิตเมนูเหล่านี้ในรูปแบบอาหารแช่แข็งหรือเรดดี้มีล ภายใต้แบรนด์ "ส.ขอนแก่น" อาทิ ข้าวขาหมู ที่จะวางจำหน่ายปลายไตรมาส 2 ซึ่งครึ่งปีหลังบริษัทจะมีเมนูใหม่ๆ ออกมาเพิ่มเติม


นายเจริญกล่าวต่อว่า อีกกลุ่มธุรกิจที่จะขยายฐานรายได้มากขึ้นคือ ขนมขบเคี้ยว ด้วยมูลค่าตลาดกว่า 21,000 ล้านบาท เติบโต 10-15% แต่รายได้ในกลุ่มนี้ของบริษัทยังถือว่าน้อยมาก คิดเป็น 4% แต่เติบโต 35% ปีนี้จึงจะออกสินค้าใหม่อีก 3 ตัว โดยยังคงยึดความถนัดในการพัฒนาขนมขบเคี้ยวจากเนื้อสัตว์ ได้แก่ แคบหมูแบรนด์ "ออง-เทร่", หมู-ไก่แผ่นทอดแบรนด์ "มูชิ" และข้าวเคลือบหมูหย็องแบรนด์ "สตาร์" คาดหวังยอดขายในกลุ่มขนมขบเคี้ยวโตขึ้นจากปีก่อน 100% โดยวางงบฯการตลาด 20-30 ล้านบาท สำหรับการทำภาพยนตร์โฆษณา และโปรโมชั่น ณ จุดขาย

อย่างไรก็ตาม ใน 2-3 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้หลักของ ส.ขอนแก่น ยังเป็นอาหารพื้นเมือง ได้แก่ แหนม, หมูยอ และไส้กรอกอีสาน และลูกชิ้นปลา ที่ปัจจุบันคิดเป็นรายได้ 80% ของรายได้รวม โดยปีนี้ในส่วนของอาหารพื้นเมืองจะรุกตลาดเทรดิชั่นนอลเทรดให้มากขึ้น จากส่วนแบ่งตลาดที่ยังน้อยอยู่เพียง 3% เทียบกับโมเดิร์นเทรด ที่แบรนด์ ส.ขอนแก่น มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ถึง 70-80%

"การรุกตลาดเทรดิชั่นนอลเทรดมากขึ้นจะทำให้ยอดขายอาหารพื้นเมืองปีนี้โตจากปีที่ผ่านมา 10% ขณะที่ลูกชิ้นปลาที่มีการเติบโต 15% ต่อเนื่อง คาดว่าในอนาคตจะมีสัดส่วนรายได้ที่ใกล้เคียงกับอาหารพื้นเมือง"

ปัจจุบันกำลังผลิตของบริษัทไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จึงลงทุนขยายกำลังการผลิตตั้งแต่ปีที่แล้วด้วยงบฯ 250 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3 ปีนี้ ทำให้กำลังผลิตเพิ่มจาก 9,000 ตันต่อปี เป็น 15,000 ตันต่อปี สามารถรองรับการเติบโตได้อีก 3-5 ปี ทั้งนี้ยังมีแผนพัฒนาโรงงานให้ได้มาตรฐานฮาลาล เพื่อผลิตสินค้าอาหารทะเลและขนมขบเคี้ยวจากเนื้อไก่ เจาะตลาดตะวันออกกลางและยุโรป โดยคาดว่าไก่แผ่นทอดจะสามารถส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ในไตรมาส 4 ปีนี้

รวมทั้งโอกาสของการเปิดเออีซี มีแผนส่งผลิตภัณฑ์อาหารพื้นเมืองไปจำหน่ายในกลุ่มประเทศอินโดจีนที่มีการบริโภคคล้ายคลึงกับไทย ในส่วนของประเทศมุสลิมก็เป็นโอกาสของลูกชิ้นปลา และขนมขบเคี้ยวจากเนื้อไก่

ปีที่ผ่าน ส.ขอนแก่น มีรายได้กว่า 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 10% เป็นรายได้จากกลุ่มอาหารพื้นเมือง 42% ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล (ลูกชิ้นปลา) 36% อาหารแช่แข็ง 8% ขนมขบเคี้ยว 4% ธุรกิจอาหารบริการด่วน 2% และฟาร์มหมู 8%

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,172
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
793
“เติมพลังความรู้” กับ ..
627
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
602
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
601
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
541
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด