6.2K
10 พฤศจิกายน 2553

ซีอาร์จีรุกหนักปีหน้าบุกตลาดร้านอาหาร 



ซีอาร์จี รุกหนักปี54 กำงบกว่า700 ล้านบุกตลาดร้านอาหาร เล็งเปิดอีก2แบรนด์ใหม่จากแดนปลาดิบต่อจากชาบูตงรับตลาดอาหารญี่ปุ่นบูมสิ้นปีโตเกินเป้า5พันล.บาท

นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหาร9แบรนด์ในกลุ่มเซ็นทรัล(ซีจี) เปิดเผยว่าแผนธุรกิจในปี2554 บริษัทเตรียมงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนขยายสาขาร้านอาหารราว 400 ล้านบาท และอีก 300 ล้านบาทใช้ในกิจกรรมการตลาดสำหรับร้านอาหาร 9แบรนด์ และแบรนด์ใหม่ๆ ที่เตรียมทยอยเปิดตัวในไทยอีก1-2 แบรนด์ ซึ่งเป็นเชนธุรกิจร้านอาหารจากญี่ปุ่น ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาคาดแล้วเสร็จได้ภายในสิ้นปีนี้ ต่อจากร้านขนมแนวญี่ปุ่นแบรนด์ใหม่ล่าสุดชูส์ครีม แบรนด์เบรดปาปา(Bread Papa’s) ที่เตรียมเปิดสาขาแรกที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิดล์ เดือนธ.ค.นี้
 

ล่าสุด บริษัทเซ็นสัญญากับบริษัทโกลบบีท เจแปน อิงค์ เจ้าของแฟรนไชส์ร้านอาหารจากประเทศญี่ปุ่น “ชาบูตง” ร้านอาหารแนวราเมน โดยเชฟทีวี แชมป์เปียน ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารระดับพรีเมียม เพื่อนำเข้ามาบริหารและทำตลาดในเมืองไทย โดยปัจจุบันเปิดให้บริการในไทย 2 สาขา ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และร้านสาขาแรกที่สยามสแควร์ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา และได้การตอบรับเป็นอย่างดี จับกลุ่มเป้าหมานคนเมืองะดับบี อายุ18-25ปี กลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานใหม่ โดยปีแรกวางงบ40ล้านบาททำทำตลาดแบบครบวงจร พร้อมตั้งเป้าหมายขยายสาขาในย่านช้อปปิง-ธุรกิจอีก 3 สาขาในปี54 คาดใช้งบลงทุนเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อสาขา โดยตั้งเป้ายอดขาย100 ล้านบาทในปีหน้า
 

“ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคชาวไทยที่นิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะราเมนที่มีการเติบโตราว 10-20%ต่อปี จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 2,500 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 15-20% ของตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นโดยรวมมูลค่ากว่า 9,500 ล้านบาทในปี2552 ที่ผ่านมาและมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10-15% ต่อปี” นายธีระเดช กล่าว

สำหรับผลดำเนินการบริษัทปีนี้คาดมีอัตราการเติบโตเกินเป้าหมายที่วางไว้ราว 15% หรือ อยู่มีรายได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เติบโตจากเป้าเดิมที่วางไว้10% ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตสูงสุดในรอบ 32ปี เป็นผลจากการขยายสาขาร้านอาหารแบรนด์ใหม่อย่างต่อเนื่อง และลดต้นทุนพร้อมตัดค่าใช้จ่ายจากร้านอาหารที่ไม่ทำกำไร เช่น ร้านไอศกรีมบาสกิ้น ร็อบบิ้น รวมถึงหมดสัญญาธุรกิจร้านพิซซ่าฮัท  ไปเมื่อ1-2ปีที่ผ่านมา ขณะที่ปัญหาด้านการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อต้นปีไม่มีผลกระทบกับธุรกิจร้านอาหารมากนัก ซึ่งผู้บริโภคยังมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล
 


 

ส่วนการเปิดให้บริการร้านโดนัทรายใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา แบรนด์ลุ่าสุดในไทย เป็นผลดีต่อภาพรวมตลาดโดนัทโดยรวมที่ทำให้มีการเติบโตสูงขึ้น เช่นเดียวกับบริษัทโดยในช่วงที่ผ่านมาร้านมิสเตอร์โดนัทมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 10% เช่นกัน ซึ่งบริษัทมีแผนขยายธุรกิจร้านมิสเตอร์โดนัทไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น และการออกสินค้าใหม่และการปรับปรุงร้านโฉมใหม่ ฯลฯ ส่วนปัญหาน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา กระทบยอดขายบริษัทจากการปิดสาขาร้านอาหารในบางจังหวัดที่ประสบภัยน้ำท่วม อาทิ นครราชสีมา หาดใหญ่ เป็นต้น รวม15 สาขาในร้านอาหารทั้ง 9 แบรนด์ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างทยอยเปิดร้านสาขาให้บริการแล้ว หลังกลับสู่ภาวะปกติ

อ้างอิงจาก โพสต์ทูเดย์

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,164
PLAY Q by CST bright u..
1,319
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
945
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
793
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด