นายภูดิศ กิตติธราดิลก กรรมการผู้จัดการ บริษัท มายบิซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเปิดดำเนินธุรกิจในระบบเครือข่ายโดยมีแนวคิดในการสร้างธุรกิจเน็ตเวิร์คแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ของคนในยุคสมัยนี้ โดยมุ่งเน้นเปิดกว้างด้านการสร้างรายได้ ทั้งนี้บริษัทมีจุดแข็งโดยนำเข้าสินค้าเพื่อความงามระดับพรีเมียมจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งบริษัทได้รับลิขสิทธ์เจ้าเดียวเพื่อทำตลาดในเอเชียนอกเหนือจากในประเทศ

 

สำหรับสินค้าที่เป็นพระเอกของมายบิซอยู่ในกลุ่มต่อต้านความชรา หรือ Ani-Aging ซึ่งกำลังอยู่ในกระแสที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย และปัจจุบันมีผู้เล่นในตลาดจำนวนมากรวมทั้งในระบบเครือข่ายก็มีหลายบริษัทที่นำเอานวัตกรรมต่อต้านความชรามาแข่งขันกันในรูปแบบต่างๆ แต่สำหรับมายบิซมีจุดเด่นคือผลิตภัณฑ์ของบริษัทภายใต้แบรนด์ L,ENCLOS (ลองคอส) จะนำร่องด้วยผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบสเปรย์ซึ่งการใช้จะง่ายกว่าและใช้ได้บ่อยกว่า ทำให้เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใช้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากเปิดตลาดมาไม่นานก็มีสมาชิกกว่า 1,000 รหัส

 

นายภูดิศ กล่าวว่า จากที่ตนมีประสบการณ์ในธุรกิจเครือข่ายทำให้คิดรูปแบบการทำธุรกิจที่แตกต่างไปจากเครือข่ายทั่วๆ ไป โดยมองว่าทำอย่างไรนักธุรกิจจึงจะประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน อีกทั้งตอบสนองต่อความต้องการของชีวิตคนในยุคปัจจุบัน จึงคิดคอนเซ็ปต์ธุรกิจออกมาเป็น 3 ประสาน คือ

 

“การทำเครือข่ายแบบเก่าไม่ใช่ไม่ดี แต่ภาพคือการขายฝัน ดังนั้นทำอย่างไรเราจึงจะทำให้เกิดธุรกิจเครือข่ายที่จับต้องได้ จึงเกิดเป็นโมเดลธุรกิจที่มีความแตกต่างออกไป โดยมายบิซจะผลิตคนที่ทำตลาดผ่านระบบการตลาดเครือข่าย โดยโปรดักท์ของเราอิมพอร์ตจากเกาหลีที่มีจุดแข็งเรื่องแอนตี้เอจจิ้ง ส่วนคนที่สนใจเปิดแฟรนไชส์กับเราโอกาสธุรกิจคือนอกจากตลาดทั่วไป ยังสามารถได้รับผลประโยชน์จากเครือข่ายที่มีการแนะนำเข้าไปใช้บริการ และอินสไตล์ อคาเดมี จะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ครบวงจรเพื่อให้คนสามารถพัฒนาตนเองได้ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการตลาดและการพัฒนาบุคคลิกภาพ”
 

 
 

สำหรับโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ความงาม โชวาโย มีการลงทุนเริ่มต้นที่ 1,000,000 บาท โดยบริษัทมีแผนที่จะเปิดในช่วงปลายปีนี้กว่า 25 แห่ง ทั้งนี้จะเริ่มต้นแฟรนไชส์ต้นแบบก่อน 4 แห่งคือ กรุงเทพฯ ขอนแก่น นครราชสีมา และนครปฐม โดยมี 2 โมเดลธุรกิจคือแบบธรรมดาและแบบพรีเมียม ตามความต้องการของผู้ลงทุน ทั้งนี้บริษัทมีระบบสนับสนุนความสำเร็จโดยทีมงานมืออาชีพ

 

กรรมการผู้จัดการมายบิซ กล่าวต่อว่า ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ บริษัทเตรียมจัดงานใหญ่เพื่อเซ็นสัญญาร่วมทุนกับพันธมิตรประเทศเกาหลี โดยบริษัทได้รับไลเซนส์ในการจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ L,ENCLOS (ลองคอส) เจ้าเดียวในเอเชีย ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการรุกตลาด AEC ต่อไป ทั้งนี้หลังจากเซ็นสัญญาร่วมทุนแล้ว บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวบริษัทอย่างเป็นทางการในปีหน้าและตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างยอดขายปีแรก 500 ล้านบาทในเบื้องต้น แต่จากความพร้อมของบริษัท ตลอดจนบุคลากรซึ่งมากด้วยความสามารถและประสบการณ์ ทำให้มีโอกาสูงที่จะสามารถสร้างยอดขายพันล้านในปีแรกนี้

 

อนึ่ง นายภูดิศ กิตติธราดิลก กรรมการผู้จัดการ บริษัท มายบิซ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จบการศึกษาเภสัชศาสตร์บัณฑิต สาขาบริบาลเภสัชกรรม (Doctor of Pharmacy) จากมหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก และศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร พิษณุโลก มีประสบการณ์ในการทำธุรกิจบริการ การสร้างแบรนด์ และระบบแฟรนไชส์มากว่า 10 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจสถาบันกวดวิชา ร้านขายยา และแฟรนไชส์กาแฟ

ซึ่งทำการตลาดในรูปแบบที่แตกต่างและโดดเด่น เข้าสู่งานบริหารและเป็นเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางและ Anti-Aging โดยมีประสบการณ์การทำงานทั้งรูปแบบซิงเกิล เน็ตเวิร์ค และแฟรนไชส์ โดยเน้นการทำงานเชิงระบบทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ สามารถสร้างยอดธุรกิจมากกว่า 300 ล้านบาท ในระยะเวลา 3 ปี

อ้างอิงจาก นสพ.บ้านเมือง