บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
270
2 นาที
10 กันยายน 2568
“Location Strategy” ทำเลแบบไหนเหมาะเปิดร้านมากสุดปี 2568
 

การเลือกทำเลเปิดร้านต้องให้เหมาะสมกับ “กลุ่มลูกค้า” ของแต่ละแบรนด์ ทำเลที่ดีไม่จำเป็นต้องแพงที่สุด หรือคนเดินเยอะที่สุดแต่ต้อง “ตรงกลุ่ม” และ “คุ้มค่า” กับค่าใช้จ่าย คำว่า “Location Strategy” คือ กลยุทธ์ในการเลือกทำเลที่ตั้ง ที่คนอยากเริ่มธุรกิจต้องนำมาใช้วิเคราะห์ให้เหมาะสม เพื่อควบคุมให้ต้นทุนค่าเช่าอยู่ระหว่าง 15 – 20%” จึงจะทำให้ร้านอยู่ได้
 
ซึ่งหลักการเบื้องต้นก่อนเลือกทำเลสำหรับเปิดร้าน ผู้ประกอบการควรทำ “Mini Feasibility” หรือความเป็นไปได้ของธุรกิจ โดยต้องเช็ก 3 สิ่งสำคัญในทำเลเหล่านั้นได้แก่
  1. Foot Traffic มีสัดส่วนคนในพื้นที่แค่ไหน? มีคนกลุ่มไหนมากที่สุด?
  2. ค่าเช่า/ตร.ม. เช็กราคาของผู้ประกอบการในพื้นที่ว่าส่วนใหญ่เกิน 20% จากยอดขายไหม?
  3. ยอดขาย/วัน เป็นตัวเลขพอให้เห็นภาพว่าเพียงพอจ่ายต้นทุน + เหลือกำไรหรือไม่?
การวัดตัวเลขเหล่านี้เริ่มจาก Foot Traffic (ปริมาณคนเดินเท้า) อาจเช็กจากจำนวนคนที่ผ่านหน้าร้านต่อวัน ยิ่งเยอะ โอกาสขายก็เยอะแต่สำคัญคือคนเหล่านั้นต้องตรงกับกลุ่มเป้าหมาย เช่น BTS สยาม มี Foot Traffic ประมาณ 25,000–30,000 คน/วัน ส่วนการหาตัวเลขค่าเช่าต่อตารางเมตร (Rental Cost) คำนวณจาก ค่าเช่าต่อเดือน หารด้วยพื้นที่ใช้สอย ถ้าเป็นตัวเลขสูงเกินไปก็ยิ่งต้องขายให้ได้มากเพื่อให้คุ้มกับค่าเช่า

สุดท้ายคือการหายอดขายเฉลี่ยต่อวัน ใช้การคำนวณจาก foot traffic × % conversion (ลูกค้าที่ซื้อจริง) × ค่าใช้จ่ายเฉลี่ย/บิล ยกตัวอย่างร้านอาหารตามสั่งใกล้ออฟฟิศ คนเดิน/วัน ประมาณ 5,000 ลูกค้าที่ซื้อจริงมี 6% จากคนเดิน = 300 คน คิดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบิล 100 บาท เท่ากับว่ายอดขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 5,000 x 6% x 100 = 30,000 บาท 
 
ซึ่งถ้าให้วิเคราะห์ในแบบภาพรวมทำเลเหมาะสมกับการเปิดร้านแบบที่ไม่ได้คิดวิเคราะห์ถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะแบรนด์มีที่น่าสนใจคือ
 
1.ทำเลแหล่งท่องเที่ยวและเมืองหลัก


เนื่องจากมีปริมาณ Foot Traffic สูงเฉลี่ย 15,000–30,000 คน/วัน แต่ก็ต้องแลกกับเรื่องค่าเช่าที่อาจสูงตาม โดยเฉลี่ยประมาณ 2,000–4,000 บาท/ตร.ม. ก็เหมาะกับการเปิดร้านที่ขายในปริมาณมากเช่น ร้านอาหาร เครื่องดื่ม คาเฟ่ ธุรกิจบริการนักท่องเที่ยว เช่น รถเช่า ร้านซักผ้า ร้านของฝาก ยกตัวอย่างน่าสนใจคือคาเฟ่ในภูเก็ตที่ทำยอดขายเฉลี่ย 80,000–120,000 บาท/วัน จากลูกค้าต่างชาติที่ใช้จ่ายเฉลี่ย 500–700 บาท/บิล
 
2.ทำเลใกล้รถไฟฟ้า และชุมชนเมือง
 

 
จุดเด่นที่น่าสนใจคือ Foot Traffic สูงเช่นกัน เฉลี่ย 10,000 – 20,000 คน/วัน ในทำเลเหล่านี้ค่าเช่าก็ยังแพงประมาณ 1,000–2,500 บาท/ตร.ม. การเลือกเปิดร้านในทำเลเหล่านี้ก็ต้องให้สินค้ามีความเหมาะสมกับไลฟ์สไตล์เร่งรีบเช่น ร้านอาหารจานด่วน, กาแฟ grab&go, มินิมาร์ท เป็นต้น
 
3.ทำเลโซนออฟฟิศ + คอนโดใหม่ 
 

ทำเลนี้จะเจาะกลุ่มคนวันทำงาน + คนรุ่นใหม่เป็นลูกค้าหลัก ค่าเช่าในพื้นที่เหล่านี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายอย่างเฉลี่ยก็เริ่มตั้งแต่ 1,000 – 2,000 / ตร.ม. สินค้าที่จะขายดีในย่านนี้ควรเน้นอาหาร เครื่องดื่ม ของใช้จำเป็น หรือร้านนั่งชิลหลังเลิกงาน ยกตัวอย่างน่าสนใจคือร้านอาหารตามสั่งย่านอโศก มีลูกค้าประจำ 300–400 คน/วัน รายได้ 30,000–50,000 บาท/วัน
 
4.ทำเลใกล้สถานศึกษา
 

น่าจะเป็นทำเลที่หลายคนสนใจมากที่สุดเพราะกลุ่มนักศึกษาและผู้ปกครองหรือคนในพื้นที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลัก ค่าเช่าก็จะแปรผันตามศักยภาพของทำเล เบื้องต้นประมาณ 500 – 1,000บาท/ ตร.ม. สินค้าก็ควรให้เหมาะกับพื้นที่เน้นไอเดีย เน้นความน่าสนใจ ราคาไม่แพงเกินไปเพื่อให้มีกำลังซื้อได้สม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่นร้านชาไข่มุกในโซนมหาวิทยาลัย มียอดขายเฉลี่ย 500–800 แก้ว/วัน กำไร 20–30%
 
5.ทำเลย่านตลาดนัด/ย่านชุมชน
 

เป็นทำเลแบบ Local ที่มีข้อดีคือกลุ่ม Foot Traffic ค่อนข้างเยอะในช่วงเช้า และเย็น แต่กำลังซื้ออาจไม่สูงมากนัก สินค้าส่วนใหญ่ก็ไม่เน้นราคาแพง แต่เน้นง่าย สะดวก จึงเหมาะสมกับพวกร้านอาหาร , เครื่องดื่ม , สินค้าสำเร็จรูป เป็นต้น ค่าเช่าในทำเลนี้ก็ราคาไม่แพง เพื่อให้ตอบโจทย์กับกำลังซื้อของลูกค้า ควรเน้นที่คุณภาพและบริการที่ดีเพื่อสร้างฐานลูกค้าให้มีในระยะยาว
 
ในส่วนของแบรนด์ใหญ่ๆ เองก็มีเทคนิคในการเลือกทำเลในแต่สไตล์ของตัวเอง โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมลูกค้า และด้วยความเป็ฯแบรนด์ใหญ่จึงเน้นที่ทำเลส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ด้วยยกตัวอย่าง Starbucks ในย่าน BTS สยาม, เซ็นทรัลเวิลด์ , สนามบินสุวรรณภูมิ เน้นการเจาะทำเล prime location ที่มี foot traffic สูงและกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อดียอดขายเฉลี่ย 80,000–150,000 บาท/วัน เพราะลูกค้าไม่ได้ซื้อกาแฟอย่างเดียว แต่ซื้อ “บรรยากาศ + สถานะทางสังคม” ด้วย

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สร้างรายได้จาก กระเบื้องยางSPC วัสดุปูพื้นยอดนิย..
522
ประกาศเซ้ง! แบรนด์แฟรนไชส์จีนหมดแรง แซงไทยไม่ไหว
439
ถอดรหัส Santa Fe Steak รีแบรนด์แล้วยังเหนื่อย?
433
สงครามเย็น จักรวาลชานมไข่มุก ใครจะอยู่ใครจะไป
408
รวมเทคนิค “ดิ้นสู้” วิกฤติร้านอาหารปี 2568 ทำยัง..
401
“Gap Model” ร้านค้าทำดีทุกอย่าง แต่ทำไมลูกค้าไม..
390
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด