|
|
|
|
22 ตุลาคม 2554 |
จันทร์สว่าง มองข้ามปัญหาน้ำ เพิ่มแรงเหวี่ยงชักธงรบเดินหน้าตปท.
“จันทร์สว่าง” ขายตรงเชื้อไทยแท้ ยังไม่หวั่นสถานการณ์น้ำท่วมมากนัก เชื่อผู้บริโภคยังให้ความสำคัญ และมีความต้องการ ในสินค้า แต่มีแผนงาน ตั้งรับเตรียมขยายสาขา เพิ่มแรงเหวี่ยงการซื้อทั้งระบบ พร้อมหวังเปิดตลาดต่างประเทศเพิ่ม หลังช่องทางส่งออกไปได้สวย สุดมั่นใจ 300 ล้านบาท ได้เห็นปลายปี
ดร.กัญชร จันทร์สว่าง ประธาน บริษัท จันทร์สว่าง เฮิร์บเบิล ไลน์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอาง สมุนไพรจันทร์สว่าง เปิดเผยว่า “ในปัจจุบันศูนย์ความงามจันทร์สว่างได้เปิดให้บริการ กว่า 500 ศูนย์ทั่วประเทศ และบริษัทได้มีการเปิดสถาบันเสริมความงาม เพื่ออบรมหลักสูตรต่างๆ เช่น การนวดหน้า นวดหน้าอก นวดตัว เพื่อเป็นการเผยแพร่ให้กับผู้สนใจร่วมทำธุรกิจ โดยที่ผ่านมาจากการใช้ยุทธศาสตร์หลัก คือการนำจุดดีของ “ธุรกิจแฟรนไชส์” กับ “ธุรกิจขายตรง” มารวมกัน เช่น การนำสินค้าเข้าไปขายในเซเว่นอีเลฟเว่น ทำให้ การกระจายสินค้าสู่มือผู้บริโภคและการ ขยายศูนย์ความงามจันทร์สว่าง เป็นไปอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น”
โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ บริษัทก็ได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานไว้ว่า จะเน้น การปรับปรุง และขยายระบบงานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเพิ่มศูนย์ความงาม ที่บริษัทกำลังเน้นการอบรมซูเปอร์ ไวเซอร์ เพื่อเตรียมกำลังขยายสาขาไปทั่วประเทศ เสมือนกับหนึ่งตำบลต้องมีหนึ่ง ศูนย์ความงาม, เพิ่มผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอาหารเสริมที่เป็นเครื่องดื่มดูแลสุขภาพ, มุ่งเน้นการโฆษณาประชาสัมพันธ์, เพิ่มโปร โมชั่นพิเศษ ซึ่งในเรื่องของโปรโมชั่น ดร.กัญชร กล่าวว่า “จริงๆ ทางบริษัทก็ออกเป็นปกติอยู่แล้ว คือ ภายในหนึ่งเดือน บริษัทจะออกโปรโมชั่น 2 ครั้ง คือช่วงต้นเดือน กับช่วงปิดยอดตอนปลายเดือน และบริษัทยังได้เร่งโปรฯ ท่องเที่ยวพิเศษ 2 ประเทศคู่กัน คือ ฮ่องกงกับมาเก๊า”
นอกจากนี้ จันทร์สว่างยังได้เตรียมแผนที่จะเพิ่มในเรื่องช่องทางของการต่าง ประเทศ เนื่องจากปัจจุบันคนไทยได้ไปทำงานและอาศัยอยู่ในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ดังนั้นในปัจจุบันเราจึงได้ส่งสินค้าออกไปจำหน่ายยังตลาดต่างประเทศ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้สินค้าจะกระจายไป เกือบทุกๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นแถบอาเซียน หรือยุโรป โดยแถบอาเซียนก็จะเป็นในส่วนของ ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว มาเลเซีย พม่า ส่วนยุโรปขณะนี้ช่องทางจำหน่ายจะมีทั้งแบบตัวแทนและแบบศูนย์ ความงามซึ่งเปิดอยู่ที่ประเทศเยอรมนี อเมริกา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนซ์
โดยหากมองความนิยมในตลาดต่าง ประเทศขณะนี้ ประเทศที่มีความนิยมในสินค้าของจันทร์สว่างสูงสุด โดยส่งออกติดต่อกันเกือบสิบกว่าปีมาแล้วก็คือ ประเทศ กัมพูชา และหากมองสัดส่วนของยอดขาย ตลาดต่างประเทศโดยภาพรวมจะอยู่ที่ประมาณ 15% เมื่อเทียบกับยอดขายทั้งหมดของบริษัท
ในปีนี้จันทร์สว่างตั้งยอดขายไว้ที่ 300 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ดร.กัญชร บอกว่า “ยอดก็ไม่ได้ขึ้นหวือหวานักแต่ก็ไม่ได้ลดลง โดยเปอร์เซ็นต์ของยอดขายหลักๆ จะมาจากศูนย์ในแถบกรุงเทพฯ เป็นอันดับหนึ่ง คือประมาณ 98 ศูนย์ อันดับสอง คือ อีสาน ประมาณ 97 ศูนย์ และที่อื่นๆ รวมกันประมาณกว่า 60 ศูนย์”
“โดยในปีต่อไป บริษัทก็เตรียมการที่จะรุกไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะในแถบประเทศยุโรป เพราะหากมองบ้านเราในขณะนี้ตนก็หวั่นใจ เพราะกำลังประสบวิกฤติอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สภาวะแวดล้อม ภัยพิบัติธรรมชาติ บริษัทจึงต้องเน้นตลาดต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่” ดร.กัญชร เผย
ส่วนวิกฤตการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ ก็ส่งผลกระทบต่อบริษัทบ้าง แต่ยังไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับด้านการขนส่ง เนื่องจากธุรกิจเกี่ยวกับความสวยความ งามตนมองว่า “ยังไงไม่ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ไม่อยากลดความสวยความ หล่อ จึงทำให้ธุรกิจของจันทร์สว่างยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสินค้าของ บริษัทเราก็เป็นสมุนไพรมีราคาไม่แพง หากเทียบกับสินค้าต่างประเทศ ซึ่งจะมีราคาที่สูงกว่า”
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทก็ได้เตรียมแผนตั้งรับกับวิกฤติครั้งนี้ โดยใช้วิธีการอบรม คืออบรมอย่างเข้าถึง ใช้การโฆษณา หรือการสัญจรที่เข้าถึงได้ และตนมองว่าจุดแข็งที่สุดของจันทร์ สว่างที่ทำให้เราเติบโตได้จนถึงปัจจุบันก็คือ คุณภาพของสินค้า ซึ่งเราจะต้องเน้นพัฒนา เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค แม้จะเกิดช่วงวิกฤติ
และสุดท้ายตนก็อยากฝากว่า ในสภาวะภัยธรรมชาติในขณะนี้บางคนก็อาจจะท้อแท้หมดกำลังใจ ทางจันทร์สว่างก็เป็นกำลังใจให้ คือ ใครต้องการสร้างงาน บริษัทก็สามารถจะเสริมอาชีพให้ได้ เพราะว่าอาชีพหลักบางครั้งก็ถูกทำลายไปเพราะภัย ธรรมชาติ ดังนั้นผู้สูญเสียก็สามารถเข้ามาทำงาน มาฟื้นฟูอาชีพ กับจันทร์ สว่างได้ โดยที่บริษัทจะมีการอบรมให้ ซึ่งจะทำให้พวกเขาสร้างอาชีพนี้ได้โดยที่ไม่ต้องลงทุน
อ้างอิงจาก สยามธุรกิจ
|
|
|
|
|
