2.2K
30 มีนาคม 2563
“หนองโพ” รุกแฟรนไชส์ปั๊มยอด แตกโมเดล “คาเฟ่” ปูพรมพรวด 20 สาขา
 

“นมหนองโพ” เพิ่มดีกรีบุกแฟรนไชส์ร้านนม “หนองโพ คาเฟ่” ชี้ตลาดใหญ่-มีโอกาสเติบโตสูง คู่แข่งน้อย ประกาศปูพรมเบาะ ๆ อีก 20 สาขา เน้นเปิดเกาะห้าง-ศูนย์การค้า เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ ล่าสุดลอนช์โปรดักต์นมอัดเม็ดเสริมทัพนมพาสเจอไรซ์ พร้อมทยอยเพิ่มช่องทางจำหน่ายทั้งเทรดิชั่นนอลเทรด และโมเดิร์นเทรด เผยศึกษาเตรียมเจาะตลาดจีน สิ้นปีตั้งเป้ากวาดยอดขาย 2.7 พันล้าน
 
นายธงชัย ดำคำ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด สหกรณ์โคนมหนองโพ ราชบุรี ผู้ผลิตและจำหน่ายนมภายใต้แบรนด์ “หนองโพ” เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปีที่ผ่านมาภาพรวมอุตสาหกรรมนมพร้อมดื่ม ที่มีมูลค่ากว่า 5 หมื่นล้านบาท ติดลบประมาณ 4% โดยปัจจัยหลักเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมที่ชะลอตัว และส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคในภาพรวม แต่ในทางกลับกันตลาดนมพาสเจอไรซ์ชนิดถุงมีแนวโน้มเติบโตขึ้น และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันสูง และมีผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ กระโดดเข้ามาในตลาดเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับมือกับการแข่งขัน หนองโพจึงต้องเน้นจุดขายคือ ใช้วัตถุดิบนมโคแท้ 100%
 
 
สำหรับสหกรณ์โคนมหนองโพเอง ปีที่ผ่านมามีผลประกอบการ 2,600 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้หลักจากผลิตภัณฑ์นมยูเอชทีและนมพาสเจอไรซ์ 1,300 ล้านบาท
 
ส่วนที่เหลือมาจากร้านหนองโพ คาเฟ่ และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น ไอศกรีม โยเกิร์ต เป็นต้น โดยภาพรวมมีแนวโน้มเติบโตขึ้น หลัก ๆ มาจากการขยายช่องทางจำหน่ายนมพาสเจอไรซ์ไปยังทุก ๆ ช่องทางขายทั้งเทรดิชั่นนอลเทรด และโมเดิร์นเทรด เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น จากเดิมที่วางขายเฉพาะร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น โดยปีนี้ตั้งเป้าจะสร้างยอดขายกว่า 2,700 ล้านบาท
 
รุกขายแฟรนไชส์หนองโพ คาเฟ่
 

ภาพจาก http://nongpho.com

นายธงชัยกล่าวว่า จากนี้ไปนอกจากหนองโพจะมุ่งโฟกัสผลิตภัณฑ์นมพาสเจอไรซ์ชนิดถุง เพราะเป็นตลาดที่มีคู่แข่งน้อย และมีโอกาสการเติบโตดี บวกกับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ที่ชอบการบริโภคนมรสชาติใหม่ ๆ จากนี้จะต้องชูขายเรื่องรสชาติให้หลากหลาย และสดใหม่ทุกวันแล้ว นโยบายสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ การเพิ่มน้ำหนักกับธุรกิจใหม่ “หนองโพ คาเฟ่” ที่เพิ่งเริ่มเปิดเมื่อปีที่ผ่านมา เป็นร้านที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ

โดยเมนูต่าง ๆ อาทิ นมพาสเจอไรซ์, นมสด, ไอศกรีม โยเกิร์ต, สมูทตี้, มิลค์เชค และโยเกิร์ต รวมถึงเมนูฟิวชั่น ราคาเริ่มต้น 19 บาท โดยจะเป็นลักษณะของการขายแฟรนไชส์ให้กับนักลงทุนที่สนใจ เน้นเปิดในห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ที่ทราฟฟิกสูง เช่น เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ตลอดจนสถานีบริการน้ำมัน มหาวิทยาลัย หรืออื่น ๆ โดยจากนี้ไปจะเริ่มเน้นการขยายสาขาออกไปตามหัวเมืองหลักและเมืองรองในต่างจังหวัด เบื้องต้นตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 50 สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันหนองโพ คาเฟ่ มีทั้งหมดประมาณ 30 สาขา
 
พร้อมกันนี้ นายธงชัยยังกล่าวถึงเงื่อนไขการเป็นแฟรนไชส์ว่า เบื้องต้นผู้ลงทุนหรือแฟรนไชส์ จะมีค่าใช้จ่ายปีละ 120,000 บาท สัญญามีระยะ 3 ปี
 

ภาพจาก http://nongpho.com
 
โดยสหกรณ์โคนมหนองโพจะเป็นผู้ซัพพอร์ตผลิตภัณฑ์นมสำหรับใช้ในร้านได้ ตลอดจนเมนู และระบบรีพอร์ตเชื่อมโยงข้อมูลการขายต่าง ๆ นอกจากนี้ สหกรณ์ยังจะสนับสนุนในแง่ของการสร้างแบรนด์ ทำคอนเทนต์ สื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ อาทิ เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ รวมทั้งมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ ณ จุดขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น
 
“ตอนนี้แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะกระทบกับหลาย ๆ ธุรกิจ แต่เรามองว่าเป็นโอกาสของธุรกิจนมคาเฟ่ ซึ่งเป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก ที่สำคัญคือ ตลาดนี้ยังมีผู้เล่นไม่มากนัก ปัจจุบันมีเพียง 2 ราย ได้แก่ หนองโพ และมิลค์แลนด์ ขององค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จึงเชื่อว่าตลาดจะสามารถขยายตัวได้อีกมาก เรามีสาขาต้นแบบ เพื่อให้สาขาแฟรนไชส์ เข้ามาศึกษาวิธีการทำงาน ที่สหกรณ์โคนมหนองโพ จังหวัดราชบุรี อย่างไรก็ตาม ในแง่ของสถานที่สำหรับเปิดร้านผู้ลงทุนจะเป็นผู้หาและจ่ายค่าเช่าสถานที่เอง โดยสาขาที่เปิดในสถานที่ที่มีทราฟฟิกสูงหรือในแหล่งชุมชนหนาแน่นจะสามารถสร้างยอดขายได้ 2 แสนบาท/เดือน”
 
บุกออนไลน์-เล็งบุกตลาดจีน
 

ภาพจาก http://nongpho.com

นายธงชัยกล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยังได้ลอนช์ผลิตภัณฑ์ใหม่ นมอัดเม็ด ตราหนองโพ ออกวางจำหน่าย ในราคา 10-12 บาท/ซอง ปัจจุบันวางขายในท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต, 108 ช็อป, ร้านซีเจ เอ็กซ์เพรส, ลอว์สัน และจิฟฟี่ ในปั๊ม ปตท. หลังจากนี้มีแผนจะขยายเข้าไปวางขายในเซเว่นอีเลฟเว่น ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาและร่วมกันพัฒนาโปรดักต์ เพื่อให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคเป้าหมาย ปัจจุบันมียอดขายประมาณ 1 แสนซอง/เดือน ขณะเดียวกัน สหกรณ์ยังหันมาให้ความสำคัญกับช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ดีลิเวอรี่ที่เติบโตขึ้นต่อเนื่อง โดยลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่าน www.nongpho.com มีบริการส่งสินค้าผ่านระบบขนส่งของเคอรี่ และไปรษณีย์ไทย
 
พร้อมกันนี้ นายธงชัยยังกล่าวถึงตลาดต่างประเทศว่า ปัจจุบันมีการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในประเทศแถบซีแอลเอ็มวี (CLMV) อาทิ ลาว กัมพูชา เมียนมา โดยเน้นโปรดักต์ที่เป็นยูเอชทีวางขายผ่านดิสทริบิวเตอร์ในแต่ละประเทศ เพื่อกระจายสินค้าไปในเทรดิชั่นนอลเทรด และโมเดิร์นเทรด มีสัดส่วนรายได้กว่า 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปสหกรณ์วางเป้าหมายที่จะบุกตลาดเข้าไปในประเทศจีน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาตลาด เบื้องต้นมีแผนจะนำผลิตภัณฑ์นมยูเอชที นมเปรี้ยว และนมอัดเม็ด เข้าไปจำหน่าย ชูจุดแข็งเรื่องความสดใหม่ ราคามาตรฐาน เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวจีนที่นิยมสินค้าแบรนด์ไทยและเพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันสหกรณ์โคนมหนองโพมีสมาชิกประมาณ 4,000 ครัวเรือน กระจายอยู่ในจังหวัดราชบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ในจำนวนนี้มีที่เลี้ยงโคนมประมาณ 2,000 ครอบครัว ผลิตนมได้เฉลี่ยประมาณ 200 ตัน/วัน และมีโรงงานเครื่องจักรสำหรับแปรรูปเอง
 
ที่มา : https://bit.ly/2xvakL1
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,419
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,343
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,245
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
870
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
839
ออลส์ บับเบิ้ลที เปิด ..
529
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด