|
|
|
|
10 มีนาคม 2555 |
เซเว่นฯเร่งผุดสาขาเป้า7พันปี56
นายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะนายกสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในปีนี้ที่มีมูลค่าประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท มีโอกาสเติบโตได้ 7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
เป็นผลมาจากนโยบายการปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาท ที่มีผลในเดือน เม.ย.นี้ ทำให้กำลังซื้อของประชาชนปรับตัวเพิ่มขึ้น สถานการณ์ท่องเที่ยวในไทยที่อยู่ในภาวะดีต่อเนื่อง และราคาพืชผลทางการเกษตรที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีกำลังซื้อที่ดีขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ภาคธุรกิจค้าปลีกมีความคึกคักมาก
สำหรับภาพรวมการแข่งขันในธุรกิจค้าปลีก ถือว่า ยังแข่งขันที่สูงอยู่ และแนวโน้มราคาสินค้าอุปโภคบริโภค มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง แต่ไม่สามารถประเมินได้ว่า ราคาสินค้าจะสูงขึ้นในระดับเท่าใด ส่วนความคืบหน้าของ การร่าง กฎหมายค้าปลีกฉบับใหม่นั้น อยู่ระหว่างการร่างของ กฤษฎีกา แต่มั่นใจว่าไม่มีผลกระทบการขยายสาขาใหม่แต่อย่างใด เพราะจะกระทบกับกลุ่มผู้ประกอบการรายใหม่ที่จะเปิดสาขาได้ยากขึ้น แต่กลุ่มผู้ประกอบการรายเดิมยังขยายสาขาได้อยู่
ขณะที่แผนเปิดสาขาใหม่ของ ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น วางเป้าหมายจะขยายให้ครบ 7,000 สาขา ภายในปี 2556 จากปัจจุบันมีสาขาประมาณ 6,400 สาขาทั่วประเทศ ทำให้ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในไทย มีจำนวนสาขามากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จากปัจจุบัน มีสาขาอยู่ในอันดับ 3 ของโลก โดยประเทศที่มี สาขามากที่สุดในโลก คือ ญี่ปุ่น มีจำนวนสาขา 13,000 สาขา รองลงมาเป็น ประเทศสหรัฐ มีจำนวน 7,000 สาขา นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจขยายสาขาใหม่ในต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในประเทศจีน เพราะเศรษฐกิจขยายตัวได้ดี และกำลังซื้อในประเทศอยู่ในระดับสูง
ส่วนการขยายธุรกิจในปี 2555 จะเน้นเปิดร้านคัดสรร โดยเป็นร้านขนมและเบเกอรี่ ซึ่งอยู่ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เพิ่มขึ้น เพราะสร้างยอดขายเติบโตได้อย่างน่าพอใจในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ ได้มีแผนรับมือกับปัญหาน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้น ทั้งการให้ความสำคัญของการคลังสินค้า (ดีซี) ในต่างจังหวัด เพื่อให้สามารถขนส่งสินค้าไปทั่วประเทศได้ หากเกิดปัญหาสินค้าในพื้นที่ใดเกิดปัญหาน้ำท่วม ทั้งนี้ สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน แบ่งเป็น สาขาใน กทม. 3,000 สาขา และต่างจังหวัด 2,400 สาขา โดยสัดส่วนร้านเป็น ร้านแฟรนไชส์ 53% และร้านที่บริษัทเป็นเจ้าของ 47% พร้อมกับตั้งเป้าหมายว่า ในอนาคตต้องการผลักดันสาขาที่มีอยู่ทั้งหมดให้เป็นร้านแฟรนไชส์
ทั้งนี้ได้ตั้งเป้าหมายรายได้รวมในสิ้นปี 2555 เติบโต 15% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 161,889 ล้านบาท โดยในปี 2554 ที่ผ่านมา รายได้เติบโต 15.3% สูงเกินเป้าหมายที่วางไว้
อ้างอิงจาก แนวหน้า
|
|
|
|
|
