หอการค้าจังหวัดเลย เริ่มก่อตั้งเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๒๘ โดยมีพ่อค้าในจังหวัดเลย ได้ร่วมกันก่อตั้ง องค์กรหอการค้าขึ้น ซึ่งในครั้งแรกมีผู้ประกอบการสมัครเป็นสมาชิก จำนวน ๖๐ ท่าน และมีการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารหอการค้าจังหวัดเลย ขึ้นชุดแรกตั้ง จำนวน ๒๔ ท่าน โดยมี นายเติมศักดิ์ อัมพาผล ดำรงตำแหน่งเป็น ประธานหอการค้าจังหวัดเลย ท่านแรก หอการค้าจังหวัดเลย มีวัตถุประสงค์ในการดำเนินการ เพื่อส่งเสริมธุรกิจต่าง ๆ ของสมาชิกให้มีความเจริญก้าวหน้าตลอดจน ร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนภายในจังหวัด เพื่อ แก้ไขปัญหา อุปสรรค ภายในท้องถิ่นจังหวัดเลย และ มีคำขวัญว่า "ส่งเสริมการค้า พัฒนาเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าชีวิต คือภารกิจหอการค้า"
หลังจากมีคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดเลยชุดแรก รัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งมี ฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี เห็นความสำคัญของภาคเอกชนต่อการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของชาติ จึงได้ก่อตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) และมีนโยบายให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระดับจังหวัดขึ้น ทุกจังหวัด (กรอ.จว.) หอการค้าจังหวัดเลย ในฐานะสถาบันภาคเอกชนที่มีกฎหมายรองรับ จึงมีฐานะเป็นตัวแทนของภาคเอกชนโดยสมบูรณ์ และได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจังหวัดเลย (กรอ.ลย.) บทบาทและหน้าที่ของหอการค้าสจังหวัด หอการค้าจังหวัดนับว่าเป็นสถาบันนิติบุคคลตามกฎหมาย
ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดเลย เป็นสถาบันหนึ่งอันเปรียบเสมือนแกนกลางที่สำคัญของนักธุรกิจในจังหวัด เป็นที่รวมของบรรดาพ่อค้า ผู้ประกอบการวิสาหกิจต่าง ๆ ซึ่งมีจุดหมายเดียวกัน คือ การประกอบวิสาหกิจการค้า การเงิน การอุสาหกรรม และการเศรษฐกิจโดยส่งเสริมให้ผู้ปรพกอบวิสาหกิจดำเนินการอย่างมีประสิทธภาพ ทั้งยังดำเนินการเป็นสถาบัน หรือตัวแทนของจังหวัดและมีหน้าที่ส่งเสริมในด้านเศรษฐกิจการค้าของจังหวัดให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เป็นแหล่งรวมพลังพ่อค้าให้เกิดความสามัคคี และความเข้าใจอันดีต่อกัน เกิดความสำนึกในคุณค่าของตัวเองที่มีต่อสังคม ลดความเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว โดยเสียสละให้ส่วนรวม ซึ่งเป็นพื้นฐานอันหนึ่งของความเจริญก้าวหน้า ก่อให้เกิดความมั่นคงในชาติ หอการค้าจังหวัดสามารถจะอำนวยประโยชน์แก่สมาชิกและประเทศชาติได้เป็น อย่างดี
เพราะหอการค้าจังหวัดมีสมาชิกที่ประกอบวิสาหกิจทุกสาขาอาชีพ จากทุกอำเภอ ตำบล และหมู่บ้านภายในเขตจังหวัด ซึ่งถ้าสามารถรวบรวมข้อมูลสถิติ ข้อเท็จจริง ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ นำมาร่วมกัน พิจารณาเพื่อหาทางข่วยเหลือแก้ไข และหาข้อยุติในอันที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันได้ภายในท้องถิ่นนั้น ๆ ก็จะเป็นการพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น หอการค้าจังหวัดเป็นสถาบันภาคเอกชนในส่วนท้องถิ่นที่สามารถแบ่งเบาภาระความรับผิดชอบในการพัฒนาเศรษฐกิจจากภาครัฐบาลได้ เพราะมีเครือข่ายหอการค้าอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งหากส่งเสริมให้สามารถ ดำเนินกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะเป็นการพัฒนาจังหวัด หนึ่งจังหวัดใดแล้ว ยังสามารถรวมพลังกันร่วมกับหอการค้าไทย พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย หอการค้าจังหวัดเป็นองค์กรสำคัญของสถาบันธุรกิจเอกชนที่มีการจัดตั้งได้ครบทุกจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เพื่อความเป็นปึกแผ่นตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ซึ่งกำหนดวัตถุประสงค์หลักที่จะให้หอการค้าจังหวัด เป็น สถาบันภาคเอกชนร่วมมือกับรัฐบาลในอันที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของ