บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
437
2 นาที
27 สิงหาคม 2568
“Introvert marketing” วิธีเพิ่มยอดขายธุรกิจ “คนโลกส่วนตัวสูง”
 

คำว่า “Introvert” เพิ่งจะถูกนำมาใช้แพร่หลายในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ แต่ความจริงลักษณะของคน Introvert มีมานานมาก โดยมีลักษณะสำคัญคือ
  • มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง มีความสุขกับการอยู่คนเดียว
  • มักใช้ความคิดก่อนพูด และเป็นคนที่พูดน้อย
  • ไม่ชอบคุยเรื่องไร้สาระ
  • หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม
  • ไม่ชอบแสดงความคิดเห็นโดยเฉพาะท่ามกลางคนกลุ่มใหญ่
  • ถ้ามั่นใจในเรื่องใดแล้วจะมีความมั่นใจและเชื่อมั่นอย่างไม่เปลี่ยนแปลง

คาดการณ์ว่าปัจจุบันมีผู้ที่เข้าข่าย Introvert อยู่ประมาณ 25-40% ของประชากรทั้งโลก ถ้าเป็นในส่วนของประเทศไทยแม้จะไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนแต่ก็คาดว่าจะไม่ต่ำกว่า 20-30% ของประชากร ถ้าอ้างอิงตามช่วงอายุจากงานวิจัยผู้ชายในวัย 25-39 ปี เป็น Introvert ประมาณ 35% ซึ่งมากกว่ากลุ่มของผู้หญิงที่อยู่ในวัยเดียวกัน  หรือ Tinder เคยให้ข้อมูลว่า
 
คนส่วนใหญ่ในแอป ระบุว่าตัวเองเป็น “Introvert” มาก ถึง 33% รวมถึงใน TikTok มีคนใช้แฮชแท็กคำว่า “Introvert” มากกว่า 19 ล้านครั้ง
 
ถ้าดูจากตัวเลขนี้จะเห็นว่า Introvert เป็นตลาดที่ใหญ่พอตัวแต่การจะเจาะกลุ่มลูกค้าได้จำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐาน ความต้องการและตัวตนของ Introvertอย่างชัดเจน ถ้าใครทำได้ก็เท่ากับว่ามีโอกาสเพิ่มยอดขายธุรกิจได้มากเพราะคุณสมบัติหนึ่งของกลุ่ม Introvert คือถ้าชอบหรือสนใจในเรื่องไหนหากมั่นใจก็จะเชื่อมั่นและเปลี่ยนแปลงได้ยาก หมายถึงว่าหากเป็นสินค้าที่คนกลุ่มนี้เลือกใช้ก็จะกลายเป็นลูกค้าประจำได้ยาวๆ 

 
หัวใจสำคัญของการตลาด Introvert marketing ต้องเข้าใจก่อนว่า Introvert ชอบใช้เวลาอยู่กับตัวเอง มากกว่าการทำกิจกรรม หรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนจำนวนมาก แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่ได้เกลียดการเข้าสังคม เพียงแต่จะรู้สึกว่าตัวเองต้องใช้พลังงานเยอะในการปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น หรือหากเทียบให้เห็นภาพในเชิงธุรกิจ คนที่เป็น Introvert เวลาไปซื้อของในร้าน จะชอบเดินดูสินค้าคนเดียวเงียบ ๆ มากกว่าที่จะให้มีคนมาคอยเดินตามเพื่อแนะนำสินค้า เป็นต้น
 
วิธีที่ดีที่สุดคือใช้การตลาดแบบ Low Interaction Marketing เน้นการทำให้กลุ่มเป้าหมาย มีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับแบรนด์ได้ในช่องทางต่าง ๆ ที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากเกินไป เช่น
  • คอยส่งอีเมลแจ้งข่าวสารและโปรโมชันใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าเป็นระยะ ๆ 
  • อัปเดตเรื่องราวต่าง ๆ บนสื่อโซเชียลของแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องรอให้ลูกค้าถาม
  • เขียนบล็อกหรือบทความต่าง ๆ ให้คนกลุ่มนี้ สามารถศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น 
  • เพิ่มระบบอัตโนมัติต่าง ๆ เพื่อลดขั้นตอนที่ลูกค้าต้องคุยกับมนุษย์ให้ได้มากที่สุด 
  • เพิ่มตัวเลือก Self-Service โดยบอกขั้นตอนอย่างละเอียด อย่าให้ลูกค้าต้องถามซ้ำ

ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำการตลาดเหมาะกับ Introvert ในช่วงที่ผ่านมาก็มีหลายแบรนด์ที่พออธิบายให้เห็นภาพได้เช่น
  • ร้านราเม็ง A Ramen (ร้านราเม็งข้อสอบ) ที่ออกแบบร้านให้สามารถนั่งทานคนเดียวได้ 
  • แอป QueQ ที่ลูกค้าจองคิวร้านอาหารที่คนเยอะได้ โดยไม่ต้องไปยืนรอต่อคิวหน้าร้าน
  • ร้านบุฟเฟต์บางแห่งที่จัดโซนสำหรับนั่งทานคนเดียว (แบบเคาน์เตอร์บาร์)
  • IKEA ให้ลูกค้าทำทุกอย่างด้วยตัวเองได้ โดยมีเว็บไซต์บอกข้อมูลของเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งบ้านทุกชิ้นอย่างละเอียด พร้อมให้ลูกค้าสั่งซื้อและนำไปประกอบด้วยตัวเองที่บ้านได้
ในตลาดที่การแข่งขันสูง Introvert เป็นแค่ส่วนหนึ่งยังมีกลุ่มที่เป็น Extrovert และ Extrovert รวมอยู่ด้วย ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน สำหรับคนทำธุรกิจแล้วควรเริ่มโฟกัสจากกลุ่มลูกค้าของตัวเองเป็นหลักว่าคือใคร จากนั้นค่อยมาแยกย่อยดูว่ามีความเป็น Introvert – Extrovert – Extrovert มากแค่ไหน จึงค่อยมากำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาดให้มีความเหมาะสม และต้องไม่ลืมเรื่องคุณภาพสินค้าและบริการที่ดีร่วมด้วย

 ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนค..
884
เทรนด์การตลาดส่งท้ายปี 2025 เมื่อผู้บริโภค “คิดเ..
750
5 ปัจจัยสำคัญในชีวิตประจำวัน ปรับสมดุลชีวิตเพื่..
567
Gong Cha(貢茶) กงชา ทวงความยิ่งใหญ่ 23 ประเทศ 2.1 ..
540
ทำเลทองของ “คาเฟ่ร้านกาแฟ” เปิดที่ไหน กำไรดีที่..
495
สสปท. มอบโล่ Zero Accident ย้ำความปลอดภัยคือราก..
493
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด