4.7K
9 มีนาคม 2550
‘Santa Fe Steak & More’ เร่งหัวจักร บุกห้างภูธร
 
 
 
สเต๊กคันทรีสไตล์รถไฟโบราณ ปู้น ปู้น... “Santa Fe” ชูบรรยากาศการกินพิชิตใจลูกค้า ท่ามกลางคู่แข่ง หลากระดับกระจายตัวทั่วเมือง ยํ้ากระตุ้นยอดขายสาขา ด้วยกลยุทธ์ราคา และโปรโมชั่นสินค้าใหม่ รุกขยาย ชอปเพิ่มนอกเมืองกรุง มุ่งตามห้างสรรพสินค้า 
 
อาหารฝรั่งที่เห็นจะได้รับความนิยมกันแพร่หลาย หากินง่าย อิ่ม (จนแน่น)ท้อง และราคาสมเหตุสมผล คงต้องยกให้ “สเต็ก” ไม่ว่าจะเป็นสูตรดั่งเดิม อย่างเนื้อวัว หรือจะเป็นเนื้อหมู ไก่ ปลาทะเลก็แล้วแต่ จนมีร้านค้าผุดขึ้น

ตามกระแสนิยมทั้งที่มีแบรนด์และโนเนม หรือเป็นเครือข่าย (Chain) บ้างจับกลุ่ม ลูกค้าหลากหลายทั้งตลาดล่าง กลาง และบน ซึ่งความต่างก็ขึ้นอยู่กับแนวคิด ของอาหารและการตกแต่งร้านที่จะสื่อออกมาในรูปแบบใด “ซานตาเฟ่ สเต็กแอนด์มอร์”

ภายใต้การดำเนินงานของบริษัทเคที เรสทัวรองท์ จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 โดยซื้อสูตร (Know How) มาจากอเมริกา แล้วมาพัฒนา เอง พร้อมเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2546 จากการตระหนักรู้เรื่อง พฤติกรรมลูกค้ารู้จักสเต็กทั่วโลก ซึ่งจะแตกต่างกันตามแต่ละประเทศ กอปรกับ กระแสแฟรนไชส์มาแรงในช่วงปี 2546
 
 
 
 เมื่อได้สินค้าที่จะขายแบ่งออกเป็น 3 หมวด หลักๆ คือ สเต็ก, พาสต้า และ อาหารอื่นๆ เช่น สลัดผัก ซุป ขนมปังกระเทียม เป็นต้น ขั้นตอนที่ตามมาคือ คอนเซ็ปต์ร้านที่จะสะท้อนในรูปของ ชื่อ (Brand) นายสุรชัย ชาญอนุเดช กรรมการผู้จัดการ บริษัทเคที เรสทัวรองท์ จำกัด

กล่าวว่า “ซานตาเฟ่” คือชื่อเมืองของนิวเม็กซิโก ที่อยู่ระหว่างอเมริกาเหนือและ อเมริกาใต้ โดยอาชีพหลักคือการเลี้ยงโคเนื้อ และเป็นชุมทางรถไฟ ทั้งหมดล้วน บ่งบอกความเป็นร้านสเต็ก “Santa Fe,” ได้ชัดเจน ทั้งนี้ยังยํ้าความต่างด้วยการ ใส่รถไฟ และตกแต่งด้วยโบกี้รถไฟให้นั่งและมีคนปรุงอาหารอยู่ในโบกี้ พร้อมครัว เปิด (Open Kitchen)
 
นอกจากนั้น ยังมีเทคนิคการบริการ เป็นมิตรกับลูกค้า และการกระตือรือร้น ด้วยการบ่มเพาะบุคลากรคุณภาพอาหารและบริการ ผสานบริหารจัดการด้วยระบบ ไอทีอันทันสมัยเป็นจุดขาย ตลอดจนระบบ MIS (Management Information System)

ในการบริหารสต๊อกสินค้า เพื่อการรวบรวมข้อมูลยอดการซื้อสินค้าแต่ละประเภท เพื่อตรวจสอบและวางแผนการลดของเสีย ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายของต้นทุน ได้ประมาณร้อยละ 1 ของราคาต้นทุน
 
 นายสุรชัย กล่าวต่อว่า บริษัทฯ จะกระตุ้นการขายระบบแฟรนไชส์ทั้ง 3 แบ รนด์ที่มีอยู่มากกว่าการซื้อแฟรนไชส์จากต่างประเทศเข้ามาเปิด แม้ว่าจะได้ประโยชน์ เรื่องการแลกเปลี่ยนโนว์ฮาวซึ่งกันและกัน แต่เพราะต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายเกิน

จำเป็นและยังขาดความคล่องตัวในการบริหารจัดการด้วย ด้านภาพรวมยอดขาย ของบริษัทฯ ในปี 2549 อยู่ที่ 240 ล้านบาท ซึ่งจะมาจาก “Santa Fe,” 110 ล้านบาท ตามด้วยครัวไท 90 ล้านบาท และมิสเตอร์เหม็ง 40 ล้านบาท “คาดในปีหน้า (2550) จะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา แบ่งเป็นแฟรนไชส์ 4 แห่ง
 
และบริหารเองหนึ่งแห่งที่ผมจำกัดไว้ก็เพราะ ต้องการควบคุมความสมดุลย์ของสัดส่วนไว้ไม่ให้เลื่อมลํ้ากัน ที่สำคัญเราขายสเต็กเป็นหลักไม่ใช่ ขยายร้าน คาดเติบโตมากกว่าร้อยละ 30 จาก ยอดขายร้านเดิมร้อยละ 7-10 และลูกค้าจาก ร้านใหม่ร้อยละ 20

ซึ่งมาร์จิ้นจะมาจากรายรับ ตอ่ หัวของลูกคาหนาใหมและความถี่ของลูกค้าเก่า ” “สเต็กแอนด์ มอร์” โมเดลรุกตจว. ซานตาเฟ่ สเต็ก แอนด์ มอร์ (Santa Fe, Steak & More) สาขาห้างเทสโก้ โลตัส ภูเก็ต กับบรรยากาศการตกแต่งร้านเหมือนนั่งอยู่ใน ขบวนรถไฟสไตล์คันทรี โดยมีผู้ถือหุ้นสามราย

ซึ่งครํ่าหวอดในวงการธุรกิจอาหาร อย่าง ‘วิภานันท์’ ทายาทร้านคุณแม่จู้ ร้านจำหน่าย ของฝาก ของที่ระลึกของภูเก็ต ‘วนิดา’ จากร้าน หมี่แป๊ะกง (ร้านหมี่ต้นโพธิ์) และ ‘ณัฐณิช’ ชำนาญด้านการบริหารร้านกาแฟแบล็คแคนยอน ทุกสาขาในภูเก็ต ถือเป็นแฟรนไชส์รายแรกของ เมืองท่องเที่ยวนี้
 
นายสุรชัยกลาวว่าปัจจุบันตลาดในต่างจังหวัด ของซานตาเฟ่ นอกจากภูเก็ตแล้ว ยังมีพัทยาและ หาดใหญ่ ซึ่งสิทธิประโยชน์ของแฟรนไชซีคือ เจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์พร้อมทำหน้าที่ออกแบบ ตกแต่งร้าน และจัดอบรมพนักงานให้เบ็ดเสร็จ ตลอดจนวัตถุดิบจะส่งตรงมาจากบริษัทแม่ที่ กรุงเทพฯเพื่อลดภาระรับผิดชอบบริหารต้นทุน นอกจากนั้นในเรื่องการลงทุน กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่าบริษัทฯ จะเป็นผู้ช่วยในการดำเนิน การขอกู้เพื่อการลงทุนด้วย
 
 
 
 “ส่วนการตลาด เราก็จะช่วยตลอด ซึ่ง Price Strategy เพียง 89 บาทถือเป็นโปรโมชัน พร้อม บริหารต้นทุนวัตถุดิบเพื่อคงราคาเดิม และสร้าง รูปแบบอาหารชุด (Combo Set)หรือเสริมไวน์ ชั้นดีให้กับคู่รักในวันวาเลนไทน์ รวมทั้งเมนูจะ ปรับให้รองรับคนท้องถิ่นต่อไปในอนาคต เช่น ข้าว กับสเต็ก หรือผสมผสานเครื่องดื่มและขนม หวานพื้นบ้านมาปรับให้เข้ากันควบคู่กับการสร้าง New Product ทุกๆ 3 เดือนและสับเปลี่ยนเมนู ใหม่ๆ”
 
“Shopping Mall” กลยุทธ์โลเกชัน “ศูนย์การค้า” สถานที่แรกๆ ที่ผุดขึ้นในสมอง ของคนเมือง แหล่งพักผ่อนจากภาวะเครียด เนื่องจากครบครันไปดว้ ยสิ่งบันเทิงทั้งโรงภาพยนตร์ สปา ศูนย์ความงาม สวนสนุกขนาดย่อมสำหรับ น้องหนู หรือจะเพื่อสนองตอบเสียงโครกคราก ของกระเพาะอาหาร ด้วยการเดินเข้าร้านที่มีให้ เห็นดาษดื่น
 
นายสุรชัย เปิดเผยว่า ทิศทางในการเดินหน้า ของ “ซานตาเฟ่ สเต็ก” มุ่งแหล่งห้างสรรพสินค้า ในลักษณะพลาซ่าเป็นสำคัญ แต่ทั้งนี้การขยาย ตัวอาจต้องถูกจำกัดลงเนื่องจากกฎระเบียบเรื่อง ผังเมือง บวกกับค่าเช่าพื้นที่ในศูนย์การค้าขนาด ใหญ่ และดิสเค้าท์สโตร์มีแนวโน้มถีบตัวสูงขึ้นการ มองหาโลเกชันรายใหม่ๆ ก็น่าพิจารณา “ไลฟ์ เซ็นเตอร์” ย่านสาทร พระราม 4 กับ

จุดขายศูนย์การค้าเพื่อสุขภาพ ( Niche Market Mall) เสาะคนทำงานและครอบครัว ซึ่งค่าเช่า พื้นที่นั้นอยู่ที่ประมาณตารางเมตรละ 800 บาท ต่อเดือน โดยมีสินค้าและบริการ 4 กลุ่มหลักๆ ซึ่งแน่นอนว่ากลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม คือ กลุ่มสุดท้ายที่ “ซานตาเฟ่” แฝงตัวเข้าไปร่วม ด้วย
 
“ผมตั้งทำเลไว้ 3 รูปแบบ พลาซ่าเป็นหลัก เพราะจับกลุ่มเป้าหมายกว้างและไม่จำกัดพื้นที่ มากนัก ส่วนซุปเปอร์สโตร์และดิสเค้าท์สโตร์ อาจเพิ่มง่ายในต่างจังหวัด เนื่องจากพฤติกรรม ลูกค้าต่างจังหวัดมักกินอาหารนอกบ้านตามห้าง ส่วนลักษณะสุดท้าย คือเอ็นเตอร์เทนเม้นต์
 
 
 
ที่มา : บิสิเนสไทย 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,167
PLAY Q by CST bright u..
1,319
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
945
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
793
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด