บทความทั้งหมด    บทความ SMEs    การเริ่มต้นธุรกิจใหม่    ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ
33K
2 นาที
13 กันยายน 2566
อวสาน! เซลล์แมน ขายอย่างไรให้ลูกค้าซื้อในปี 67
 

เผยเทรนด์การขายปี 2567 คนซื้อมีอำนาจต่อรอง อยากซื้อสินค้าจากคนขายที่ไว้ใจ เชื่อใจ ซื้อแบบตัวต่อตัว คนขายต้องสร้างตัวตน สร้างความแตกต่าง เจาะกลุ่มลูกค้าให้ Niche ที่สุด อย่าขายให้ใครก็ได้ ต้องทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ สามารถแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ พยายามหาสินค้าให้ลูกค้า ดีกว่าหาลูกค้าให้สินค้า แนะอย่าขายสินค้าตามเทรนด์
 
“ครูตอง - ปิยวดี ปิ่นสุวรรณ์” เจ้าของเพจ “ครูตอง High Selling Skill Expert” เปิดเผยว่า เทรนด์การขายในปี 2567 คนซื้อจะมีอำนาจต่อรองมากกว่าคนขาย เพราะคนขายมีมากกว่าคนซื้อ คนขายกับคนซื้อมีการติดต่อกัน มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยนไป ลูกค้าจะเลือกซื้อกับคนขายที่ตัวเองไว้ใจและเชื่อใจ ซื้อกันแบบตัวต่อตัว ไม่สนใจว่าจะเป็นโลโก้หรือแบรนด์ดังๆ ดังนั้น คนที่จะขายสินค้าต้องมีทักษะในการสื่อสารเพื่อให้ลูกค้าเชื่อใจ ไว้ใจ มีทักษะเจรจาต่อรอง 
 
 
ผู้ประกอบการ เจ้าของแบรนด์ ต้องมีทักษะการขาย สร้างความแตกต่าง ถ้าจะแข่งเร็วหรือถูกกว่า วันหนึ่งก็จะต้องมีคนทำออกมาแบบเดียวกัน ทางออกผู้ประกอบการต้องสร้างความแตกต่าง เจาะกลุ่มลูกค้าลึกลงไปเรื่อยๆ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าของเราเล็กลง เพื่อเป็นหนึ่งในตลาดสำหรับลูกค้ากลุ่มนั้น ไม่ใช่ว่าขายเหมือนกันหมด ไม่แตกต่าง สุดท้ายก็ตายหมด 
 
“ถ้าจะอยู่ให้ได้ในระยะยาว แนะนำเจาะกลุ่มลูกค้าให้ Niche ที่สุด อย่าขายให้ใครก็ได้ แต่จะต้องเจาะกลุ่มลูกค้าให้แคบลง ระบุสิ่งที่เราทำให้แคบลง เพราะคนในยุคนี้จะยอมจ่ายเงินเพื่อสินค้าที่ออกแบบมาเฉพาะและแก้ปัญหาให้กับเขาได้ การขายสินค้าเหล่านี้จะสามารถเป็นที่หนึ่งในตลาดเฉพาะของลูกค้ากลุ่มนั้นและไม่จำเป็นต้องแข่งด้วยราคา” ครูตอง กล่าว
 
 
ครูตอง กล่าวว่า นักขายที่ดีต้องเริ่มต้นจาก Mind Set อย่าไปคิดว่าจะขายของให้ใครก็ได้ แต่ต้องคิดว่าอยากจะไปแก้ปัญหากับลูกค้า ต้องการอยากให้ลูกค้าเปลี่ยนแปลง ได้ผลรับที่ดี นักขายต้องวางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญ เป็นที่ปรึกษาให้กับลูกค้า ต้องมี Mind Set แบบนี้ ไม่ใช่ทำตัวเหมือนเซลล์แมนที่อยากจะขายของอย่างเดียว 
 
หัวใจหลักของการขาย อยู่ที่ความสามารถในการสกรีนลูกค้า ต้องรู้ว่าใครเป็นลูกค้าของเราจริงๆ จะได้ไม่เสียเวลาไปคุยกับลูกค้าที่ไม่ซื้อสินค้า ต้องอ่านความต้องการของลูกค้าให้ได้ รู้ว่าปัญหาจริงๆ ของลูกค้าคืออะไร ต้องมีความสามารถในการถามคำถาม เพื่อให้ลูกค้าเล่าปัญหาของเขาออกมา เพื่อจะได้หาสินค้าและบริการมาแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ 
 
หาสินค้าให้ลูกค้า ดีกว่าหาลูกค้าให้สินค้า 
 

ครูตอง กล่าวว่า ธุรกิจเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาให้กับตลาด ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่มีการขายเกิดขึ้น ถ้าคิดจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จในระยะยาว สินค้าและบริการต้องแก้ปัญหาที่มีอยู่ในตลาดได้ ถ้าขายอะไรที่ไม่สามารถแก้ปัญหาในตลาดได้ สุดท้ายก็เป็นแค่งานอดิเรก ถ้าจะทำธุรกิจจริงๆ ก่อนอื่นต้องมองปัญหาในตลาดก่อน ปัญหาไหนที่ยังไม่ถูกแก้ ก็นำสินค้าที่แก้ปัญหานั้นได้ออกไปขาย สุดท้ายก็ปิดการขายได้ กล่าวคือ หาสินค้าให้กับลูกค้า ไม่ใช่หาลูกค้าให้กับสินค้าของเรา 
 
ส่วนเจ้าของธุรกิจที่ต้องการหาลูกค้าให้กับสินค้าของตัวเอง อย่างแรกต้องลงไปสำรวจตลาด เพื่อจะรู้ว่ามีปัญหาอะไรบ้างยังไม่ถูกแก้ หลังจากนั้นก็เอาทักษะของตัวเองเข้าไปแก้ปัญหา ทีนี้ก็รู้แล้วว่ากลุ่มลูกค้าของเราน่าจะเป็นใคร สมมติว่าถ้าคุณไปจีบผู้หญิง ไปกินข้าวกันแค่กันแค่ 2-3 ครั้งแล้วขอแต่งงานก็เป็นไปได้ ก่อนจะขายอะไรต้องทำให้ลูกค้ารู้จักเราก่อน พอรู้จักแล้วจะทำให้รู้สึกชอบ เมื่อลูกค้าชอบ ลูกค้าจะไว้ใจ เชื่อใจ หลังจากนั้นเราก็จะขายของได้ 
 
สร้างความเชื่อใจ จูงใจให้เกิดการซื้อ 
 

ครูตอง กล่าวต่อว่า วิธีทำให้ลูกค้าเชื่อใจ ต้องให้คุณค่าแก่ลูกค้า ทำให้ลูกค้าเห็นว่าเราสามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้จริงๆ เราอาจจะทำคลิปหรืออะไรก็ได้บนออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าได้รู้ว่า เราช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าได้ เหมือนกับว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้ ถ้าทำไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง ลูกค้าเกิดความเชื่อใจขึ้นมา สุดท้ายก็มาซื้อของจากเราเอง 
 
สำหรับเทคนิคการนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าอยากซื้อ ครูตอง บอกว่า การขายเป็นเรื่องของจิตวิทยา อะไรที่เป็นตัวตัดสินใจให้ลูกค้าซื้อ เราก็ควรนำเสนอไป เช่น ถ้าลูกค้าไม่ซื้อสินค้าของเราจะมีผลเสียอะไรบ้างต่อลูกค้า ขายสินค้าที่ลูกค้าจะต้องสูญเสียมากกว่าจะได้ คนจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ตัวเองจะสูญเสียมากกว่าสิ่งที่จะได้ในอนาคต ที่สำคัญราคาไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า หากรู้สึกว่าสินค้ามีคุณค่าและคุ้มค่ากับเขา 
 
ขายสินค้าที่แก้ปัญหาให้ตลาด
 

 
ครูตอง บอกว่า ถ้าอยากเป็นนักขายไม่ต้องสนใจว่าใครจะขายหรือทำธุรกิจอะไร ไม่ต้องแห่ไปทำตามคนอื่น อะไรคือความสามารถ อะไรคือความรู้ อะไรที่คุณแตกต่างจากคนอื่น และสามารถเอาเข้าไปในตลาดเพื่อแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ ที่สำคัญต้องเป็นปัญหาที่ลูกค้าไม่รู้ว่าตัวเองมีปัญหานั้นอยู่ พอคุณมีทักษะ มีความสามารถ รู้ว่าปัญหาของลูกค้าคืออะไรก็นำเสนอขายสินค้าที่ลูกค้านำไปแก้ปัญหา สินค้าที่จะขายได้ต้องแก้ปัญหาให้กับลูกค้า อย่าไปขายสินค้าตามเทรนด์ 


ภาพจาก https://citly.me/jXiZO
 
เจ้าของธุรกิจ หรือผู้สนใจทำแฟรนไชส์ สนใจรับคำปรึกษาวางระบบแฟรนไชส์ คลิก https://www.thaifranchisecenter.com/seminar/franchise_course.php 
 
เจ้าของธุรกิจสนใจบริการจดเครื่องหมายการค้าแฟรนไชส์ คลิก https://www.thaifranchisecenter.com/trademark/ 
 
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
 
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
 
 
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document/index.php

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
บทความเอสเอ็มอียอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ปี 2026 ธุรกิจไทยต้องคิดให้ลึกกว่า “กำไร” หัวใจอ..
622
10 Digital Marketing Agency ตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ส..
490
กับดักประเทศไทย! เน้นเสพ.. ไม่สร้าง เน้นซื้อ.. ไ..
445
กับดักเกษียณ คนไทยบางคน! จนก่อนแก่ แย่ก่อนตาย
428
กลยุทธ์ตั้งราคา CJ คุ้ม แพ็คใหญ่ ราคาส่ง ครองใจล..
394
ปี 2025 ธุรกิจยิ่งทำยิ่งจม! Preemptive Adaptatio..
385
บทความเอสเอ็มอีมาใหม่
บทความอื่นในหมวด