บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การตลาด บริหารธุรกิจ    ความรู้ทั่วไปทางการตลาด
569
2 นาที
4 กุมภาพันธ์ 2568
มี Market Share แค่ 1% ในตลาดใหญ่! รายได้เกินคุ้ม
 

ส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) หมายถึง ส่วนหรือเปอร์เซ็นต์ของตลาด ที่บริษัทหรือองค์กรได้รับ ซึ่งก็คือ ยอดขายรวมที่เกี่ยวข้องกับยอดขายในอุตสาหกรรมโดยรวมของอุตสาหกรรมที่บริษัทดำเนินธุรกิจ หรือประกอบกิจการอยู่ และเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ธุรกิจต่างๆ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและมุ่งมั่นที่จะเพิ่มให้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ส่วนแบ่งการตลาดก็ไม่ใช่การวัดขนาดการเติบโตเพียงอย่างเดียวในทางธุรกิจเพราะ ความสำคัญของส่วนแบ่งอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงของตลาด ตลอดจนเป้าหมายและวัตถุประสงค์เฉพาะของบริษัทนั้นๆ ด้วย
 
อย่างไรก็ดีคำว่า “ที่ไหนมีกำไร ที่นั่นย่อมมีคู่แข่ง” เป็นเรื่องจริงที่คนทำธุรกิจต้องยอมรับ ถึงขนาดว่าถ้าเลือกได้ขอโฟกัสทำธุรกิจในตลาดที่มีมูลค่าสูง คู่แข่งเยอะ ก็ยังดีกว่าทำธุรกิจในตลาดที่คู่แข่งน้อย แต่ความต้องการของลูกค้าก็น้อยตามไปด้วย
 

ภาพจาก www.facebook.com/coffeelismco
 
ลองคิดกันดูเล่นๆ ยกตัวอย่างตลาดกาแฟมีมูลค่ารวมกว่า 100,000 ล้านบาท ตัวเลขคนไทยบริโภคกาแฟเฉลี่ยวันละ 1.5 แก้ว ดันให้ตลาดโตกว่าปีละ ดันตลาดโตปีละ 8.55% ซึ่งถือว่าสูงมาก ก็ไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นคู่แข่งในตลาดกาแฟเยอะมากตั้งแต่ระดับล่าง กลาง บน ไปจนถึงพรีเมี่ยม

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าคุ้มค่าที่จะเสี่ยงในการกระโดดเข้าสู่ตลาดใหญ่ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นผู้เล่นเบอร์ใหญ่ หรือไม่จำเป็นต้องเป็นจ้าวตลาด มูลค่ารวมของตลาดที่สูงมากนี้ถ้าแชร์มาได้สัก 1 % นี่ก็ถือว่ามากมาย อย่าง 1 % ของ 100,000 ล้านก็มีมูลค่ากว่าพันล้านบาท
 
แต่ถ้าไปเล่นในตลาดที่มีความต้องการของลูกค้าน้อยๆ ไม่มีคู่แข่ง มูลค่าการตลาดมันก็จะต่ำไปด้วย ทำให้ตัวเลขรายได้ก็น้อยลงเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจที่ทำไมเราจะเห็นว่าทำไมใครๆ ก็อยากเปิดร้านกาแฟ ร้านค้าปลีก ร้านอาหาร ก็เพราะตลาดเหล่านี้มีมูลค่าการตลาดที่สูงคุ้มค่ากับการลงทุนมากกว่า
 

ภาพจาก www.facebook.com/coffeelismco
 
ตัวอย่างที่น่าสนใจในกรณีแบบนี้ก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย ยกตัวอย่างร้าน COFFEELISM ตั้งโจทย์กลุ่มลูกค้าเป็นคนทำงานออฟฟิศ คนใช้ชีวิตในเมือง ดื่มกาแฟเป็นประจำ แม้เดือนแรกที่เปิดร้านขายได้ 15 แก้ว แต่เดือนต่อมาลูกค้าเริ่มรู้จักและเน้นการทำตลาดผ่านโซเชี่ยลมากขึ้น ยอดขายก็เริ่มเพิ่มขึ้นเป็น 150 แก้ว เป็น 300 แก้ว และก้าวไปถึงจุดสูงสุดที่เคยทำได้คือ 1,400 แก้วต่อวัน เป็นต้น
 
ในธุรกิจค้าปลีกก็เช่นกันปี 2567-2569 ธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่ในประเทศไทยจะมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 5-5.5% เกิดการแข่งขันดุเดือดทั้งในกลุ่ม ห้างสรรพสินค้า, ดิสเคาน์สโตร์/ไฮเปอร์มาร์เก็ต,ซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ/มินิมาร์ท

แม้ว่าการเป็นแบรนด์เล็กจะไปหาญสู้แบรนด์ใหญ่โดยตรงคงทำได้ยาก แต่แค่ได้แชร์ส่วนแบ่งการตลาดมาบางส่วนก็เรียกว่าคุ้มค่ากับการลงทุนที่สร้างกำไรให้ธุรกิจได้ 
 
รวมถึงในกลุ่มของตลาดออนไลน์ก็เช่นกัน Mass Brands ยักษ์ใหญ่ที่เคยเป็นเจ้าตลาดเริ่มถูก Local Brands และ Niche Brands ที่ค่อยๆ เติบโตผ่านช่องทางออนไลน์เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดบ้างแล้ว เหตุผลในเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกันเพราะแม้จะมีการแข่งขันดุเดือดแต่มูลค่าการตลาดที่มีมากมหาศาล คือกลิ่นที่ยั่วยวนชวนให้คนตัวเล็กกล้าลงทุนในธุรกิจที่คู่แข่งจำนวนมากได้เช่นกัน


ภาพจาก https://bit.ly/4glMzVr
 
เอาให้เห็นภาพชัดเจนอีกหน่อยดูตัวอย่างของ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทขายซอส-เครื่องปรุงไทย ที่เน้นส่งออกไปขายต่างประเทศ ในนามของ “XO” โดยปีที่ผ่านมา XO มีรายได้ 2,500 ล้านบาท และ 99% ของยอดขายเป็นรายได้จากต่างประเทศ

ตอนที่เริ่มทำตลาดก็มองว่าควรเข้าไปแข่งในพื้นที่ตรงไหนดี ตรงไหนที่จะสู้ได้ มองแล้วในเมืองไทยมันยาก ก็ทำให้นึกถึงตลาดส่งออกที่แม้คู่แข่งจะเยอะเหมือนกันแต่มีช่องทางน่าสนใจกว่า อย่างการส่งออกไปเยอรมนีเมื่อ 24 ปีที่แล้ว ตอนนั้นมีประชากรประมาณ 70,000,000 คน

ซึ่งมีคนเอเชียประมาณ 1,000,000 กว่าคน ถ้า XO คิดจะขาย Traditional Trade เจาะตลาดคนเอเชีย ก็จะได้เจาะตลาดที่มีลูกค้าแค่ 1,000,000 คน ถ้าขอส่วนแบ่งตลาด 50% ก็จะได้ลูกค้า 500,000 คน แต่ถ้าลงทุนทำโรงงานทำระบบการผลิตให้ได้มาตรฐานสูงไปเลย แล้วส่งเข้า Modern Trade ก็จะเปลี่ยนเป็นได้เจาะตลาดที่เข้าถึงคน 70,000,000 ล้านคน ซึ่งขอแค่ 1% ก็ได้ลูกค้า 700,000 คน เป็นต้น
 
บางครั้งการเก็บเอาส่วนที่เล็กๆ น้อยมาผสมกันบางทีก็อาจได้ผลรับที่ยิ่งใหญ่เกินความคาดหมาย กลยุทธ์ด้านการตลาดในปี 2568 คนทำธุรกิจจึงควรโฟกัสว่ามีตลาดไหนที่น่าสนใจ อย่าไปกลัวกับคำว่าคู่แข่งเยอะ วิธีเลี่ยงที่ดีคือไม่ปะทะกับกลุ่มใหญ่แต่ใช้วิธีขอส่วนแบ่งการตลาดน้อยๆ แต่ให้ได้เรื่อยๆ ก็มีโอกาสเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาลเช่นกัน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ศึกกลยุทธ์ที่มากกว่าราคา สงครามสุกี้ เดือดㆍแดงㆍด..
572
กลยุทธ์การตลาดแบบคูล "ยาคูลท์" ผ่านมา 54 ปี วันน..
468
ร้านเล็กตายเรียบ สงครามราคากาแฟจีนสู่ไทย ลามไปทั..
456
มหันตภัย “ศูนย์เหรียญ” พาธุรกิจไทยเจ๊งยับ
397
3 แบรนด์กาแฟในอิตาลี! ที่ Starbucks ยังต้องหลบ
394
ตำนาน! โรตีบอย (Rotiboy) วันนี้ไปไหน
376
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด