บทความทั้งหมด    บทความแฟรนไชส์    การบริหารธุรกิจ    ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์
13K
4 นาที
18 มีนาคม 2552
เงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ คิดยังไง? เก็บยังไง?


คราวก่อนได้เล่าเรื่องอายุสัญญาแฟรนไชส์ และค่าต่ออายุสัญญา ไหนๆ ก็ว่ากันเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้ว วันนี้เราก็มาว่าเรื่องเงินๆ ทองๆ ต่ออีกหน่อย
อย่างที่ทราบกันว่า ร้านแฟรนไชส์เป็นธุรกิจของแฟรนไชซีๆ เป็นผู้ลงทุนทั้งหมดในการเปิดร้านแฟรนไชส์


เงินที่แฟรนไชซีจ่ายในการทำแฟรนไชส์นั้นแบ่งได้เป็นสองกอง คือ เงินลงทุนขั้นต้น (Initial Investment) และเงินลงทุนต่อเนื่อง (Continuing Investment) เงินในแต่ละกองยังแยกออกเป็นหลายก้อน และแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่าเงินทุกก้อนเป็นภาระของแฟรนไชซี

เงินลงทุนขั้นต้น (Initial Investment)

หมายถึงเงินทุกอย่างที่แฟรนไชซีจ่ายเพื่อให้เกิดร้านแฟรนไชส์ของตนเองขึ้น แบ่งง่ายๆ จะเป็นเงินที่แฟรนไชซีจ่ายตั้งแต่วันแรกจนถึงวันเปิดร้าน เงินกองนี้ยังแบ่งเป็นหลายก้อน เช่น เงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) ค่าออกแบบตกแต่ง (Design Fee) ค่าก่อสร้างตกแต่ง ค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งรวมถึงเงินประกันการเช่า หรือบางที่อาจมีเงินกินเปล่า ที่เรียกว่า “เงินแปะเจี๊ยะ” เงินค่าสินค้าและวัตถุดิบ ฯลฯ เงินก้อนสำคัญที่สุดของเงินลงทุนขั้นต้น และมักจะเป็นเงินก้อนใหญ่ที่สุดด้วย คือ เงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ เรามาลองดูรายละเอียดของเงินก้อนนี้กันหน่อยว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร

ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee)

ขอบเขตและความหมาย: ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (Franchise Fee) หรือที่บางคนเรียก “ค่าแฟรนไชส์” บ้าง “ค่าแรกเข้า” (Entrance Fee) บ้าง แต่ไม่ว่าจะเรียกอย่างไรก็คือ “เงินที่จ่ายให้แก่แฟรนไชซอร์เพื่อตอบแทนการให้สิทธิแฟรนไชส์แก่แฟรนไชซีตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาแฟรนไชส์” นั่นเอง
 

 
มองอีกมุมเป็นเงินที่แฟรนไชซีจ่ายล่วงหน้าให้แก่แฟรนไชซอร์เพื่อตอบแทนที่แฟรนไชซอร์ยอมให้แฟรนไชซีมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้า ความรู้ ประสบการณ์ เทคนิค วิธีการในการบริหารจัดการธุรกิจของแฟรนไชซอร์ บางคนจึงมองเงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ว่าเหมือนกับเงินกินเปล่าเหมือนเงินแปะเจี๊ยะตอนเซ้งบ้านอะไรทำนองนั้น

อันที่จริงเงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ไม่เหมือนกับเงินแปะเจี๊ยะเลยครับ ในมุมมองของแฟรนไชซีอาจมองว่าเป็นเงินตอบแทนอย่างที่ว่ามา ซึ่งเป็นสิ่งที่แฟรนไชซอร์มีอยู่แล้ว จึงไม่ต่างจากเงินกินเปล่าเท่าไร

แต่ในแง่มุมของแฟรนไชซอร์แล้วเงินก้อนนี้ไม่ใช่เพียงแค่เงินตอบแทนการให้ใช้เครื่องหมายการค้า หรือประสบการณ์ที่แฟรนไชซอร์มีอยู่แล้วเท่านั้น แต่แฟรนไชซอร์จะต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่างกว่าจะได้ร้านของ แฟรนไชซี แฟรนไชซอร์ต้องคิดเยอะครับกว่าจะตัดสินใจได้ว่าจะคิดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เท่าไร ถ้าคิดละเอียดไม่ยกเมฆแฟรนไชซอร์จะตอบคำถามแฟรนไชซีได้ว่าเงินที่เรียกเก็บมานั้นเก็บเพื่ออะไรบ้าง

ที่มาของค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์: ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์นั้นจะตอบแทนสิ่งที่แฟรนไชซอร์มีอยู่เป็นต้นทุนแล้วส่วนหนึ่ง อีกส่วนจะตอบแทนการจัดการอะไรหลายอย่างเพื่อเปิดร้านของแฟรนไชซี ลองมาดูหลักคิดในการกำหนดค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ว่าเก็บเพื่ออะไร

เป็นค่าตอบแทนการให้ใช้เครื่องหมายการค้า (Trademark)

อันนี้เป็นหัวใจของระบบธุรกิจแฟรนไชส์ เครื่องหมายการค้าเป็นสิ่งที่แฟรนไชซอร์ใช้สติปัญญาในการสร้างสรรค์ขึ้นมา และทำธุรกิจภายใต้เครื่องหมายนั้นมานานจนเป็นที่รู้จักของลูกค้า มีชื่อเสียงมากมายจนเป็นแรงดึงดูดให้แฟรนไชซีสนใจอยากจะใช้เครื่องหมายนั้นด้วย เครื่องหมายดังๆ ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เกิดขึ้นง่ายๆ บางเจ้าล้มลุกคลุกคลานมากับหลายเครื่องหมายกว่าจะมาถึงวันนี้ บางเครื่องหมายแท้งก่อนเกิดก็มี


มีเรื่องเล่าว่า รถยนต์เฟียตตั้งชื่อรถรุ่นหนึ่งที่จำหน่ายในประเทศสเปนว่า “ปินโต้” (Pinto) รู้สึกว่ารุ่นนี้จะเข้ามาขายในประเทศไทยด้วย แต่คำนี้ไปพ้องเสียงกับคำในภาษาสเปนที่แปลว่า “เจ้าโลกอันน้อย” ลองนึกดูว่าหนุ่มๆ สเปนที่ไหนจะอยากซื้อรถรุ่นนี้มาใช้

มิตซูรุ่น “ปาเจโร” ที่เคยฮิตในบ้านเราก็เคยมีบาดแผลกับภาษาสเปนเหมือนกัน เพราะคำนี้ไปพ้องเสียงกับคำที่หมายความว่า “สำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง” คงมีแต่เฉพาะพวกหัวงูทั้งหลายเท่านั้นจะใช้รถรุ่นนี้
บริษัทจีเอ็มยักษ์ใหญ่ผลิตรถยนต์ของอเมริกาก็เคยหน้าแตกมาแล้วกับรถเชพ รุ่นโนวา ที่ส่งไปขายแถบ ละตินอเมริกา คำว่า “โนวา” ในภาษาสเปนหมายถึง “ไม่วิ่ง” คนผลิตก็บอกโต้งๆ ว่า “รถไม่วิ่ง” แล้วใครที่ไหนจะซื้อ

เป็นค่าตอบแทนความรู้และประสบการณ์ของแฟรนไชซอร์ (Khow-how)

กว่าจะมาเป็น KFC, Mcdonald หรือ 7-11ในทุกวันนี้ต้องให้เครดิตกับคนปลุกปั้น จอมยุทธ์เหล่านั้นได้ยินเพลง 18 ฝน 18 หนาวของพี่เสือ อาจบอกแค่ 18 ชิว..ชิว พวกเขาล้มๆ ลุกๆ จนจำไม่ได้ เยอะจนขี้เกียจจำ ผมชอบใจ โทมัส เอดิสันตอบลูกน้องที่เบื่อกับการทดลองหาวัสดุที่นำมาใช้ทำไส้หลอดไฟ ลูกน้องบ่นเบื่อกับการทดลองกับวัสดุเป็นพันชนิด ทดลองนับพันครั้ง ก็ไม่สำเร็จสักครั้งว่า “ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย” เอดิสันตอบแบบมองโลกมุมกลับว่า “มีประโยชน์สิ อย่างน้อยเราก็รู้ว่าวัสดุที่ทดลองไปแล้วนั้นใช้ทำไส้หลอดไม่ได้” ดูสิโลกช่างสดใสจริงๆ

โลกต้องมีคนอย่างนี้มากๆ สังคมจะเจริญ ผู้พันแซนเดอร์ก็เป็นคนสปีชีส์นี้ แกไปขอกู้เงินจากธนาคารเป็นสิบเป็นร้อยครั้ง “NO” คือ คำตอบที่ได้ยินประจำ บางแห่งยังพูดให้เจ็บใจ “ลุงแก่แล้วจะมาทำไก่ทอดทำไม กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ” ถ้าแกท้อป่านนี้เราคงอดกินไก่ทอด KFC

บางคนบอกดีไม่มี KFC “ไก่ย่างจีราพันธ์” ของไทยจะได้ตีตลาดโลก “อืม... นี่ก็มองโลกในแง่ดีอยู่ในสปีชีส์เดียวกับผู้พันได้”

ความสำเร็จของธุรกิจในวันนี้แลกมาด้วยประสบการณ์โชกเลือดของเหล่าจอมยุทธ์ทั้งหลาย ถึงกับมีคำกล่าวว่า “จอมยุทธ์ต้องมีบาดแผล” ถ้าเปิดเสื้อแล้วไม่เห็นบาดแผล แน่นอน... “จอมยุทธ์เก๊” ประสบการณ์ทั้งหลายนี่เองที่แฟรนไชซอร์จะถ่ายทอดให้กับแฟรนไชซี โดยแฟรนไชซีไม่ต้องไปลองผิดลองถูกเองให้เจ็บตัว เผลอไปลองอาจตายง่ายแบบตัวประกอบดาวร้าย ไม่รอดมาเป็นจอมยุทธ์อย่างคนอื่นเขาก็ได้


เป็นค่าตอบแทนการฝึกอบรม (Training)

ในธุรกิจแฟรนไชส์ต้องมีการฝึกอบรมแฟรนไชซี เพื่อให้ทำธุรกิจได้เหมือนที่แฟรนไชซอร์ทำ เคี่ยวมาก เคี่ยวน้อยก็แล้วแต่ว่าธุรกิจนั้นซับซ้อนแค่ไหน แฟรนไชซี Mcdonald ต้องข้ามนํ้าข้ามทะเลไปฝึกที่อเมริกาเป็นปี แต่แฟรนไชซีขายก๋วยเตี๋ยวอาจฝึกแค่ 7 วัน สิ่งที่ฝึกที่สอนให้ คือ ประสบการณ์การทำธุรกิจของแฟรนไชซอร์นั่นเอง แฟรนไชซอร์ต้องสร้างบุคลากร หลักสูตร และแผนงานต่างๆ ในการฝึกอบรม บางครั้งอาจไปฝึกให้ที่ร้านแฟรนไชซี (On-job Training) ฝึกเสร็จยังต้องมอบคัมภีร์ให้ด้วย คัมภีร์ที่ว่า คือ “คู่มือแฟรนไชส์” (Franchise Manual หรือ Franchise Operation Manual) ซึ่งรวบรวมระบบของแฟรนไชซอร์ไว้แทบทั้งหมด

จอมยุทธ์ที่บาดแผลเต็มตัวจะกลั่นประสบการณ์เป็นคู่มือได้หนาขนาดสมุดโทรศัพท์หน้าเหลือง แถมพิมพ์กระดาษอาร์ตสี่สีอย่างดี หน้าปกเดินทองด้วย ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ส่วนหนึ่งจึงเป็นค่าตอบแทนในสิ่งเหล่านี้ แฟรนไชซอร์ที่ดีและมีมาตรฐานจึงต้องมีการฝึกอบรม และมีคู่มือแฟรนไชส์ให้ การอบรมและการทำคู่มือดีๆ ยังจะช่วยชีวิตแฟรนไชซอร์ได้อีกหลายเรื่อง ไว้ถึงเวลาจะเล่าให้ฟัง

เป็นค่าตอบแทนในการสร้างองค์กรของแฟรนไชซอร์ (Organization Cost)

แฟรนไชส์เป็นธุรกิจเครือข่าย ยิ่งแฟรนไชซีเยอะ เครือข่ายใหญ่ ลองหลับตานึกดูว่า “เอ่อ.. ลืมตาก็ได้” ซีพีต้องใช้คนมากแค่ไหน โครงสร้างองค์กรซับซ้อนปานใดจึงบริหาร 7-11 นับพันสาขาให้ธุรกิจเดินได้ทุกวันตลอด 24 ช.ม. ไม่มีติดขัด ไหนเรื่องสินค้า ไหนเรื่องเงิน ไหนเรื่องพนักงาน ปัญหาพวกนี้ไทลีนอลเรียกพ่อทั้งนั้น

แต่สิ่งเหล่านี้แฟรนไชซอร์ต้องเตรียมพร้อม เพื่อการสนับสนุนแฟรนไชซีในเครือข่าย ทั้งหลายทั้งปวงนี้ต้องไม่ลืมว่า “มีค่าใช้จ่าย” ยิ่งแฟรนไชซีมาก เครือข่ายใหญ่ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากเป็นเงาที่ทอดยาวเกินตัว “โธ่... ก็ต้องเตรียมเผื่อล่วงหน้าไง” แฟรนไชซอร์จึงต้องใช้เงินค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์เพื่อเตรียมการในส่วนนี้

แฟรนไชซอร์บางคนหลงผิด เก็บค่าแฟรนไชส์ปั๊บถอยเบนซ์ป้ายแดงทันที เอาแต่ขายแฟรนไชส์ แฟรนไชซีก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เงินเตรียมพร้อมดันกลายเป็นรถเบนซ์ “หมอล๊ากกก” ศิษย์เอกหมอลักษณ์ฟันธงว่า “แฟรนไชส์ยี่ห้อนี้ราศีดวงอยู่ในช่วงขาขึ้น... ขึ้นมาก่ายหน้าผาก”

แฟรนไชส์ไหนประกาศปาวๆ ว่า “ไม่เก็บค่าแฟรนไชส์” โปรดระวัง เพราะขนาดเงินถุงเงินถังแบบซีพีเขายังต้องเก็บเงินค่าแฟรนไชส์ไปใช้เลย แล้วพวกที่ประกาศไม่เก็บนะจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ในเรื่องนี้


เป็นค่าตอบแทนการเลือกทำเล (Location Selection)

ทำเลเป็นหัวใจของค้าปลีก ทำเลมังกรทองอยู่ตรงไหนดูได้จากฝุ่นที่ตลบไปเคยจาง ทำเลดีความสำเร็จของแฟรนไชซีก็แค่เอื้อม เลือกทำเลไม่ดีโหวงเฮ้งแฟรนไชซีจะหมอง ผลร้ายจะย้อนกลับมาที่แฟรนไชซอร์ เพราะ แฟรนไชซีจะถามหาความช่วยเหลือ และความรับผิดชอบจากแฟรนไชซอร์

เรื่องเลือกทำเลแฟรนไชซอร์ต้องเป็นผู้แบกรับภาระนี้เต็มๆ จะโยนให้เป็นความรับผิดชอบของแฟรนไชซีไม่ได้ แฟรนไชซอร์รู้ดีที่สุดว่าธุรกิจของตนเองจะรุ่งเมื่ออยู่ในทำเลแบบไหน การเลือกทำเลนอกจากบางส่วนจะมาจากกึ๋นแฟรนไชซอร์แล้ว บางส่วนจะมาจากการทำการบ้านของแฟรนไชซอร์ คือ “การสำรวจ” เพื่อความมั่นใจทั้งของแฟรนไชซอร์และแฟรนไชซีการสำรวจหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจเลือกทำเล

แฟรนไชส์เชื้อสายญี่ปุ่นยี่ห้อหนึ่งที่ผมมีโอกาสไปดูงาน เขามีข้อมูลเพียบและพร้อมจะดึงมาใช้ได้ทันที จะเอาจำนวนประชากร อายุ เพศ การศึกษา ระดับรายได้ ลักษณะของชุมชนมีโรงเรียนกี่แห่ง โรงหนังอยู่ตรงไหน สถานที่ราชการอะไรบ้าง ที่สำคัญร้านของคู่แข่งอยู่ที่ไหนบ้าง แค่กดคอมพิวเตอร์รู้ทันทีว่าในรัศมี 1 กิโลเมตรที่
อยากจะเปิดร้านมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง แบบนี้ถึงจะเรียกว่าเป็นการตัดสินใจบนพื้นฐานข้อมูล

แฟรนไชส์พันธุ์ไทยบางเจ้าไฮเทคยิ่งกว่า อยากเปิดตรงไหนหลับตาจิ้มเอาจากแผนที่มาตราส่วน 1:50,000

การสำรวจข้อมูลเพื่อตัดสินใจ บางครั้งต้องส่งคนไปยืนนับจำนวนคนที่เดินผ่านไปมา อาจต้องทำแบบสำรวจ จิปาถะ พวกนี้เงินทั้งนั้นกว่าจะยืนยันได้ว่าทำเลนั้นควรค่าแก่การลงทุน บางแฟรนไชส์ถึงกับเรียกค่าสำรวจ (Survey Fee) ก็มี สุดท้ายแฟรนไชซีตกลงทำสัญญาเขาก็หักค่าสำรวจที่จ่ายมาแล้วเป็นค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ก็มี แต่ถ้าตัดสินใจไม่ทำเขาไม่คืนแต่ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการสำรวจไป


เป็นค่าตอบแทนการจัดการจนร้านพร้อมเปิดดำเนินการ

นอกจากหน้าที่ฝึกอบรม ถ่ายทอดเคล็ดวิชาจนแฟรนไชซีทำธุรกิจได้แล้ว แฟรนไชซอร์ยังต้องเตรียมร้านของแฟรนไชซีให้พร้อมเปิดดำเนินการด้วย แม้แฟรนไชซีจะออกเงินค่าก่อสร้างตกแต่ง ซื้อวัสดุอุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ รวมทั้งสินค้าเข้าร้าน จ้างพนักงานลูกน้อง

แต่ทั้งหมดนั่นแฟรนไชซีมือใหม่อาจทำได้ไม่ดีตามมาตรฐานของแฟรนไชซอร์ๆ จึงต้องรับภาระในส่วนนี้ จะออกแบบร้านอย่างไร จัดร้านแบบไหน ตอนตกแต่งร้านก็ต้องคอยมาดูว่าเป็นไปตามแบบหรือไม่ สินค้าส่งมาครบหรือเปล่า จัดวางสินค้าได้ตามรูปแบบของแฟรนไชซอร์หรือไม่ พนักงานหรือลูกจ้างควรมีสเปคอย่างไร ที่สำคัญพนักงานพวกนี้ต้องเป็นลูกมือให้แฟรนไชซี ดังนั้นแฟรนไชซอร์จึงต้องฝึกสอนพนักงานพวกนี้ก่อนปล่อยมาแสดงฝีมือที่ร้านของแฟรนไชซี บางแฟรนไชส์จะรับสมัครพนักงานให้ และฝึกอบรมจนพร้อม พอเปิดร้านปั๊บพวกนี้ก็ทำงานได้ทันที เมื่อเปิดร้านแล้วแฟรนไชส์บางยี่ห้อยังให้พนักงานของแฟรนไชซอร์อยู่ช่วยที่ร้านอีกระยะหนึ่งด้วย

ก่อนเปิดร้าน (Pre-opening) แฟรนไชซอร์อาจใช้กลยุทธ์ทำใบปลิวแล้วส่งคนไปยืนแจกเพื่อโฆษณาบอกชาวบ้านชาวช่องแถวนั้นว่า “ร้านจะเปิดแล้วน่ะ” วันเปิดจะมีอะไรเป็นของขวัญของแถมบ้าง เอาให้ใหญ่หน่อยอาจเชิญดารา หรือนางงามมายืนบิดไปมาตัดริบบิ้นบวกโปรยยิ้มคู่กับแฟรนไชซีให้เป็นที่เอิกเกริก ตามด้วยถ่ายรูปไปลงหนังสือพิมพ์ด้วยก็ได้ ให้ดีต้องลงวันหวยออก คนเห็นแยะดี...

แฟรนไชซอร์จึงมีค่าใช้จ่ายในการจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทางเพื่อให้ร้านของแฟรนไชซีเปิดได้ตามกำหนดเวลา ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ส่วนหนึ่งจึงนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย

การเปิดร้านแฟรนไชส์สักสาขา แม้แฟรนไชซีลงทุนทั้งหมด แต่แฟรนไชซอร์ก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้ร้านเกิดขึ้นให้ได้ การเตรียมพร้อมของแฟรนไชซอร์ทั้งแผนงาน และบุคลากรจึงเป็นหัวใจของความสำเร็จในระบบแฟรนไชส์ แน่นอนต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าธรรมเนียม

แฟรนไชส์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในระบบแฟรนไชส์ แฟรนไชส์ไหนที่ไม่ได้เรียกเก็บอาจเป็นเพราะในช่วงแรกต้นทุนในการบริหาร สนับสนุนแฟรนไชซียังไม่สูงนัก แต่พึงระลึกว่าถ้ามีแฟรนไชซีหลายๆ รายเข้าค่าใช้จ่ายที่เคยตํ่าก็จะสูงขึ้น ถึงตอนนั้นจะทำอย่างไร

“หรือจะเอาแบบตัวใครตัวมัน”


ท่านใดสนใจหลักสูตรการคิดค่าแฟรนไชส์ ต้นทุน และความคุ้มค่าของแบรนด์ 
สามารถสมัครเรียนได้ที่นี่ คลิก https://bit.ly/35kxTnW
 
คอรส์เรียนอื่นๆ คลิก https://bit.ly/38wAJs4
บทความแฟรนไชส์ยอดนิยม Read more
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
6 แฟรนไชส์บริการ! สร้างรายได้ 24 ชม.
844
ลงทุนตามเทรนด์ฮิต! 7 แฟรนไชส์ไอเดียเงินล้าน ปี ..
588
ตั้งแถวใหม่ 10 แฟรนไชส์ น่าลงทุน ครึ่งปีหลัง 68
506
แฟรนไชส์ชาจีน Good Me 古茗 ดังจนถูกก๊อป 600 สาขา
481
“ปิ้งย่าง” ธุรกิจหมื่นล้าน! มีแฟรนไชส์ไหน น่าลง..
472
Shake Shack จากรถเข็นขายฮอทดอกในนิวยอร์ก สู่แฟรน..
447
บทความแฟรนไชส์มาใหม่
บทความอื่นในหมวด