|
|
|
|
27 เมษายน 2555 |
เบอร์เกอร์ คิง เล็งซื้อไข่-เนื้อหมูทั้งหมด จากปศุสัตว์ปลอดกรงขังเท่านั้น
เบอร์เกอร์ คิง แฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟูดของสหรัฐฯ ประกาศ เตรียมเปลี่ยนไปซื้อไข่ไก่ และเนื้อหมูทั้งหมดที่บริษัทใช้ จากฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์โดยไม่ขังกรงเท่านั้น ภายในปี 2017
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า 'เบอร์เกอร์ คิง' แฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟูดใหญ่อันดับ 2 ของโลก และอันดับที่ 3 ของสหรัฐฯ ออกมาประกาศว่า บริษัทจะเปลี่ยนไปสั่งซื้อ ไข่ไก่ และเนื้อหมูทั้งหมด จากฟาร์มที่เลี้ยงหมูและไก่โดยไม่ขังกรงเท่านั้นภายในปี 2017 โดย โจนาธาน ฟิตซ์แพทริค หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติงานของเบอร์เกอร์คิง ระบุว่า นี่เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม
ปัจจุบัน ไข่ไก่ 9 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนหลายร้อยล้านฟอง และเนื้อหมูกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนหลายสิบล้านปอนด์ ที่เบอร์เกอร์ คิง ใช้ในแต่ละปี มาจากฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์โดยปราศจากกรงขัง โดยนายเวน พาเซลล์ ประธานสมาคมมนุษยธรรมแห่งสหรัฐอเมริกา (เอชเอสยูเอส) ก็ออกมาชื่นชมท่าทีของเบอร์เกอร์ คิง และระบุว่า สิ่งนี้จะช่วยใหญ่สัตว์หลายหมื่นตัวมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เบอร์เกอร์ คิง นับเป็นแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟูดเจ้าแรก ที่ประกาศจะดำเนินนโยบายดังกล่าว หลังจากที่แม็คโดนัลด์ และเวนดีส์ สองแฟรนไชส์อาหารฟาสต์ฟูดรายใหญ่ของอเมริกา เรียกร้องให้ฟาร์มคู่ค้า เลิกใช้วิธีเลี้ยงสัตว์แบบขังกรง ซึ่งทำให้มาตรฐานการเลี้ยงดูสุกรเนื้อดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้ เคยมีผลการศึกษาระบุว่า การเลี้ยงไก่แบบเปิด หรือไม่ใช้กรง จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และทำให้ราคาไข่ไก่ในตลาดสูงขึ้นอย่างน้อยฟองละ 1 เซนต์ ( ราว 30 สตางค์) แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า เนื้อหมูจะมีราคาแพงขึ้นเท่าใด
อ้างอิงจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
|
|
|
|
|
