“เอสเอ็มอีแบงก์” ผุด 3 สินเชื่อใหม่ หนุนลูกค้าชั้นดี
เอสเอ็มอีแบงก์ คลอดสินเชื่อใหม่ 3 โครงการ ฉีดเงินต่อยอดให้ลูกค้าชั้นดี 3,000 ล้านบาท พร้อมลดดอกเบี้ยหวังกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า เชื่อมั่นทำให้ยอดสินเชื่อออกสู่ระบบมากขึ้น
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) กล่าวว่า เพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากตามนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนปล่อยสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีมากขึ้น และให้เกิดเงินหมุนเวียนมีเงินต่อยอดในกิจการ ดังนั้น เอสเอ็มอีแบงก์จึงได้ออกสินเชื่อ 3 โครงการคือ
1. ผลิตภัณฑ์สินเชื่อตัวใหม่ “สินเชื่อเสริมสภาพคล่องลูกค้าชั้นดี”
- เพื่อเสริมสภาพคล่องและลดต้นทุนทางการเงินให้แก่ลูกค้าเดิม ที่มีประวัติการชำระหนี้ที่ดี มีเงินทุนหมุนเวียน หรือขยายกิจการ โดยตั้งวงเงินไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยเปิดให้บริการจากปัจจุบันไปถึงสิ้นปี 2550 โดยสินเชื่อดังกล่าวจะเน้นเฉพาะลูกค้าชั้นดีเท่านั้น ที่มีการชำระหนี้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 12 เดือน ที่ไม่เคยปรับโครงสร้างหนี้มาก่อน สามารถยื่นขอกู้สูงสุดได้ไม่เกิน 100 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราเดิมลบด้วยร้อยละ 1 แต่ไม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ย MLR ปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 7.50 ต่อปี โดยกลุ่มลูกค้าชั้นดีจะมีอยู่ประมาณ 20,000 ราย
สำหรับโครงการที่ 2 คือ “ ซุปเปอร์ไพรม์โปรเจกต์”
- ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกค้าชั้นดีภายในเดือนเมษายนนี้ โดยจะคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ถึง MLR -1 เพื่อจูงให้ลูกค้าใหม่เข้ามาใช้สินเชื่อ และป้องกันลูกค้าชั้นดีของธนาคารไหลไปยังธนาคารอื่น เชื่อว่าจะลดปัญหาเอ็นพีแอลได้ เพราะจะปล่อยสินเชื่อให้เฉพาะกลุ่มที่มีผลประกอบการดี และต้องการนำเงินไปลงทุนขยายกิจการ และใช้เงินเพื่อรีไฟแนนซ์ ซึ่งจะปล่อยสินเชื่อให้วงเงินตั้งแต่ 15 ล้านบาทขึ้นไป
ส่วนโครงการที่ 3 คือ “ การพลิกฟื้นกิจการ”
- เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างหนี้ให้ลูกค้าที่มีปัญหาและมีโอกาสในการฟื้นฟูกิจการได้ ซึ่งจะเป็นการให้โอกาสแก่ลูกค้าที่มีความตั้งใจจริงในการประกอบธุรกิจ แต่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกทำให้ขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดยเตรียมเงินรองรับโครงการดังกล่าว 1,000 พันล้านบาท สิ้นสุดโครงการ 31 ธันวาคมนี้ วงเงินสินเชื่อไม่เกิน 100 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้ไม่เกิน 5 ปี อัตราดอกเบี้ย MLR+ 1
นายพงษ์ศักด์ ระบุต่อว่า แม้การปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ จะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ร้อยละ 20-30 แต่หลังออกโครงการทั้ง 3 โครงการแล้วเชื่อมั่นว่าการปล่อยสินเชื่อออกสู่ระบบจะมากขึ้น และทำได้ตามเป้าหมายในปี 50 ประมาณ 35,600 ล้านบาท
เพื่อให้ลูกค้ามีเงินหมุนเวียนมาก โดยขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานสินเชื่อทั้ง 99 สาขาทั่วประเทศ เริ่มออกพื้นที่เข้าหาลูกค้าเพรารู้จักประวัติของลูกค้าแต่ละรายเป็นอย่างดี
ที่มา :ผู้จัดการออนไลน์