647
24 พฤษภาคม 2566
ดีพร้อม นำทัพ จัด 3 มหกรรมคุณภาพองค์กรแห่งชาติ ปี 66 ย้ำ “คิวซี” เป็นสิ่งสำคัญ สามารถลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิตได้กว่า 4,000 ลบ.
 

กรุงเทพฯ 22 พฤษภาคม 2566 - กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม (DIPROM) จับมือสมาคมส่งเสริมคุณภาพแห่งประเทศไทย เดินหน้าแผนยกระดับกลุ่มคุณภาพ หรือคิวซี ภาคอุตสาหกรรมทั่วประเทศ จัดงานมหกรรมคิวซีแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 37 มหกรรมคุณภาพภาครัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 34 และมหกรรมคุณภาพข้ามสายงาน ครั้งที่ 6 มุ่งส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชนได้นำเสนอกิจกรรมของกลุ่มคุณภาพ เพื่อเป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมมหกรรมคุณภาพนานาชาติ ด้านกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ปลื้มดันผู้ประกอบการชูนวัตกรรม นำเทคโนโลยี ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิตได้กว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าขยายภาคธุรกิจอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องชิงความได้เปรียบในตลาดสากล 
 
นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมเผยว่า ภาคอุตสาหกรรมในโลกยุคปัจจุบัน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันหรือคิดค้นกลยุทธ์ที่ทำให้ธุรกิจมีความแตกต่างจากผู้อื่น ตามนโยบายของ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ที่มุ่งเน้น
 
 
การเพิ่มขีดความสามารถในเรื่องคุณภาพและประสิทธิภาพทั้งในส่วนของภาคการผลิตและภาคบริการ ให้เกิดขึ้นทั่วทั้งองค์กรอย่างต่อเนื่อง เมื่อคุณภาพของสินค้าและบริการดีขึ้นจะสามารถเพิ่มมูลค่าผลผลิตขององค์กรในมิติต่าง ๆ ให้สูงขึ้นได้ ซึ่งสอดคล้องกับการทำงานของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม ที่เน้นความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจภายใต้นโยบาย “ดีพร้อมโต” ผ่านกลไก “โตไว” ที่มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพและพัฒนาธุรกิจให้เติบโตทั้งภาคการผลิต สินค้า และบริการได้อย่างมั่นคง
 
อันจะส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งต่อระบบเศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมให้ภาครัฐและภาคเอกชนนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับคุณภาพทั้งภาคการผลิตและบริการ ควบคู่กับการพัฒนา
 
ภาคการผลิต ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ตลอดจนการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันทำให้อุตสาหกรรมไทยอยู่รอดและสามารถแข่งขันได้ในยุคนิวนอร์มอลต่อไป
 
โดย ดีพร้อม ได้ร่วมกับสมาคมส่งเสริมคุณภาพแห่งประเทศไทยในการส่งเสริมให้ภาครัฐและเอกชน นำกิจกรรมของกลุ่มคุณภาพ หรือ คิวซี มาปรับใช้ในองค์กรทำให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กรและแก้ไขปัญหานำมาสู่การปฏิบัติที่ก่อให้เกิดผลด้านบวก โดยแต่ละองค์กรจะมีการบริหารงานด้านวัตถุดิบและขบวนการผลิต ด้วยการป้องกัน ลดปัญหาการสูญเสียทั้งวัตถุดิบ ต้นทุนการผลิต เวลาการทำงาน และผลผลิต เพื่อให้ได้คุณภาพและมาตรฐานตรงตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนและสร้างนวัตกรรมต่าง ๆ ผ่านการจัดงานมหกรรมคิวซีแห่งประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 37 ซึ่งได้นำงานมหกรรมคุณภาพ ภาครัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 34 และมหกรรมคุณภาพข้ามสายงาน ครั้งที่ 6 มาไว้ด้วยกัน

เพื่อให้การทำกิจกรรมคุณภาพในหน่วยงานแพร่หลายยิ่งขึ้นและมีการพัฒนาคุณภาพงานให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง ยังเป็นการเผยแพร่และสนับสนุนกิจกรรมคุณภาพในทุกภาคส่วน ทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคราชการ ภาครัฐวิสาหกิจ ทั้งการผลิตและการบริการ ตลอดจนเปิดโอกาสให้กลุ่มคุณภาพรุ่นใหม่ได้มีเวทีสำหรับการเสนอผลงาน นอกจากนี้ ยังได้คัดเลือกกลุ่มคุณภาพยอดเยี่ยมเป็นตัวแทนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมเสนอผลงานในมหกรรมคุณภาพนานาชาติต่อไป

 
งานมหกรรมคิวซีแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ 22 -25 พฤษภาคม2566 รวม 4 วัน โดยได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่าง ๆ ส่งกลุ่มคุณภาพเข้าร่วมในครั้งนี้กว่า 90 กลุ่ม จาก 28 องค์กร แบ่งออกเป็นภาคอุตสาหกรรม 80 กลุ่ม ภาคราชการและรัฐวิสาหกิจ 6 กลุ่ม และกลุ่มคุณภาพข้ามสายงาน 5 กลุ่ม โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงาน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากการนำเสนอผลงานของกิจกรรมที่หลากหลายไม่ต่ำกว่าวันละ 300 คน

ทั้งนี้ จากผลการดำเนินการของกลุ่มคุณภาพในปีที่ผ่านมาสามารถสร้างความได้เปรียบให้องค์กร ทำให้สามารถแข่งขันได้ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงทั้ง 28 องค์กร สามารถลดต้นทุน ลดของเสีย ลดเวลาการผลิต ลดการใช้แรงงาน ซึ่งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้ รวมกว่า 4,000 ล้านบาท นับว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จของกิจกรรมกลุ่มคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรม
 
“การยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทย ทั้งภาคการผลิตและบริการสู่มาตรฐานสากล ถือเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน และการที่จะพัฒนาคุณภาพงานได้นั้น บุคลากรต้องได้รับการพัฒนาควบคู่กันไป เพราะสินค้าและบริการจะพัฒนาไม่ได้ ถ้าบุคลากรไม่มีจิตสำนึกและไม่มีคุณภาพ เราจึงต้องพัฒนาปรับปรุงอย่างก้าวกระโดด ซึ่งการดำเนินงานมหกรรมคุณภาพที่ผ่านมาได้ส่งผลเชิงบวก ต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมของไทยทั้งในด้านการเพิ่มผลผลิตและการลดต้นทุน

นับเป็นการสร้างความได้เปรียบให้องค์กรไทยในการแข่งขันทั้งตลาดในและต่างประเทศอย่างเข้มแข็งเป็นไปตามพันธกิจของดีพร้อมที่มุ่งเน้นและพร้อมที่จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมไทยสู่มาตรฐานสากลอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นายใบน้อย กล่าวทิ้งท้าย  
 

ที่มา : กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 0 2430 6865-66 ต่อ 1033 
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,679
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,477
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,447
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,142
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
895
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
848
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด