1.แฟรนไชส์แบบบุคคล/แฟรนไชส์หน่วยเดียว (Individual Franchise or Single Unit Franchise)
รูปแบบการให้สิทธิแฟรนไชส์แก่ บุคคล กลุ่มบุคคล นิติบุคคล องค์กร
ดำเนินธุรกิจเพียงแค่ 1 แห่ง ภายในทำเลที่ตั้งหรือพื้นที่ภูมิประเทศที่กำหนดขึ้นตามสัญญา
รูปแบบการให้สิทธินี้ "นิยมใช้ในแฟรนไชส์หลายประเภท"
- เป็นรูปแบบที่ง่ายในการเริ่มต้นขยายธุรกิจด้วยแฟรนไชส์
- ช่วยแฟรนไชส์ซอร์ให้การสนับสนุนแฟรนไชส์ซีได้ถูกจุด
- ช่วยให้เห็นข้อผิดพลาดได้โดยตรงจากร้านสาขา
- สามารถหาผู้สนใจลงทุนได้ง่าย
- คัดเลือกคุณสมบัติของแฟรนไชส์ซีได้ง่ายกว่า
2.แฟรนไชส์แบบหลายหน่วย/แบบพัฒนาพื้นที่ (Multiunit Franchise or Area Development Franchise)
รูปแบบการให้สิทธิแฟรนไชส์แก่ บุคคล กลุ่มบุคคล นิติบุคคล องค์กร
กำหนดพื้นที่รับสิทธิ ที่จะดำเนินธุรกิจ จากแฟรนไชส์ซอร์มากกว่า 1 แห่ง
รูปแบบการให้สิทธินี้ "เข้าใจได้ง่าย การขยายตัวรวดเร็ว"
ขยายตัวได้รวดเร็วกว่าแบบแรกหากแฟรนไชส์ซีมีกำลังเงิน ลงทุนในการเปิดสาขาได้พร้อมๆกัน
3.แฟรนไชส์แบบตัวแทน (Master Franchise)
รูปแบบการให้สิทธิแฟรนไชส์แก่ นิติบุคคล องค์กร
ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุน หรือ บริษัทรายใหญ่ บริหารและขยายสาขาแฟรนไชส์ไปให้ทั่วประเทศ
การที่ได้เป็น "Master Franchise" มักได้รับสิทธิแบบ Subfranchise และ Multiunit Franchise or Area Development Franchise ไปโดยอัตโนมัติเพื่อให้สามารถทำการขยายตลาด ในประเทศ ที่ได้รับสิทธิได้อย่างเต็มที่