778
16 เมษายน 2563
LINE MAN เดินหน้าสร้างโมเดลธุรกิจยั่งยืน พัฒนาโซลูชั่นเพิ่มช่วยร้านค้า เผย 6 เทคนิคสำหรับร้านเดลิเวอรี่มือใหม่
 
 
LINE MAN ผู้ช่วยเบอร์หนึ่ง ตอกย้ำแนวทางยึดโมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ยืดหยุ่นและสร้างความพึงพอใจสำหรับทุกฝ่าย ชูฟีเจอร์ Self Pick-up สั่งผ่านแอปฯและรับอาหารหน้าร้านโดยไม่หักค่า GP จากออเดอร์ดังกล่าว ในช่วงเวลาวิกฤติ เดินหน้าเพิ่มโซลูชั่นช่วยร้านค้าให้โปรโมทร้านได้ด้วยตัวเองบนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) พร้อมแนะ 6 เคล็ดลับเด็ดสำหรับร้านอาหารมือใหม่ที่ต้องการขายผ่านบริการเดลิเวอรี่
 
โมเดลเปิดกว้าง พร้อมฟีเจอร์ช่วยแบ่งเบาร้านอาหาร 
 
นางสาววรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN เผยว่า “LINE MAN ก่อตั้งขึ้นมาในประเทศไทย ด้วยเป้าหมายคือการเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย เช่นเดียวกันกับการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารในทุกระดับให้เติบโตอย่างเต็มกำลังในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะโมเดลความร่วมมือระหว่างร้านอาหารที่ต้องการขายบนแอปฯ LINE MAN นั้นเปิดกว้างตั้งแต่เริ่มต้น

ซึ่งร้านอาหารต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะขายบนแอปฯเรา โดยสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น Wongnai Merchant App (WMA) ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น เปิดโอกาสให้มีร้านอาหารใหม่เพิ่มเข้ามาถึงประมาณ 3 – 5 เท่าหรือมากกว่าประมาณ 15,000 ร้านในช่วงที่ผ่านมา (22 – 31 มีนาคม) โดยร้านค้ามีสิทธิเลือกสำหรับการร่วมโปรแกรมพันธมิตร GP (Gross Profit) เพื่อทำการตลาดร่วมกันบนข้อตกลงที่สร้างความพึงพอใจให้กับร้านค้าและบริษัทฯ

ขณะเดียวกันได้พัฒนาฟีเจอร์ Self Pick-up สำหรับลูกค้าให้สามารถสั่งอาหารผ่านแอปฯและไปรับที่หน้าร้านด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าสั่ง โดย LINE MAN จะไม่หักค่าธรรมเนียมใดๆจากออเดอร์นั้น แม้จะเป็นร้านพันธมิตรประเภท GP ก็ตามในเวลานี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทั้งลูกค้าและร้านอาหาร และยังได้เร่งขยายร้านอาหารที่รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เพื่อช่วยร้านอาหารให้มีวิธีการชำระเงินที่ครบครัน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้”
 
พัฒนาโซลูชั่นเพื่อขับเคลื่อนร้านค้าให้โตไปด้วยกัน 
 
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านอาหารทุกประเภท สามารถเข้าถึงเครื่องมือในการทำการตลาดได้ด้วยตัวเองผ่าน  Wongnai Merchant App (WMA) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นจัดการออเดอร์ที่ LINE MAN และ พันธมิตรอย่าง Wongnai ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นการติดอาวุธให้กับร้านอาหารบนสนามฟู้ดเดลิเวอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดหน้าร้านออนไลน์ รับออเดอร์เดลิเวอรี่และ การสรุปยอดขายเดลิเวอรี่ในแต่ละวัน ฟังก์ชั่นถ่ายภาพอาหารเพื่อโปรโมทข้ามแพลตฟอร์มราวกับมืออาชีพ

ทั้งยังสามารถจัดทำโปรโมชั่นเพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าได้ด้วยตัวเอง (Self Promotion)  โดยทั้งหมดนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ LINE MAN ในการเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งสำหรับพันธมิตรร้านอาหารเพื่อขับเคลื่อนตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
 
เผย 6 เทคนิคสำหรับร้านเดลิเวอรี่มือใหม่ 
 
จากการที่ LINE MAN เป็นแอปฯเดลิเวอรี่ที่ร้านอาหารให้ความสนใจเข้าร่วมขายบนแอปฯเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา LINE MAN จึงได้ประมวล 6 เทคนิคพื้นฐานเพื่อเป็นทิศทางและสร้างความมั่นใจในการเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ดังนี้
  1. สร้างจุดเด่นให้ร้าน นำเสนอเมนูให้โดน 
    • ท่ามกลางร้านอาหารจำนวนมาก ทั้งแบรนด์ใหญ่แบรนด์เล็กที่ผ่านตาลูกค้าวันละหลายๆร้าน การทำให้ร้านมีจุดเด่นและน่าสนใจเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการต้องสามารถดึงจุดเด่นของแบรนด์และเมนูผ่านการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ แม้จะเป็นเมนูธรรมดาก็ตาม ตั้งแต่ความพิเศษของวัตถุดิบ วิธีการปรุง รสชาติ ที่มาของเมนู รวมไปจนถึงการนำเสนอที่น่าสนใจ เชิญชวนให้ลูกค้าถ่ายรูปและบอกต่อบนโลกโซเชียล เป็นการโปรโมทร้านต่อไปเป็นทอดๆโดยไม่ต้องลงทุนด้านสื่อ 
  2. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย
    • ไม่เพียงแค่รู้ว่าจะขายอะไร  แต่ต้องรู้ว่าร้านจะขายให้กับใคร กลุ่มลูกค้าประเภทไหนที่จะเป็นผู้จ่ายเงินซื้ออาหารจากร้านเรา ข้อนี้เปรียบเสมือนอีกจุดเริ่มต้นข้อแรกๆที่ร้านจะต้องทำการบ้าน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเกี่ยวข้องกับการคิดเมนูและการวางราคาที่เหมาะสมให้สอดคล้องด้วยเช่นกัน 
  3. ไม่จำเป็นต้องมีหลายเมนู
    • หากร้านของคุณไม่ใช่ร้านอาหารที่ลูกค้าคุ้นเคยกับสั่งหลากหลายเมนูอยู่แล้ว การมีเพียงไม่กี่เมนูนั้นเป็นอีกกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นขายอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ เริ่มต้นจากการเน้นขายเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเพียง 1-3 เมนู จะช่วยให้ร้านเป็นที่จดจำของกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น อาจจะถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “อยากให้คนรู้จักร้านเราจากเมนูอะไร” ทั้งนี้ การขายเพียงไม่กี่เมนูยังช่วยควบคุมต้นทุน และทำให้บริหารวัตถุดิบได้ดีอีกด้วย  
  4. โปรโมชั่นสำหรับเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ 
    • พฤติกรรมของการสั่งเดลิเวอรี่นั้นแตกต่างจากการสั่งทานหน้าร้าน การมีโปรโมชั่นที่รองรับพฤติกรรมและความต้องการการทานที่บ้าน จะยิ่งช่วยดึงดูดลูกค้าและช่วยเพิ่มยอดขายได้ไม่ยาก เช่น เมนูเสริมในราคาพิเศษ เพื่อเชิญชวนให้สั่งไปทานคู่กับเมนูหลัก หรือ การจัดชุดเมนูที่สามารถทานได้ทั้งวัน ก็ต่างเป็นสิ่งที่ลูกค้าเดลิเวอรี่ส่วนใหญ่ต้องการ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องจำเป็นต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวันแบบนี้
  5. เมนูและปริมาณที่เหมาะสม
    • ไม่ใช่ทุกเมนูจะเหมาะกับการจำหน่ายผ่านบริการเดลิเวอรี่ เพราะบางเมนูมีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมคุณภาพของอาหาร อาจจะขนส่งไม่สะดวกและเหมาะกับการทานที่ร้านมากกว่า เช่น ร้านชาบู - ปิ้งย่าง สามารถพลิกแพลงนำวัตถุดิบที่มีมาปรับเป็นเมนูผัดหรือต้มสำเร็จรูปพร้อมทาน หรือร้านที่มีเมนูขนาดใหญ่ ก็สามารถปรับให้เหมาะกับการทาน 1-2 คน เพื่อให้สะดวกต่อการทานและขนส่ง ง่ายต่อการตัดสินใจสั่ง และเพิ่มโอกาสการขายได้อีกด้วย 
  6. ใส่ใจ Packaging เพื่อเดลิเวอรี่ 
    • บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับการเดลิเวอรี่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะต้องคำนึงถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการขนส่ง รักษาคุณภาพทั้งรสชาติและหน้าตาของอาหารที่อาจเปลี่ยนไปจากระยะเวลาการเดินทาง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงคุณภาพอาหารที่ยังคงที่เมื่อเปิดทาน โดยเฉพาะปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์แบบ Reuse สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก หรือแบบที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ก็เป็นอีกข้อที่ร้านเดลิเวอรี่หันมาใส่ใจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,096
PLAY Q by CST bright u..
1,313
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
941
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
790
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด