การแข่งขันของธุรกิจค้าปลีกมีความร้อนแรงต่อเนื่องทุกเซ็กเมนต์ ไม่เพียงการแย่งชิงมัดใจลูกค้าที่เป็นฐานหลักสำคัญ แต่ยังรวมถึงการแย่งชิงพื้นที่สำหรับการยึดสมรภูมิทำเลที่ดีที่สุดและรวด เร็วที่สุด โดยเฉพาะค้าปลีกไซซ์เล็ก หรือคอนวีเนี่ยนสโตร์ ที่กลายเป็นโมเดลที่แข่งขันกันอย่างดุเดือดที่สุดในเวลานี้ 

 

แม้ว่าเจ้าตลาดเซเว่นอีเลฟเว่นจะสยายปีกทิ้งห่างบรรดาคู่แข่งในตลาดไปหลายเท่าตัว แต่โอกาสทางธุรกิจและช่องว่างของตลาดค้าปลีกไซซ์เล็กกลับไม่ได้ลดน้อยลงไป เห็นได้จากค้าปลีกรายใหญ่ต่างเข้ามาเป็นทางเลือกในคอนวีเนี่ยนสโตร์ต่อเนื่อง 

 

สอดคล้องกับอัตราการเติบโตตลอดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ค้าปลีกไซซ์เล็กมีการขยายตัวมากที่สุดเมื่อเทียบกับเซ็กเมนต์อื่น ๆ โดยปีที่ผ่านมาตลาดค้าปลีกมีมูลค่า 2.4 ล้านล้านบาท กลุ่มคอนวีเนี่ยนสโตร์มีอัตราการขยายตัวสูงที่สุดคือ 12% เมื่อเทียบกับเซ็กเมนต์อื่น ๆ อาทิ ซูเปอร์เซ็นเตอร์ขยายตัวได้เพียง 7% ห้างสรรพสินค้าเติบโต 7.5% สเปเชียลตี้สโตร์เติบโต 11.5% ร้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ตขยายตัว 8% เป็นต้น

 

ไม่แปลกที่ความเคลื่อนไหวล่าสุดของยักษ์ใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ตอย่าง บิ๊กซี เตรียมจะเปิดขายแฟรนไชส์เป็นครั้งแรกสำหรับโมเดล "มินิบิ๊กซี" จากเดิมที่บิ๊กซีจะลงทุนและขยายสาขาด้วยตัวเอง

 

แหล่งข่าวระดับสูงวงการค้าปลีกเปิดเผยว่า บิ๊กซีเตรียมจะเปิดรูปแบบการขายแฟรนไชส์สำหรับโมเดลค้าปลีกมินิบิ๊กซี โดยมีเป้าหมายให้การขยายสาขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความคล่องตัว เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดค้าปลีกโมเดลนี้ จากเดิมที่ผ่านมาบิ๊กซีจะเป็นผู้ลงทุนในการหาพื้นที่ทำเลและขยายสาขาเอง ทำให้มีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วในการจับจองพื้นที่ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดที่แข็งแกร่งอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น หรือแม้แต่แฟมิลี่มาร์ทเอง ที่ช่วงหลังให้ความสำคัญในเรื่องของการขยายสาขาผ่านรูปแบบแฟรนไชส์มากขึ้น

 

 
 

เบื้องต้นบิ๊กซีจะนำร่องโมเดลแฟรนไชส์ของมินิบิ๊กซี ร่วมกับสถานีปั๊มน้ำมันบางจากก่อน ส่วนผู้ที่สนใจอื่น ๆ ที่ต้องการเปิดธุรกิจคอนวีเนี่ยนสโตร์ร่วมกับบิ๊กซีนั้นจะเป็นสเต็ปถัดไป

 

"รูปแบบที่บิ๊กซีทดลองขายแฟรนไชส์ จะเป็นโมเดลคล้าย ๆ กับเซเว่นฯที่เปิดในปั๊มร่วมกับสถานีน้ำมัน ปตท. ซึ่งดีลเลอร์ปั๊มน้ำมันจะเป็นผู้ลงทุนเอง คาดว่าการขายแฟรนไชส์จะเป็นตัวเร่งให้บิ๊กซีสามารถขยายร้านคอนวีเนี่ยนสโตร์ ได้อย่างก้าวกระโดด ซึ่งที่ผ่านมาการลงทุนเองก็มีส่วนที่ดี แต่ช้าเมื่อเทียบกับสปีดของคู่แข่งในตลาด"

 

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" สอบถาม บมจ.บางจากปิโตรเลียม เจ้าของปั๊ม "บางจาก" ถึงความคืบหน้าในการลงทุนทางธุรกิจรอบใหม่ หลังจากก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือทางธุรกิจระยะยาวแบบ Exclusive Partner เพื่อรวมศักยภาพและจุดแข็งของทั้งสองบริษัทในการขยายธุรกิจร่วมกัน โดยการเปิด "มินิบิ๊กซี" ในสถานีน้ำมันบางจาก 

 

ได้รับการชี้แจงจาก นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ รักษาการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานด้านธุรกิจการตลาด บมจ.บางจากปิโตรเลียมว่า แฟรนไชส์มินิบิ๊กซี 

 

สาขา แรกในปั๊มน้ำมันบางจาก น่าจะเห็นในเดือนพฤษภาคมนี้ ปัจจุบันอยู่ในช่วงการพูดคุยกันว่าโมเดลการขายแฟรนไชส์จะออกมาในรูปแบบไหน รวมถึงระบบการจัดเก็บค่าแฟรนไชส์ ร่วมกันระหว่างบางจาก ดีลเลอร์ที่เป็นสถานีน้ำมันบางจาก และบิ๊กซี โดยแผนขยายสาขามินิบิ๊กซีในปั๊มบางจาก ปีนี้วางไว้ 150 สาขา จากปัจจุบันมี 62 สาขา

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ถือเป็นความพยายามของบิ๊กซีในการเร่งสปีดสาขา เพื่อไปสู่เป้าหมายที่ต้องการเปิดบิ๊กซีให้ได้ถึง 1,250 สาขาในปี 2559 แบ่งเป็น มินิบิ๊กซี จำนวน 950 สาขา ขณะที่ตัวเลขสาขา ณ สิ้นปี 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 427 สาขา โดยชูกลยุทธ์เอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้ บิ๊กซีได้จับมือค้าปลีกไอที "เจมาร์ท" เป็นเอ็กซ์คลูซีฟพาร์ตเนอร์ พัฒนาคอมมิวนิตี้มอลล์ร่วมกัน โดยจะนำ "มินิบิ๊กซี" เข้าไปอยู่ในโครงการที่พัฒนาขึ้น
 

 
 

ขณะเดียวกันก็เป็นการ รับมือการแข่งขัน ซึ่งบรรดาค่ายต่าง ๆ ก็เร่งขยายสาขาเต็มที่ โดยเจ้าตลาดอย่างเซเว่นอีเลฟเว่นมีแผนจะเปิดสาขาใหม่มากกว่า 600 สาขา ถึงสิ้นปีนี้จะมี 8,000 สาขา แฟมิลี่มาร์ทจะเปิดอีก 300 สาขา ปัจจุบันมีอยู่ 1,053 สาขา ซึ่งทั้งเซเว่นฯและแฟมิลี่มาร์ทมีทั้งการลงทุนของบริษัทเองและขายแฟรนไชส์ 

 

ขณะ ที่รายอื่น ๆ อาทิ ลอว์สัน จะเปิดอีก 100 สาขา จากที่มีอยู่ 50 สาขา ด้านเทสโก้ โลตัส หลังจากใช้โมเดล "โลตัส เอ็กซ์เพรส" ในการรุกตลาดค้าปลีกไซซ์เล็กมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ปีที่แล้วก็ได้แตกโมเดลร้านสะดวกซื้อเป็นครั้งแรกภายใต้แบรนด์ "365" โดยตั้งเป้าปีนี้จะเปิดให้ได้ 5 สาขา เพื่อศึกษาตลาดและพฤติกรรมลูกค้าในทำเลที่แตกต่างกัน

อ้างอิงจาก ประชาชาติธุรกิจ