|
|
26 มีนาคม 2557 |
กสอ.ดัน SMEsใช้ฟรีแวร์ ปรับปรุงระบบไอที เสริมศักยภาพธุรกิจ
กสอ.ดันระบบไอทีแนวใหม่ให้ SMEs ใช้ฟรีต่อเนื่อง หลังโครงการ ECIT ผลักระบบคลาวด์คอมพิวติ้งลงภาคอุตสาหกรรมสำเร็จ สั่งปรับโฉมฟรีแวร์ให้คลุมถึงโมบายล์แอพฯ คาดลดต้นทุนการผลิตมากกว่า 2 แสนบาทต่อรายต่อปี หลังพบเอสเอ็มอีขาดความพร้อมในการลงทุนด้านไอที...
นางอรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กล่าวว่า แผนการดำเนินโครงการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ (Enhancing SMEs Competitiveness Through IT : ECIT) ในปี 2557 นี้ จะมีการเพิ่มความเข้มข้นมากกว่า 5 ปีที่ผ่านมา โดยวางเป้าหมายที่จะครอบคลุมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน SMEs ระดับล่างมากขึ้น โดย ECIT จะเพิ่มแอพพลิเคชั่นที่เป็นฟรีแวร์ให้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการในกิจการ โดย SMEs ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น การประยุกต์ใช้ระบบงานต่างๆ ที่กูเกิลให้บริการฟรีอยู่ หรือการใช้โอเพนซอร์ส ของชุดโปรแกรม Office เป็นการช่วยให้ SMEs ลดต้นทุน
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า นอกจากนั้นจะมีการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งาน e-Procurement เพื่อให้ SMEs เชื่อมโยงระบบการจัดซื้อแบบ Real Time ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของ SMEs และช่วยเพิ่มยอดขายและขยายช่องทางการตลาดได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมต่อระบบ e-Supply Chain ต่อไปในอนาคต นอกจากนี้มีการส่งเสริม SMEs ใช้ระบบ Dead Stock Management เพื่อช่วยลดต้นทุนในการเก็บสต๊อกสินค้า และเพิ่มมูลค่าของสต๊อกสินค้าเพิ่มมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นจะมีการส่งเสริมให้ SMEs ใช้ Social Media เพื่อเพิ่มศักยภาพทางการตลาด โดยดำเนินงานในลักษณะให้การอบรมและคำปรึกษาเชิงลึก ซึ่งจะเน้นเป็นกิจการ ใช้เวลาการดำเนินงาน กิจการละ 1 ถึง 4 เดือน จะช่วยให้ SMEs มียอดขายเพิ่มขึ้นจากการตลาดผ่านสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก เป็นต้น
นางอรรชกา กล่าวถึงผลการดำเนินงานโครงการ ECIT ในปีงบประมาณ 2556 ว่า สามารถพัฒนาและส่งเสริมให้ SMEs ไทย ให้ใช้ระบบไอทีเพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเพิ่มผลิตภาพและลดต้นทุนของกิจการ พร้อมกับมีการพัฒนาบุคลากรด้านการประยุกต์ใช้ไอทีในกิจการ ซึ่งมี SMEs เข้าร่วมโครงการจำนวน 1,600 กิจการ และ 1,500 คน โดยใช้งบประมาณจำนวน 35,000,000 บาทในการดำเนินกิจกรรม ปรากฏว่าสามารถช่วยให้ SMEs มีผลิตภาพและประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น สามารถประเมินผล เป็นจำนวนเงินที่ SMEs ได้จากการเพิ่มผลิตภาพ จากการประหยัดต้นทุนการนำระบบไอทีมาใช้ จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น จากการลงทุนที่เพิ่มขึ้น และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่น้อยกว่า 148 ล้านบาท ซึ่งถ้าหากคิด Benefit / Cost Ratio ขั้นต่ำที่ได้จากโครงการนี้ จะเท่ากับ 4.23 นั่นหมายถึง รัฐฯ ลงทุนในโครงการนี้ 1 บาท ได้ผลตอบแทนความคุ้มค่า 4.23 บาท ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีกำไร
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวถึงการดำเนินงานโครงการ ECIT ในปีงบประมาณ 2557 ว่า ยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับงบประมาณโดยรวมประมาณ 30 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายส่งเสริม SMEs ใช้ไอทีในกิจการ จำนวน 900 กิจการ และคาดการณ์ว่า จะสามารถช่วย SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ สามารถเพิ่มผลิตภาพ
ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมกับประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านไอทีเพื่อใช้ในกิจการ ไม่น้อยกว่า 150 ล้านบาท ซึ่งกิจกรรมส่วนใหญ่ในปีนี้ยังคงดำเนินงานในลักษณะเดียวกันที่ผ่านมาแต่เพิ่มโมเดลการให้ส่งเสริม SMEs ใช้ไอที โดยจะเน้นส่งเสริมและกระตุ้นให้ SMEs ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศในการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลิตภาพของธุรกิจ ผ่าน Mobile Application ทั้งนี้ แผนงานการดำเนินงานในปีนี้ แบ่งออกเป็น 4 แนวทาง ดังนี้
- มุ่งเน้นซอฟต์แวร์การบริหารงานครบวงจร (ERP: Enterprise Resource Planning) และซอฟต์แวร์เฉพาะด้านผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ด้วยเทคโนโลยี Cloud Computing รวมถึงการส่งเสริมให้ใช้ Mobile Application ที่ใช้งานง่ายเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเพิ่มผลิตภาพของกิจการ นอกจากนี้ในปีนี้ได้เพิ่มแอพพลิเคชั่นที่เป็น Free Ware ให้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการในกิจการ โดย SMEs ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เช่น การประยุกต์ใช้ระบบงานต่างๆ ที่ Google ให้บริการฟรีอยู่ หรือการใช้ Open Source ของโปรแกรม Office เป็นการช่วยให้ SMEs ลดต้นทุนค่าใช่จ่ายด้านไอที เป็นต้น
- การพัฒนา SMEs ให้มีศักยภาพทางการตลาดผ่าน Social Media เช่น Facebook เป็นต้น ซึ่งช่องทางออนไลน์ รวมถึงโซเชียลมีเดีย ถือเป็นช่องทางเดียวที่มีศักยภาพ สามารถลดต้นทุน และเพิ่มยอดขายได้ในเวลาเดียวกัน
- ส่งเสริม SMEs ให้มีระบบธุรกรรมออนไลน์ โดยมีการพัฒนาฟังก์ชั่นการใช้งาน e-Procurement เพื่อให้ SMEs เชื่อมโยงระบบการจัดซื้อแบบ Real Time ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการของ SMEs และช่วยเพิ่มยอดขายและขยายช่องทางการตลาดได้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นในการเชื่อมต่อระบบ e-Supply Chain ต่อไปในอนาคต
- ส่งเสริม SMEs โดยใช้ Green IT ด้วยระบบ Dead Stock Management เพื่อลดต้นทุนในการเก็บสต๊อกสินค้าและเพิ่มมูลค่าของสต๊อกสินค้าเพิ่มขึ้น
นางอรรชกา กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ IT เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญในการผลิต ด้วยระบบ IT ที่ดีจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในหลายๆ ด้าน อาทิ ระบบการผลิต การบริหารสินค้าคงคลัง การบริหารการเงินและบัญชี การบริหารบุคคล การบริหารฐานข้อมูลลูกค้า หรือเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ
ทาง กสอ.ได้จัดทำโครงการ ECIT ที่เป็นโครงการต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2552 มาจนถึงปี 2557 เพื่อกระตุ้นให้ SMEs ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศในการบริหารจัดการงานต่างๆ เพื่อเพิ่มผลิตภาพและลดต้นทุนของกิจการ ผลประโยชน์ของ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการนี้ สามารถลดต้นทุนด้านลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ การจัดซื้อเครื่องแม่ข่าย การจ้างพนักงานดูแลระบบและอื่นๆ โดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 400,000 บาท ต่อบริษัท นอกจากนี้ สามารถช่วยลดต้นทุนต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกิจการ โดยเฉลี่ยขั้นต่ำไม่น้อยกว่า 200,000 บาท ต่อบริษัท.
อ้างอิงจาก ไทยรัฐออนไลน์
|
|
|
|