ล็อกซเล่ย์จับมือแบรนด์ญี่ปุ่นผุดร้านอาหาร

ล็อกซเล่ย์ขยายธุรกิจร้านอาหารและบริการ จับมือพันธมิตรญี่ปุ่นเจ้าของแบรนด์เทปันยากิชื่อดัง ลงทุน 100 ล้านบาทเปิดสาขาแบรนด์ดังในเมืองไทย
นายศรัณย์ สมุทรโคจร กรรมการบริหาร บริษัท ล็อกซเล่ย์ เทรดดิ้ง จำกัด ในเครือบริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัทภายใต้นโยบายใหม่ ด้วยการขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ จะเน้นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีทั้งในและต่างประเทศ โดยทิศทางใหม่ด้านการลงทุนคือ การเพิ่มพอร์ตธุรกิจในกลุ่มร้านอาหาร ซึ่งล็อกซเล่ย์ เตรียมพร้อมที่จะขยายธุรกิจสู่ธุรกิจร้านอาหารและบริการ โดยได้เตรียมความพร้อมสำหรับการขยายตัวในอนาคต รองรับการขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นที่กำลังเติบโตในตลาดเมืองไทย นอกจากนี้ การเข้าสู่ธุรกิจใหม่จะเป็นการต่อยอดความร่วมมือกันระหว่างกลุ่มธุรกิจต่างๆ

สำหรับยุทธศาสตร์ของธุรกิจอาหารและบริการของล็อกซเล่ย์นั้น เป็นการวางโมเดลทางธุรกิจสำหรับร้านอาหารที่สามารถเติบโตในรูปแบบแฟรนไชส์ได้ในอนาคต โดยจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบพันธมิตรผสมผสานการนำแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศมาขยายตลาด โดยล็อกซเล่ย์เป็นผู้ถือสิทธิผูกขาดแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ครอบคลุม การลงทุนการเปิดสาขา การขายแฟรนไชส์ และการลงทุนร่วมกับพันธมิตรจากต่างประเทศ
นายศรัณย์กล่าวว่า บริษัทได้ตัดสินใจลงทุน 100 ล้านบาท ร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น เจ้าของแบรนด์ร้านอาหารประเภทเทปันยากินชื่อดัง "โดทงโบริ" และโอโคโนมิยากิ ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เตรียมเปิดแฟลกชิพสโตร์ที่โครงการเดอะไนน์ พระราม 9 พื้นที่ 500 กว่าตร.ม. ในเดือนพฤษภาคมนี้ และที่โครงเทอร์มินัล 21 สุขุมวิท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ล็อกซเล่ย์ได้ร่วมลงทุนในรูปแบบมาสเตอร์แฟรนไชส์ ทำให้สามารถดำเนินการด้านบริหารจัดการ การทำตลาดได้เต็มรูปแบบ รวมถึงการขยายเครือข่ายร้าน

ทั้งนี้ แฟรนไชส์ดังกล่าวมีสัญญา 10 ปี ซึ่งตามแผนจะขยายสาขาปีละ 18-20 สาขาต่อปี และเพิ่มเป็น 180 สาขาในปี พ.ศ. 2563 โดยเงินลงทุน 100 ล้านบาท จะเป็นการลงทุนในช่วง 12 เดือน วางเป้าหมายที่จะนำแบรนด์ใหม่ในกลุ่มธุรกิจร้านอาหารเข้ามาทำตลาดรวม 6 แบรนด์ ส่วนสาขาที่เตรียมเปิดในรูปแบบแฟลกชิพสโตร์ จะใช้คอนเซปต์ มัลติแบรนด์ คือ มีแบรนด์ร้านอาหารต่างๆ ที่จะเปิดตัวมารวมอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
อ้างอิงจาก คมชัดลึก