1.1K
30 กรกฎาคม 2563
กสอ.เดินหน้าอินดัสตรีบับเบิล ไทย-ญี่ปุ่น เปิดจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น 70 กิจการ ผ่านแพลตฟอร์ม “ทีกู๊ดเทค-เจกู๊ดเทค”
 
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรมขานรับนโยบายอินดัสตรีบับเบิล เร่งเชื่อมอุตสาหกรรมญี่ปุ่นผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ “ทีกู๊ดเทค-เจกู๊ดเทค” หนุนเชื่อมเป็น “อินดัสตรีบับเบิล ไทย-ญี่ปุ่น” คาดจับคู่ธุรกิจปลอดภัยไกลโรคได้กว่า 70 กิจการ สร้างมูลค่าส่งออกสูงถึง 400 ล้านบาท ทั้งยังเป็นการเตรียมพร้อมอุตสาหกรรมไทยก่อนเข้าสู่ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลกในอนาคต
 
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า จากแนวทางการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในการจับคู่ธุรกิจกันระหว่างประเทศด้านอุตสาหกรรม เพื่อการเป็นคู่การค้าที่ปลอดภัยจากโควิด-19 หรืออินดัสตรีบับเบิล (Industry bubble) กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ได้ขานรับและเร่งดำเนินการ โดยได้หารือกับองค์การเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อมและนวัตกรรมภูมิภาคแห่งญี่ปุ่น (Organization for Small & Medium Enterprises and Regional Innovation : SMRJ) โดยจับคู่อุตสาหกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเชื่อมเป็นอินดัสตรีบับเบิล ไทย-ญี่ปุ่น
 
 
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)
 
นายณัฐพล กล่าวเสริมว่า อินดัสตรีบับเบิล ไทย-ญี่ปุ่น ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มทีกู๊ดเทค (T-GoodTech) แพลตฟอร์มที่มีการซื้อขาย แลกเปลี่ยนข้อมูล ตลอดจนจับคู่ธุรกิจ ที่มีผู้ประกอบการไทยเป็นสมาชิกอยู่กว่า 4,000 กิจการ เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเจกู๊ดเทค (J-GoodTech) แพลตฟอร์มเอสเอ็มอีรายใหญ่ที่มีฐานข้อมูลธุรกิจกว่า 20,000 กิจการ ครอบคลุมทุกภูมิภาคของญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ อีกมากมายที่เข้ามาหาคู่ค้า ถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยในการจับคู่ทางธุรกิจที่สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละกิจการ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการประชาสัมพันธ์กิจการให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ตรงตามความต้องการของธุรกิจ รวมทั้งเป็นการเจรจาทางธุรกิจที่ปลอดภัย ปลอดโรค และมีความน่าเชื่อถือ ทำให้ธุรกิจเจริญเติบโตเป็นจำนวนมาก
 
“ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กสอ.สามารถสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการจับคู่อุตสาหกรรมได้กว่า 70 กิจการ และคิดเป็นการสร้างรายได้ให้ประเทศผ่านการส่งออกถึง 400 ล้านบาท อย่างไรก็ดี แนวโน้มการเติบโตของระบบการค้าออนไลน์ในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี พ.ศ. 2562 มีอัตราการเติบโตกว่าร้อยละ 8.71 ซึ่งคาดว่าในปี พ.ศ. 2563 จะเติบโตกว่าร้อยละ 35 ดังนั้น การดำเนินการอินดัสตรีบับเบิล ไทย-ญี่ปุ่น จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการในการพัฒนาศักยภาพเพื่อรอบรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน ทั้งยังสามารถสร้างความเข้มแข็งให้แก่อุตสาหกรรมไทย เพื่อความพร้อมในการก้าวสู่ “ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก” ได้ในอนาคต” นายณัฐพลกล่าวทิ้งท้าย
 
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองอุตสาหกรรมดิจิทัล โทรศัพท์ 0-2202-4562 หรือติดต่อ กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0-2202-4414-18 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,172
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
793
“เติมพลังความรู้” กับ ..
627
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
602
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
601
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
541
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด