เดอะพิซซ่าฯเพิ่ม43สาขาใหม่บุกหนักตลาดใน-ต่างประเทศ 

เดอะพิซซ่าฯ กางแผนปีนี้เพิ่ม43สาขาใหม่บุกหนักตลาดใน-ต่างประเทศผ่านโฉมใหม่ รับครอบรอบ10ปีส่ง “โน้ส อุดม” ทูตแห่งความสุข ย้ำเจ้าตลาดแชร์75%

นายแอนดี โฮลแมน รองประธานกรรมการและผู้จัดการทั่วไปบริษัท เดอะพิซซ่า คอมปะนี ประเทศไทย และส่วนแฟรนไชส์ต่างประเทศ ในเครือบริษัทไมเนอร์ กรุ๊ป เปิดเผยว่าในปี54 บริษัทมีแผนขยายการลงทุนธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน(คิวเอสอาร์) “เดอะพิซซ่า คอมปะนี” ทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โฉมการตกแต่งร้านใหม่ รูปแบบร้านอาหารอิตาลีที่ทันสมัยมากขึ้น หลังดำเนินธุรกิจในประเทศและฉลองครอบรอบ 10 ปีในปีนี้ โดยใช้งบลงทุนในประเทศไม่ต่ำกว่า200 ล้านบาท จากปีก่อนใช้งบราว 250-300 ล้านบาทดำเนินการปรับโฉมสาขารูปแบบใหม่ไปแล้ว 82 สาขา จากปัจจุบันมี208สาขาทั่วประเทศ
 

สำหรับงบลงทุนใหม่ดังกล่าว แบ่งเป็นการใช้ปรับปรุงโฉมสาขาเดิมจำนวน 31 สาขา และเปิดร้านสาขาใหม่ 12 แห่ง คาดแต่ละสาขาใช้งบลงทุนเฉลี่ย10-12 ล้านบาท แบ่งเป็น 5 สาขาบริษัทเป็นผู้ลงทุนเอง และอีก 7 สาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งให้บริการทั้งรูปแบบร้านอาหารนั่งรับประทาน(ได-อิน) 7 แห่ง และร้านจัดส่ง 5 แห่ง พร้อมกันนี้บริษัทยังเห็นโอกาสขยายธุรกิจร้านเดอะพิซซ่า คอมปะนี ในต่างประเทศ อีก 4 ประเทศใหม่ และมีจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นอีก 21 แห่ง จากปัจจุบันเปิดให้บริการ 38 สาขาใน 7 ประเทศ ซึ่งบริษัทมีแผนปรับโฉมร้านใหม่เช่นเดียวกับสาขาในไทยด้วย

“ด้านทำเลการเปิดร้านใหม่ในปีนี้ บริษัทมุ่งให้ความสำคัญกับตลาดต่างจังหวัดเป็นหลัก เช่นในเชียงราย และมี 1 สาขาในกรุงเทพฯ คือศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน รวมถึงการมุ่งขยายธุรกิจสาขาร้านในต่างประเทศแถบตะวันออกกลางที่บริษัทยังเห็นเป็นโอกาสอยู่มาก” นายแอนดี กล่าว
 

จากแผนลงทุนและปรับโฉมร้านใหม่ดังกล่าว ยังเป็นการรองรับการฉลองธุรกิจในไทยครอบรอบ 10 ปีด้วย ซึ่งปีนี้บริษัทเตรียมเพิ่มงบการตลาดเป็น 20%ของยอดขาย จากเดิมใช้ราว10% เพื่อจัดกิจกรรมการตลาดภายใต้แคมเปญต่างๆต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ล่าสุดจัดแคมเปญ “แชร์ริง แฮปปีเนส” ผ่านทูตแห่งความสุขคอนแรกของเดอะพิซซ่าฯ คือ “โน้ส อุดม แต้พานิช” เป็นระยะเวลา 1 ปีนับจากนี้ พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดอื่นๆร่วมด้วย อาทิ ทอล์คโชว์ เดี่ยว โน้ส อุดม เป็นต้น
 

นอกจากนี้ บริษัทยังจัด โปรโมชัน “ซื้อ 1 ถาด แถม1 ถาด ฟรี”ในเดือนมี.ค.นี้ โดยบริษัทคาดว่าจะมียอดสั่งพิซซ่าสูงถึง 2.7 ล้านถาด ภายในแวลาเดือนเศษ หรือ คิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อนราว 10% ผ่าน 3กลุ่มธุรกิจบริการ คือ นั่งรับประทานในร้าน 35% บริการจัดส่งถึงบ้าน 50% และบริการซื้อกลับบ้าน 15% พร้อมตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าเพิ่ม10-15% โดยปีที่ผ่านมาบริการรับประทานในร้านและจัดส่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย6% เท่ากัน

ส่วนภาพรวมตลาดร้านอาหารประเภทพิซซ่า คาดมีมูลค่าราว 5,000-6,000 ล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง ซึ่งจากแคมเปญและแผนการตลาดในปีนี้บริษัทวางเป้าเติบโต 8-10% และยังรักษาส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งอยู่ที่ 75% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 70% 

อ้างอิงจาก โพสต์ทูเดย์