|
|
|
|
4 กันยายน 2553 |
เปิดเกมบุกตลาด“พีดี เฮ้าส์” สร้างแต้มต่อสู่บัลลังก์ผู้นำ
พีดี เฮ้าส์ จับมือพันธมิตร ตั้งสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เสริมความเข้มแข็งเครือข่ายรับสร้างบ้านภูธร ประกาศขยายสาขาใหม่เป็น 20 แห่งในสิ้นปีนี้
ต้องยอมรับว่าชื่อเสียงของบริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอปเปอร์ จำกัด หรือ พีดี เฮ้าส์ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น และไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล เท่านั้น แต่ชื่อเสียงของ พีดี เฮ้าส์ เริ่มโด่งดังและได้รับการยอมรับไปในต่างจังหวัดด้วย ครอบคลุมเกือบทุกพื้นที่ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก
นั่นเป็นเพราะว่า พีดี เฮ้าส์ เป็นผู้ประกอบการธุรกิจสร้างบ้านเพียงรายเดียวที่กล้าขยายสาขาไปในต่างจังหวัดครอบคลุมทุกภูมิภาค ขณะที่ผู้ประกอบการรายอื่นการขยายสาขาจะกระจุกตัวอยู่แค่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล และจังหวัดที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก เช่น ชลบุรี เป็นต้น
การขยายสาขาสู่ต่างจังหวัด โดยเฉพาะในจังหวัดที่อยู่ไกลจากกรุงเทพฯนั้น ผู้ประกอบการหลายรายมองว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะต้นทุนการบริหารจัดการค่อนข้างสูง อีกทั้งการควบคุมคุณภาพงานก่อสร้างให้ได้มาตรฐานเดียวกับในกรุงเทพฯ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ที่สำคัญยังมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง แต่ พีดี เฮ้าส์กลับไม่คิดเช่นนั้น และคิดสวนทางกับผู้ประกอบการรายอื่น โดยคิดว่าตลาดต่างจังหวัด มีศักยภาพ มีโอกาสเติบโต มีความต้องการสร้างบ้านกับบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพที่ได้มาตรฐาน ขณะที่ไม่มีบริษัทรับสร้างบ้านมืออาชีพมีแต่ผู้รับเหมาก่อสร้างเท่านั้น พีดี เฮ้าส์ จึงเร่งขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด
สิทธิพร สุวรรณสุต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอปเปอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อเห็นโอกาสทำตลาดในต่างจังหวัด พีดี เฮ้าส์ จึงตัดสินใจขยายสาขาไปในต่างจังหวัดทันที โดยเลือกขยายสาขาในจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เช่น ชลบุรี ระยอง นครปฐม สระบุรี เชียงใหม่ หัวหิน สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต ทำให้ปัจจุบันมีสาขารวม 17 แห่ง และภายในปลายปีนี้จะขยายสาขาเพิ่มเป็น 20 แห่ง โดยในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า จะเปิดสาขาที่ 18 ที่อยุธยา ส่วนสาขาที่ 19 และ 20 อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้
สิทธิพร กล่าวว่า หากพีดี เฮ้าส์ ต้องลงทุนเปิดสาขาใหม่เองทั้งหมด อาจทำให้แผนการขยายสาขาทำได้ไม่รวดเร็วนัก บริษัทจึงใช้วิธีขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักธุรกิจหรือผู้รับเหมาก่อสร้างที่ต้องการทำธุรกิจรับสร้างบ้านแบบมืออาชีพ ซึ่งเรารู้ดีว่าการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์นั้น ผู้อยู่ในแวดวงรับสร้างบ้านตั้งข้อสงสัยว่าเป็นไปได้ยากหรือเป็นไปไม่ได้ บริษัทจึงพัฒนาระบบการบริหารจัดการธุรกิจขึ้นมา เพื่อช่วยให้แฟรนไชส์ของ พีดี เฮ้าส์ ทำงานได้ง่ายขึ้น และได้มาตรฐานเดียวกับสาขาที่บริษัทคุมงานเอง ซึ่งระบบการบริหารจัดการดังกล่าว ประกอบด้วย แผนธุรกิจ แผนการตลาด งบลงทุนและคืนทุน คู่มือปฏิบัติงาน(Operation Manual) และการสนับสนุนแบรนด์สินค้า
สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดนั้น พีดี เฮ้าส์ฯ ยึดการตลาดแนวใหม่ภายใต้แนวคิดที่เรียกว่า QSR ประกอบด้วย Quality คุณภาพ คือ การรับประกันและดูแลบำรุงรักษาตัวบ้านนาน 3 ปี และโครงสร้างบ้านนาน 15 ปี Speed ความรวดเร็ว ของงานก่อสร้าง ซึ่งได้นำระบบโครงสร้างสำเร็จรูปแบบ Multi-joint Lock มาใช้ในการก่อสร้างบ้านทุกหลัง ช่วยลดเวลาในการก่อสร้างได้มากกว่า 2-4 เดือน และ Relation ความสัมพันธ์ที่ดี บริษัทได้พัฒนาโปรแกรม Home Mileage มาใช้เป็นเครื่องมือในการให้บริการหลังการขายอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ก็สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มคู่ค้า โดยร่วมกันพัฒนาและยกระดับคุณภาพการสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับในวงกว้างขึ้น
จะเห็นว่าพีดี เฮ้าส์ ไม่เป็นแค่เพียงผู้บุกเบิกขยายสาขาไปในต่างจังหวัดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ประกอบการรายแรกและรายเดียวในประเทศไทยที่กล้าขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมา สิทธิพร ยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมผลักดันและก่อตั้งสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับบริษัทรับสร้างบ้าน และล่าสุดสิทธิพรก็จับมือกับพันธมิตรทั้งผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทรับสร้างบ้าน ผู้ค้าวัสดุก่อสร้างในต่างจังหวัด เพื่อก่อตั้งสมาคมไทยรับสร้างบ้าน(THCA) เพื่อยกระดับสมาชิกและธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับและมีความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค ซึ่งการรวมตัวเช่นนี้จะช่วยให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
จากนี้ไปคงต้องจับตาดูว่า การตั้งสมาคมไทยรับสร้างบ้านครั้งนี้ จะทำให้ฝันของ สิทธิพร กับการนำพา พีดีเฮ้าส์ ให้เติบโตแบบก้าวกระโดจนติดอันดับผู้นำในอนาคตได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตาม !!
อ้างอิงจาก ผู้จัดการ 360°
|
|
|
|
|
