1.5K
13 มกราคม 2563
สสว.คาด GDP SME ปี 63 โตร้อยละ 3.0-3.5 รับอานิสงส์โครงการรัฐฯ ตั้งเป้าช่วย ผปก.กว่า 380,000 ราย
 
 
 
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยภาพรวมสถานการณ์ธุรกิจ SME ในปี 2562 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ในส่วนปี 2563 มีแนวโน้มเติบโตร้อยละ 3.0-3.5 ปัจจัยบวกมาจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โครงการลงทุนขนาดใหญ่ การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจ e-Commerce คาดสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการได้กว่า 380,000 ราย
 
ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า ภาพรวมสถานการณ์ SME ปี 2562 ที่ผ่านมาจากจำนวนตัวเลขผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรวม 3,084,290 ราย ก่อให้เกิดการจ้างงานถึง 13,950,241 ราย คิดเป็น 85.5% ของการจ้างงานรวมทั้งประเทศ ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์มูลค่าการค้าระหว่างประเทศ SME ปี 2562 โดยข้อมูลในรอบ 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม)

เมื่อเปรียบเทียบช่วงเดียวกันของปี 2561 พบว่าการส่งออกเอสเอ็มอีมีมูลค่า 1.99 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาคิดเป็น 2.1% ซึ่งสินค้าส่งออกที่สำคัญ คือ อัญมณีและเครื่องประดับ พลาสติกและของที่ทำด้วยพลาสติก เครื่องจักรคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ โดยประเทศคู่ค้าหลักของเอสเอ็มอีไทย ได้แก่ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และอียู โดย GDP SME ปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 7.14 ล้านล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 3.5-4.0
 
สำหรับการจัดตั้งและยกเลิกกิจการในปี 2562 ในรอบ 10 เดือน (มกราคม-ตุลาคม) เมื่อเทียบกับปี 2561 พบว่าเอสเอ็มอีมีการจดทะเบียนจัดตั้งกิจการใหม่ 63,359 ราย ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.43% กิจการที่จัดตั้งใหม่สูงสุดได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป บริการด้านวิทยุและโทรทัศน์ และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนการยกเลิกกิจการ มีจำนวน 14,273 ราย ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.56% กิจการที่ยกเลิกสูงสุด ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป บริการนันทนาการและอสังหาริมทรัพย์
 
ทั้งนี้ แนวโน้มปี 2563 คาดว่า GDP จะมีการขยายตัวในอัตราร้อยละ 2.7-3.2 ขณะที่การขยายตัวของ GDP SME จะอยู่ที่ร้อยละ 3.0-3.5 ปัจจัยสำคัญมาจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โครงการลงทุนสาธารณูปโภคขนาดใหญ่จากภาครัฐ ภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่มประเทศอื่นๆ ที่ทดแทนนักท่องเที่ยวจากจีน เช่น อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี และการเติบโตของกลุ่มธุรกิจ e-Commerce
 
จากการประเมินสถานการณ์ สสว.พบว่า แม้ว่าในปี 2563 ยังมีปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง คือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก สงครามการค้าหากยังมีความยืดเยื้อ การแข็งค่าของเงินบาท สัดส่วนหนี้สินภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง การขอสินเชื่อของเอสเอ็มอีจากสถาบันการเงินยังคงทำได้ยาก รวมถึงกระแสของเศรษฐกิจดิจิทัลที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงหรือแย่งส่วนแบ่งของธุรกิจในรูปแบบดั้งเดิม แต่มีสัญญาณที่เป็นแนวโน้มที่ดีไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงการที่ภาครัฐระดมสรรพกำลังเพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปรับตัวให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวผ่านแนวทางสำคัญที่จะเป็นการสร้างโอกาสให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตและอยู่รอดได้
 
นอกจากนี้ สัญญาณการปรับตัวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลเห็นได้จากการขยายตัวของธุรกิจ e-Commerce ซึ่งมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท ในปัจจุบันธุรกิจ Food delivery ซึ่งในปี 2562 มีการประมาณการมูลค่าของธุรกิจดังกล่าวรวมไม่น้อยกว่า 33,000-35,000 ล้านบาท และคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ต่อปี เช่นเดียวกับธุรกิจปล่อยห้องพักผ่านแพลตฟอร์ม Airbnb

ซึ่งจากข้อมูลพบว่าผู้ประกอบการไทยมีรายได้จากการปล่อยห้องพักผ่าน Airbnb ในปี 2562 รวมมูลค่าถึง 33,000 ล้านบาท จำนวนนี้เกือบครึ่งเป็นการปล่อยเช่าในเมืองรอบกรุงเทพฯ สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าเอสเอ็มอีไทยสามารถปรับตัวเข้าสู่กระแสเศรษฐกิจดิจิทัลค่อนข้างดี และจะมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นหากได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐเพราะเป็นหนทางให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงตลาด เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นทั้งในและต่างประเทศในระยะเวลาที่รวดเร็ว นอกจากเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายแล้วยังสามารถลดต้นทุนด้านการตลาดได้อีกด้วย
 
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เอสเอ็มอีโดยเฉพาะ Micro SMEs สามารถดำเนินธุรกิจให้อยู่รอดและเติบโตได้ แนวทางการส่งเสริมในปี 2563 นี้รัฐบาลจึงมุ่งสนับสนุนงบประมาณการส่งเสริมเอสเอ็มอี วงเงินรวมกว่า 2,686 ล้านบาท สสว.เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลัก ดำเนินงานผ่านแผนงานบูรณาการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสู่สากล มีหน่วยงานพันธมิตรเข้าร่วมขับเคลื่อนงานส่งเสริมเอสเอ็มอีรวม 23 หน่วยงานจาก 9 กระทรวง 1 รัฐวิสาหกิจ ดำเนินโครงการร่วมกันไม่น้อยกว่า 17 โครงการ มีงบประมาณรวม 1,738 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการที่การดำเนินงานโดย สสว.โดยตรงวงเงิน 948 ล้านบาท
 
ภายใต้แผนส่งเสริมเอสเอ็มอีในปี 2563 จะมุ่งเน้น 5 ด้านหลัก ได้แก่ 1. สร้างผู้ประกอบการใหม่ให้ดำเนินธุรกิจแบบ Smart MSME 2. ขับเคลื่อน MSME สู่เศรษฐกิจดิจิทัล 3. พัฒนา Micro SME ให้ได้มาตรฐานสินค้าเข้าสู่ตลาดและการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้ 4. สร้างการตระหนักรู้เรื่องการใช้ Data ให้เป็นประโยชน์ในการต่อยอดธุรกิจ 5. ส่งเสริม SME ที่ผลิตสินค้าให้ต่อยอดธุรกิจการค้าบริการ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าและยกระดับรายได้
 
ทั้งนี้ สสว.พบว่าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย 3 ล้านรายทั่วประเทศ เมื่อนำเกณฑ์รายได้มาใช้พบว่า 2.6 ล้านรายเป็นธุรกิจไมโคร กล่าวคือ มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี หรือไม่เกิน 150,000 บาทต่อเดือนและจ้างงานไม่เกิน 5 คน ดังนั้น โครงการต่างๆ เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในปี 2563 จึงให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการรายย่อย หรือไมโคร เป็นลำดับแรก
 
นอกจากนี้ สสว.มีศูนย์ OSS ที่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการให้คำปรึกษาแนะนำและส่งต่อผู้ประกอบการให้ได้รับการส่งเสริม สนับสนุน จากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ รวมถึง สสว.ยังได้สานต่อการพัฒนาฐานข้อมูลในรูปแบบเว็บไซต์กลาง ภายใต้ชื่อ “SMEONE” หรือ www.smeone.info ซึ่งรวบรวมข่าวสารข้อมูล องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ รวมทั้งเชื่อมบริการกิจกรรมและโครงการต่างๆ ในการส่งเสริม สนับสนุนเอสเอ็มอีของภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการเงินที่เกี่ยวข้องและแอปพลิเคชัน SME Connext เป็นต้น
 
ขณะเดียวกัน เพื่อสนองนโยบายภาครัฐในการส่งเสริมช่วยเหลือให้เอสเอ็มอีสามารถเข้าถึงมาตรฐานสินค้าและบริการได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้สินค้าของผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศได้มากยิ่งขึ้น สสว.มีแนวทางประสานความร่วมมือกับ บริษัท ห้องปฏิบัติการกลาง (ประเทศไทย) จำกัด

ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ สสว. และกระทรวงการคลังในการขยายบทบาทการให้บริการตรวจรับรองมาตรฐานสินค้าเพิ่มเติมจากสินค้าเกษตรและอาหารไปสู่สินค้าอื่นๆ ในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริา ญี่ปุ่น อียู เป็นต้น ภายใต้การดำเนินงานส่งเสริมเอสเอ็มอีในปี 2563 สสว. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคาดว่าจะสามารถช่วยเหลือ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการยกระดับความสามารถในการทำธุรกิจได้ไม่น้อยกว่า 380,000 รายทั่วประเทศ
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
662
“เติมพลังความรู้” กับ ..
595
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
565
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
557
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
519
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด