983
16 เมษายน 2563
LINE MAN เดินหน้าสร้างโมเดลธุรกิจยั่งยืน พัฒนาโซลูชั่นเพิ่มช่วยร้านค้า เผย 6 เทคนิคสำหรับร้านเดลิเวอรี่มือใหม่
 
 
LINE MAN ผู้ช่วยเบอร์หนึ่ง ตอกย้ำแนวทางยึดโมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ยืดหยุ่นและสร้างความพึงพอใจสำหรับทุกฝ่าย ชูฟีเจอร์ Self Pick-up สั่งผ่านแอปฯและรับอาหารหน้าร้านโดยไม่หักค่า GP จากออเดอร์ดังกล่าว ในช่วงเวลาวิกฤติ เดินหน้าเพิ่มโซลูชั่นช่วยร้านค้าให้โปรโมทร้านได้ด้วยตัวเองบนแอปฯ Wongnai Merchant App (WMA) พร้อมแนะ 6 เคล็ดลับเด็ดสำหรับร้านอาหารมือใหม่ที่ต้องการขายผ่านบริการเดลิเวอรี่
 
โมเดลเปิดกว้าง พร้อมฟีเจอร์ช่วยแบ่งเบาร้านอาหาร 
 
นางสาววรานันท์ ช่วงฉ่ำ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาธุรกิจและการตลาด LINE MAN เผยว่า “LINE MAN ก่อตั้งขึ้นมาในประเทศไทย ด้วยเป้าหมายคือการเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทย เช่นเดียวกันกับการสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารในทุกระดับให้เติบโตอย่างเต็มกำลังในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะโมเดลความร่วมมือระหว่างร้านอาหารที่ต้องการขายบนแอปฯ LINE MAN นั้นเปิดกว้างตั้งแต่เริ่มต้น

ซึ่งร้านอาหารต่างๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพื่อที่จะขายบนแอปฯเรา โดยสามารถลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น Wongnai Merchant App (WMA) ได้ด้วยตัวเอง ซึ่งใช้เวลาเพียง 1 วันเท่านั้น เปิดโอกาสให้มีร้านอาหารใหม่เพิ่มเข้ามาถึงประมาณ 3 – 5 เท่าหรือมากกว่าประมาณ 15,000 ร้านในช่วงที่ผ่านมา (22 – 31 มีนาคม) โดยร้านค้ามีสิทธิเลือกสำหรับการร่วมโปรแกรมพันธมิตร GP (Gross Profit) เพื่อทำการตลาดร่วมกันบนข้อตกลงที่สร้างความพึงพอใจให้กับร้านค้าและบริษัทฯ

ขณะเดียวกันได้พัฒนาฟีเจอร์ Self Pick-up สำหรับลูกค้าให้สามารถสั่งอาหารผ่านแอปฯและไปรับที่หน้าร้านด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าสั่ง โดย LINE MAN จะไม่หักค่าธรรมเนียมใดๆจากออเดอร์นั้น แม้จะเป็นร้านพันธมิตรประเภท GP ก็ตามในเวลานี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทั้งลูกค้าและร้านอาหาร และยังได้เร่งขยายร้านอาหารที่รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต เพื่อช่วยร้านอาหารให้มีวิธีการชำระเงินที่ครบครัน และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้”
 
พัฒนาโซลูชั่นเพื่อขับเคลื่อนร้านค้าให้โตไปด้วยกัน 
 
ขณะเดียวกันผู้ประกอบการร้านอาหารทุกประเภท สามารถเข้าถึงเครื่องมือในการทำการตลาดได้ด้วยตัวเองผ่าน  Wongnai Merchant App (WMA) ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่นจัดการออเดอร์ที่ LINE MAN และ พันธมิตรอย่าง Wongnai ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นการติดอาวุธให้กับร้านอาหารบนสนามฟู้ดเดลิเวอรี่ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดหน้าร้านออนไลน์ รับออเดอร์เดลิเวอรี่และ การสรุปยอดขายเดลิเวอรี่ในแต่ละวัน ฟังก์ชั่นถ่ายภาพอาหารเพื่อโปรโมทข้ามแพลตฟอร์มราวกับมืออาชีพ

ทั้งยังสามารถจัดทำโปรโมชั่นเพื่อสื่อสารไปยังลูกค้าได้ด้วยตัวเอง (Self Promotion)  โดยทั้งหมดนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ซึ่งเหล่านี้เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ LINE MAN ในการเป็นผู้ช่วยเบอร์หนึ่งสำหรับพันธมิตรร้านอาหารเพื่อขับเคลื่อนตลาดฟู้ดเดลิเวอรี่อย่างมีประสิทธิภาพ 
 
 
เผย 6 เทคนิคสำหรับร้านเดลิเวอรี่มือใหม่ 
 
จากการที่ LINE MAN เป็นแอปฯเดลิเวอรี่ที่ร้านอาหารให้ความสนใจเข้าร่วมขายบนแอปฯเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา LINE MAN จึงได้ประมวล 6 เทคนิคพื้นฐานเพื่อเป็นทิศทางและสร้างความมั่นใจในการเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ดังนี้
  1. สร้างจุดเด่นให้ร้าน นำเสนอเมนูให้โดน 
    • ท่ามกลางร้านอาหารจำนวนมาก ทั้งแบรนด์ใหญ่แบรนด์เล็กที่ผ่านตาลูกค้าวันละหลายๆร้าน การทำให้ร้านมีจุดเด่นและน่าสนใจเป็นเรื่องสำคัญ ผู้ประกอบการต้องสามารถดึงจุดเด่นของแบรนด์และเมนูผ่านการสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจ แม้จะเป็นเมนูธรรมดาก็ตาม ตั้งแต่ความพิเศษของวัตถุดิบ วิธีการปรุง รสชาติ ที่มาของเมนู รวมไปจนถึงการนำเสนอที่น่าสนใจ เชิญชวนให้ลูกค้าถ่ายรูปและบอกต่อบนโลกโซเชียล เป็นการโปรโมทร้านต่อไปเป็นทอดๆโดยไม่ต้องลงทุนด้านสื่อ 
  2. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย
    • ไม่เพียงแค่รู้ว่าจะขายอะไร  แต่ต้องรู้ว่าร้านจะขายให้กับใคร กลุ่มลูกค้าประเภทไหนที่จะเป็นผู้จ่ายเงินซื้ออาหารจากร้านเรา ข้อนี้เปรียบเสมือนอีกจุดเริ่มต้นข้อแรกๆที่ร้านจะต้องทำการบ้าน ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเกี่ยวข้องกับการคิดเมนูและการวางราคาที่เหมาะสมให้สอดคล้องด้วยเช่นกัน 
  3. ไม่จำเป็นต้องมีหลายเมนู
    • หากร้านของคุณไม่ใช่ร้านอาหารที่ลูกค้าคุ้นเคยกับสั่งหลากหลายเมนูอยู่แล้ว การมีเพียงไม่กี่เมนูนั้นเป็นอีกกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นขายอาหารผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ เริ่มต้นจากการเน้นขายเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเพียง 1-3 เมนู จะช่วยให้ร้านเป็นที่จดจำของกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น อาจจะถามตัวเองด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “อยากให้คนรู้จักร้านเราจากเมนูอะไร” ทั้งนี้ การขายเพียงไม่กี่เมนูยังช่วยควบคุมต้นทุน และทำให้บริหารวัตถุดิบได้ดีอีกด้วย  
  4. โปรโมชั่นสำหรับเดลิเวอรี่โดยเฉพาะ 
    • พฤติกรรมของการสั่งเดลิเวอรี่นั้นแตกต่างจากการสั่งทานหน้าร้าน การมีโปรโมชั่นที่รองรับพฤติกรรมและความต้องการการทานที่บ้าน จะยิ่งช่วยดึงดูดลูกค้าและช่วยเพิ่มยอดขายได้ไม่ยาก เช่น เมนูเสริมในราคาพิเศษ เพื่อเชิญชวนให้สั่งไปทานคู่กับเมนูหลัก หรือ การจัดชุดเมนูที่สามารถทานได้ทั้งวัน ก็ต่างเป็นสิ่งที่ลูกค้าเดลิเวอรี่ส่วนใหญ่ต้องการ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องจำเป็นต้องอยู่บ้านตลอดทั้งวันแบบนี้
  5. เมนูและปริมาณที่เหมาะสม
    • ไม่ใช่ทุกเมนูจะเหมาะกับการจำหน่ายผ่านบริการเดลิเวอรี่ เพราะบางเมนูมีข้อจำกัดเรื่องการควบคุมคุณภาพของอาหาร อาจจะขนส่งไม่สะดวกและเหมาะกับการทานที่ร้านมากกว่า เช่น ร้านชาบู - ปิ้งย่าง สามารถพลิกแพลงนำวัตถุดิบที่มีมาปรับเป็นเมนูผัดหรือต้มสำเร็จรูปพร้อมทาน หรือร้านที่มีเมนูขนาดใหญ่ ก็สามารถปรับให้เหมาะกับการทาน 1-2 คน เพื่อให้สะดวกต่อการทานและขนส่ง ง่ายต่อการตัดสินใจสั่ง และเพิ่มโอกาสการขายได้อีกด้วย 
  6. ใส่ใจ Packaging เพื่อเดลิเวอรี่ 
    • บรรจุภัณฑ์อาหารสำหรับการเดลิเวอรี่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะจะต้องคำนึงถึงการใช้บรรจุภัณฑ์ที่สะดวกต่อการขนส่ง รักษาคุณภาพทั้งรสชาติและหน้าตาของอาหารที่อาจเปลี่ยนไปจากระยะเวลาการเดินทาง เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกได้ถึงคุณภาพอาหารที่ยังคงที่เมื่อเปิดทาน โดยเฉพาะปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์แบบ Reuse สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก หรือแบบที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ก็เป็นอีกข้อที่ร้านเดลิเวอรี่หันมาใส่ใจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสิ่งแวดล้อม
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
942
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
646
“เติมพลังความรู้” กับ ..
591
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
562
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
553
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
517
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด