1.3K
16 เมษายน 2558
SENA ปรับพอร์ตเพิ่มบ้านระดับบนลดสินค้าตลาดล่างแก้ปัญหากำลังหดยอดปฏิเสธสินเชื่อ หนี้ครัวเรือนพุ่ง



เสนาฯ เดินหน้าปรับพอร์ตลงทุนที่อยู่อาศัย เพิ่มแชร์สินค้าตลาดกลาง-บนจาก 10%-ขึ้นเป็น 30% พร้อมปรับลดพอร์ตสินค้ากลาง-ล่างเหลือ 70% จากเดิม 80-90% หลังกำลังซื้อลูกค้าหด หนี้ครัวเรือนพุ่ง ยอดปฏิเสธสินเชื่อลูกค้าตลาดล่างขยับเพิ่ม เล็งลงทุนออฟฟิศเช่า เพิ่มพอร์ตรายได้ระยะยาว แก้ปัญหารายได้ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ หลังอสังหาฯ ผันผวนตาม ศก.ไทย-โลก เผยเลื่อนแผนเปิดคอนโดย่านระราม 2 อีก 1 ไตรมาส หลังไตรมาสแรกดีมานด์หดตัว พร้อมเดินหน้าเปิดคอนโด ในซอยสุขุมวิท 50 แทน
      
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA เปิดเผยว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนสูง กำลังซื้อผู้บริโภคหดตัว และการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงปัญหาการผันผวนของเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นในทุกขณะ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในระดับกลาง-ล่าง ทำให้บริษัทมีการปรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ และในอนาคตบางส่วน เพื่อรับมือต่อสถานการณ์ตลาด และปัญหาที่เกิดขึ้น
      
โดยบริษัทมีแผนปรับลดสัดส่วนสินค้าในกลุ่มตลาดกลาง-ล่างลง หรือตลาดที่อยู่อาศัยเกรด B ลบ C และ C บวก
จากเดิมที่มีสัดส่วนการพัฒนาสินค้าที่ 80-90% ลงมาอยู่ที่ 70% เพื่อไปเพิ่มสัดส่วนที่อยู่อาศัยในตลาดกลาง-บน หรือตลาด B และ B บวกเพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีสัดส่วนการพัฒนาอยู่ที่ 10% เพิ่มเป็น 30% ในปีนี้ ทั้งนี้ การเพิ่มสัดส่วนสินค้าในตลาดกลาง-บนของบริษัทนั้นส่วนหนึ่งเพื่อเพิ่มอัตรากำไรของบริษัท แต่ปัจจัยสำคัญ คือ เพื่อลดความเสี่ยงจากปัญหาลูกค้าตลาดล่างที่มีอัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น และกำลังซื้อที่หดตัวในปีนี้

      
นอกจากนี้ ยังเป็นการรองรับกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง-บน ที่มีการขยายตัวที่มีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นในอนาคต เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อ หรือได้รับผลกระทบน้อยมากเมื่อเทียบกับกลุ่มลูกค้าในตลาดล่าง และลูกค้าตลาดระดับบนยังเป็นการที่มีกำลังซื้อสูง ทำให้ปัจจัยเกี่ยวกับการขึ้นลงของเศรษฐกิจส่งผลต่อกำลัง และการตัดสินใจซื้อของลูกค้ากลุ่มดังกล่าวน้อย
      
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ความผันผวนของตลาดอสังหาฯ ในประเทศไทยที่มีความผันผวนขึ้นลงตามเศรษฐกิจในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทกลับมาทบทวนแผนการพัฒนา และลงทุนในธุรกิจเพื่อเช่า ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว เพื่อช่วยทำให้บริษัทลดปัญหาด้านรายได้ระยะยาวได้ แต่เนื่องจากการลงทุนพัฒนาโครงการปล่อยเช่านั้นค่อนข้างใช้เงินทุนในการพัฒนาที่สูง และต้องใช้ระยะเวลาในการคืนทุนทำให้ เสนาฯ ต้องพิจารณาเลือกลงทุนในธุรกิจเช่าอย่างรอบคอบ
      
“พอร์ตธุรกิจที่สร้างรายได้ระยะยาวของเสนาฯ ที่มีในมือขณะแชร์รายได้รวมอยู่ 10% ประกอบด้วย คอมมูนิตีมอลล์ เลียบถนนเจริญนคร สนามกอล์ฟ และอพาร์ตเมนต์
ดังนั้น โครงการเพื่อสร้างรายได้ระยะยาวที่จะมีการลงทุนใหม่ จึงให้ความสนใจในกลุ่มธุรกิจออฟฟิศเช่า ซึ่งเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดี ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทพยายามมองหาที่ดินในทำเลที่เหมาะต่อการพัฒนาออฟฟิศเช่าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่มีที่ดินที่เหมาะสมเข้ามา ทำให้แผนการพัฒนาออฟฟิศเช่าของเสนาฯ ยังไม่ได้ข้อสรุป”

      
ดร.เกษรา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 11 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 5 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งตามแผนเดิมในไตรมาส 2 เสนาฯ จะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมในย่านพระราม 2 จำนวน 1 โครงการ

แต่จากแนวโน้มการหดตัวของดีมานด์ตลาดในย่านพระราม 2 ในช่วงไตรมาสแรก ทำให้บริษัทต้องเลื่อนแผนการเปิดโครงการไปในไตรมาสที่ 3 อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 2 นี้ บริษัทจะมีการเปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ 1 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในแผน ภายหลังจากที่บริษัทได้ซื้อที่ดินแปลงใหม่ จำนวน 5 ไร่ ในซอยสุขุวิท 50 เข้ามา 1 แปลง
      
“คอนโดใหม่ในซอยสุขุมวิท 50 นี้จะเป็นโครงการโลว์ไรส์ สูง 8 ชั้น ขนาดเริ่มต้น 28 ตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไป โดยราคาขายเริ่มต้นคาดว่าจะอยู่ที่ 50,000-70,000 บาทต่อ ตร.ม. หรือมีราคาเริ่มต้น 2-4 ล้านบาท”

อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
งาน กินอร่อยร้อยเมนู อร่อยแสงออก..
452
คอกาแฟไม่ควรพลาด! เทศกาลกาแฟที่ใ..
435
งาน มหกรรมรับสร้างบ้าน 2024
422
งาน THE MALL LIFESTORE THAPRA BI..
414
งานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่..
412
เซ็นทรัลพัฒนา ส่งต่อความสดจากทะเ..
407
ข่าวทำเลค้าขายมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด