ธุรกิจส่วนใหญ่เติบโตจาก 1 ถึง 100 ต้องใช้ความมานะ มุ่งมั่น ทุ่มเท ขยัน อดทน ชนิดที่ต้องหายใจเป็นธุรกิจกันเลยทีเดียว แต่การที่ธุรกิจจะเติบโตต่อจาก 100 ไปจนถึง 1000 นั้น ต้องการสิ่งที่มากกว่านั้นอีก
 

คำกล่าวนี้ ผมเคยพูดไว้นานมากแล้ว ทุกวันนี้มันก็ยังคงเป็นเช่นนี้ ความสำเร็จของธุรกิจร้านอาหารที่ผมได้เล่าไว้ใน Part 1 นั้น มาจากองค์ประกอบข้างต้นจริงๆ ชายหนุ่มที่มุ่งมั่น และขยัน ใช้ความทุ่มเทชนิดที่เอาทุกอย่างเป็นเดิมพันจนทำให้วันนี้มีธุรกิจมูลค่าเกินร้อยล้าน และจากการมีหนี้สินกลายมาเป็นมีทรัพย์สิน นี่คือบันไดขั้นแรกเท่านั้น

การสร้างธุรกิจและต่อยอดต่อไปนั้นจะต้องประกอบไปด้วยหลักคิดเชิงกลยุทธ์ ธุรกิจจำเป็นที่จะต้องเริ่มจากหลักหรือแนวคิดที่ถูกต้องเสียก่อน จึงจะนำไปสู่การวางแผนและการดำเนินการที่ถูกต้อง แล้วอะไรถึงจะเรียกว่าถูกต้อง

คำตอบอยู่ที่การมี “วิสัยทัศน์” ที่ต้องผสมผสานกับ “ความฝัน” ของตนเอง การมีความฝัน แต่ขาดวิสัยทัศน์ มันก็ไม่สามารถทำให้เกิดเป็นความจริงได้ บางครั้งมันกลายเป็นความสะเปะสะปะ หรือฝันวกไปวนมา ความฝันจึงจำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่ควรจะเป็นด้วย

ภาพจาก freepik

 

กรณีของธุรกิจร้านอาหารที่ผมทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษานี้นั้น ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ให้มี “คุณค่าของความเป็นไทย” เพื่อสร้างแนวคิดธุรกิจให้มีเรื่องราวและสามารถต่อยอดได้อย่างยาวนานและยั่งยืน แม้ว่าวันนี้จะมีธุรกิจหลายประเภทใช้คุณค่าของความเป็นไทยกันมาก แต่ยังไม่มีธุรกิจไหนที่ประสบความสำเร็จและทำได้จริงจนปรากฏขึ้นมา

หลายแห่งเป็นเพียงคำพูดหรูที่ดูดีเท่านั้นเอง เมื่อกำหนด “คุณค่า” ให้กับธุรกิจ ได้แล้ว การออกแบบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แบรนด์ ลักษณะของร้าน เมนูของอาหาร ลักษณะการบริการ จะต้องสอดคล้องรับกับ “คุณค่า” ที่กำหนดไว้อย่างคล้องจองกัน
 

 

ตอนเริ่มต้นธุรกิจ การสร้างบุคลากรก็จะมาจากคนที่ทำงานใกล้ชิดและมีหน้าที่รับผิดชอบที่สูง ความผูกพันจะทำให้เห็นวิธีทำงานและผลงานโดยเฉพาะความรับผิดชอบในหน้าที่ของคนเหล่านั้น นำมาซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจ และนี่จึงเป็นคำกล่าวที่ผมเรียกว่า Put the like man to the like job. แทนที่จะเป็น Put the right man to the right job ซึ่งในระยะแรกของการบริหารจัดการ มันก็ไม่ผิดอะไร กับวิธีคิดและปฏิบัติเช่นนี้

แต่เมื่อวันหนึ่งที่ธุรกิจจะต้องเติบโตขึ้นและคนเหล่านี้ล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่ร่วมเหน็ดเหนื่อยและฝ่าฝันกันมา เจ้าของธุรกิจส่วนมาก ก็จะพาทีมงานให้ขึ้นมาเป็นทีมบริหารของตนต่อไป โดยลืมนึกไปว่า บางคนอาจไม่สามารถทำงานในระดับบริหารได้ เพราะโดยส่วนใหญ่จะทำงานในระดับจัดการหรือปฏิบัติการสะเป็นส่วนใหญ่ งานในระดับจัดการ มักเป็นงานที่ต้องอาศัยการคลุกและฮุควงใน (by cook & by hook) ของการทำงานในหน้างานจริง ซึ่งจะแตกต่างจากงานบริหารที่ต้องอาศัยการวางแผน การวิเคราะห์ และการเก็บข้อมูล

ภาพจาก freepik

ดังนั้นหน้าที่ของที่ปรึกษาของผมก็คือ ต้องเตรียมบุคลากรเหล่านั้นให้ปรับเปลี่ยนวิธีคิด (Mindset) และพฤติกรรมการทำงานให้มาคุ้นเคยและเข้าใจกับงานบริหารมากขึ้น และต้องช่วยสร้างบุคลากรใน Tier 3 (ระดับที่สามหรือแถวที่สาม) ให้ขึ้นมาแทนบุคลากรแถวสอง การสอนงานและปรับ mindset สร้าง skill ไปพร้อมๆ กัน

อาจมีคนถามว่า “หาคนใหม่ๆ มาร่วมงานไม่ดีกว่าหรือ” คำตอบก็คือ “มันดีกว่าแน่ถ้าสามารถหาคนที่มีความสามารถและปรับตัวเข้ากับ “วัฒนธรรม” และ “สไตล์” ของผู้นำในองค์กรได้ แต่หากได้คนเก่งมา แต่ไม่สามารถปรับตัวหรือจัดการวิธีทำงานร่วมกับ “ผู้นำ” องค์กรได้ ก็ต้องเป็นหน้าที่และบทบาทของ “ผู้นำ” ที่ต้องบริหารจัดการคนใหม่และคนเก่า ให้ผสมผสานการทำงานกันได้อย่างลงตัวนั่นเอง ยังไม่นับว่า การหาบุคลากรที่ตรงตามที่อยากได้นั้น ช่างหายากนักสำหรับธุรกิจในต่างจังหวัด แต่ปัญหานี้จะน้อยลงไปเรื่อยๆ เมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นไปอีกสองหรือสามเท่าตัว
 

 

โดยสรุปแล้ว การทำให้ธุรกิจเติบโตจาก 100 ไป 1000 นั้น สิ่งสำคัญคือ การกำหนดกลยุทธ์และการเตรียมทีมงานให้มีความพร้อม ซึ่งต้องทำไปพร้อมๆ กับการขยายธุรกิจที่มีแผนการขยายอย่างต่อเนื่องและสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการควบคุมกิจกรรมต่างๆ ทางธุรกิจที่กำหนดไว้ตามแผนงาน

ผมใช้หลักของ P-D-C-A ในการทำงานและสอนงาน รวมทั้งบุคลากรใน Tier 2,3 จะต้องเข้าใจและนำหลักการนี้ไปใช้กันให้ได้ เพราะทุกอย่างจะต้องเป็นวงจรแบบนี้ตลอดเวลา และ Key เหล่านี้จะเป็นเครื่องมือในการ Drive (ขับเคลื่อน) งาน ให้เดินไปข้างหน้า แม้จะช้าแต่จะไม่หยุดเดิน ครับ
 

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ "กาแฟเล่าเรื่อง" ตอน คาถาจากจอมยุทธ์ วันนี้ผมเปลี่ยนหัวคอลัมน์จากเดิม "ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง" มาเป็น "กาแฟเล่าเรื่อง" เพราะชื่อแรกนั้นไม่ทราบมาก่อนว่าไปซ้ำกับชื่อ ที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ใช้ในการทำเพจเล่าเรื่อง จึงไปซ้ำเข้า จึงคิดว่าขอเปลี่ยนเป็น "กาแฟเล่าเรื่อง" เพราะเนื้อหาส่วนใหญ่ได้จากการพูดคุย.. 59months ago   1,609  4 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ “ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง” ตอนที่ 3 “ทำไมธุรกิจต้องขยายสาขา” ในโลกของการทำธุรกิจ สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการมากที่สุดก็คือ “รายได้” ถ้าธุรกิจเป็นภาคการผลิต ก็ต้องการขายให้ได้มากที่สุด เพื่อให้กำลังการผลิตสามารถใช้ได้เต็มที่ อันจะนำมาซึ่งต้นทุนการผลิตที่ถูกลง นั่นหมายถึง กำไรต่อหน่วยจะสูงขึ้น ในกระบวนการขายของภาคการผลิตก็จะใช้ช่องทางการจัด.. 59months ago   1,784  4 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ “ผู้เต่าเล่าเรื่อง” ตอนที่ 2 เมื่อ Gen Y กลายมาเป็นผู้นำธุรกิจและเป็นตลาดกลุ่มให.. Baby Boomer คือ คนที่มีอายุระหว่าง 54-72 ปี เรียกว่า เข้าสู่สังคมผู้สูงวัย ส่วน Gen X จะมีอายุระหว่าง 38-53 ปี และ Gen Y คือ 21-37 ซึ่ง Gen Y เป็นตลาดที่เป็นที่จับตามากที่สุด เพราะเป็นกลุ่มประชากรวัยทำงานที่มีรายได้สูง มีกำลังซื้อสูง เป็นกลุ่มที่จะกำหนดความเป็นไปในอนาคตของโลกได้ในอีก 20 ปี.. 59months ago   1,578  3 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ "ผู้เฒ่าเล่าเรื่อง" ตอนที่ 1 ปรัชญาจากประสบการณ์จริง การได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่นับเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ประสบการณ์จากท่านเหล่านั้นเป็นดั่งขุมทองคำ หากใครที่เคยดูหนังกำลังภายใน จะรู้ว่าเวลาที่ปรมาจารย์ต่างๆ จะถ่ายทอดวิทยายุทธให้กับลูกศิษย์ โดยเฉพาะตัวเอกของเรื่อง ปรมาจารย์มักจะให้คำพูดเป็นเชิงปรัชญา ลูกศิษย์ต้องไปขบคิดปรัชญานั้นให้แตก.. 59months ago   2,004  4 นาที

บทความ SMEs | การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ | ความรู้ทั่วไปทางธุรกิจ "กาแฟเล่าเรื่อง" Sharing your success is more success Part 3 “เป้าหมาย” คือ สิ่งสำคัญที่สุด SMEs ที่เป็น Star up ส่วนใหญ่ มักกำหนดเป้าหมายเพียงรายได้ และผู้ที่รู้เป้าหมายหรือให้ความสำคัญกับการไปให้ถึงเป้าหมายก็คือ ผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจนั่นเอง แต่เมื่อ SMEs นั้นประสบความสำเร็จ สามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมายที่ต้องการแล้ว .. 58months ago   1,860  5 นาที

วิทยากร