1.3K
8 มกราคม 2564
พาณิชย์ เผยภาพรวมใช้สิทธิ FTA และ GSP ช่วง 9 เดือนปี 63 ลดลง 14.76%
 
 
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ระหว่างเดือนม.ค.-ก.ย.63 ว่า มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ รวมเท่ากับ 45,609.30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 76.27% แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) 42,337.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) 3,271.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยภาพรวมการใช้สิทธิประโยชน์ฯ 9 เดือนแรกของปี 2563 ลดลง 14.76%
 
การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงทางการค้าเสรีในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2563 มีมูลค่า 42,337.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 15.85% มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 76.68% โดยตลาดที่ไทยส่งออกโดยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ภายใต้ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) จีน (มูลค่า 14,445.60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) 2) อาเซียน (มูลค่า 13,636.22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) 3) ญี่ปุ่น (มูลค่า 4,858.47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) 4) ออสเตรเลีย (มูลค่า 4,765.41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) และ 5) อินเดีย (มูลค่า 2,373.79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)
 
 
สำหรับกรอบความตกลงการค้าเสรีที่มีอัตราการใช้สิทธิ-ประโยชน์ฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) ไทย-ชิลี (100%) 2) อาเซียน-จีน (91.27%) 3) ไทย-เปรู (86.49%) 4) ไทย-ญี่ปุ่น (82.24%) และ 5) อาเซียน-เกาหลี (71.62%) สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง อาทิ ทุเรียนสด ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ผลไม้ (ลำไย เงาะ ลางสาด) รถบรรทุกขนส่งขนาดไม่เกิน 5 ตัน เครื่องปรับอากาศ ฝรั่ง มะม่วง มังคุด มันสำปะหลัง เป็นต้น
 
ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ทั้ง 4 ระบบ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ ในช่วงม.ค.-ก.ย.63 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 3,271.43 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 2.44% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 71.30%
 
ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 2,905.83 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.63% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 71.78% สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ อันดับสองคือ สวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 238.96 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.19% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 60.55% สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ น้ำสับปะรด ปลาทูน่ากระป๋อง กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่
 
อันดับสามคือ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 102.22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.30% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 81.74% สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เนื้อปลาแบบฟิลเลสด แช่เย็น แช่แข็ง พืช/ผลไม้ปรุงแต่ง ข้าวที่สีบ้างแล้ว/สีทั้งหมด และนอร์เวย์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 24.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 33.96% และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ 100% สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ อาหารปรุงแต่ง ข้าวโพดหวาน ข้าว สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ GSP สูง อาทิ สับปะรดกระป๋อง ถุงมือยาง พืชและผลไม้ปรุงแต่ง อาหารปรุงแต่ง ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เลนส์แว่นตา ล้อและส่วนประกอบของยานยนต์ เป็นต้น
 
นายกีรติ กล่าวถึงการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ว่า สินค้าที่เติบโตต่อเนื่องและเป็นดาวเด่นของการส่งออกไทยยังคงเป็นสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม และเกษตรแปรรูป โดยสามารถส่งออกไปยังหลายตลาดที่ไทยมีความตกลงฯ อาทิ เครื่องดื่มที่ไม่เติมแก๊ซ เช่น นม นมถั่วเหลือง (อาเซียน) น้ำตาลที่ได้จากอ้อย (อาเซียน) อาหารปรุงแต่ง (อาเซียน, ไทย-ชิลี) เนื้อ เครื่องใน หรือเลือดของไก่ (อาเซียน-เกาหลี) กุ้ง (อาเซียน-เกาหลี) สับปะรดปรุงแต่ง (ไทย-ชิลี ) ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโตชนิดซาร์ดา (กระป๋อง) (ไทย-ชิลี) มะนาวฝรั่งและมะนาว (รัสเซียและเครือรัฐเอกราช) เนื้อปลาแบบฟิลเลสด แช่เย็น แช่แข็ง (รัสเซียและเครือรัฐเอกราช) สับปะรดกระป๋อง (รัสเซียและเครือรัฐเอกราช) ซอสและของปรุงแต่งสำหรับทำซอส (อาเซียน-ญี่ปุ่น) ขนมปัง เพสทรี เค้ก บิสกิตและขนมจำพวกเบเกอรี่ (อาเซียน-ญี่ปุ่น)
 
อ้างอิงจาก : RYT9.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,734
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,511
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,480
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
1,165
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
904
ธงไชยผัดไทย เปิดโครงกา..
870
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด