สสว.เผยความสำเร็จโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (SME Start up : Early Stage) และโครงการยกระดับธุรกิจเริ่มต้น (Boost Up New Entrepreneurs) สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกว่า 1,300 ล้านบาท ผ่านการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการไทยกว่า 10,000 ราย ให้สามารถต่อยอดและเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมและงานวิจัย

 

นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนะกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่เป็นโครงการที่เน้นพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อยส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักศึกษา ผู้เริ่มต้นธุรกิจ พ่อค้าแม่ค้าที่ต้องการพัฒนากิจการของตนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน

 

โครงการดังกล่าวจะคัดเลือกผู้สมัครเพื่ออบรมเชิงปฏิบัติการ ยกระดับทักษะความรู้ ผ่านที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และหน่วยงานชั้นนำของประเทศ พร้อมต่อยอดสู่โครงการยกระดับธุรกิจเริ่มต้น เน้นสนับสนุนและส่งเสริมเทคโนโลยีนวัตกรรมและงานวิจัย โดยทั้ง 2 โครงการสามารถบรรลุเป้าหมายในปี 2562 ได้เป็นอย่างดี โดยมีผู้ประกอบการวิสาหกิจรายย่อย วิสาหกิจชุมชนระดับฐานราก ในภาคการเกษตรกว่า 5,152 ราย และภาคทั่วไปอีก 5,058 ราย สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกว่า 1, 300 ล้านบาทให้สามารถต่อยอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

สำหรับความร่วมมือกับ 10 หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนทั้ง 2 โครงการ ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยขยายสู่ผู้ประกอบการกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มผู้หญิง กลุ่มดิจิทัล กลุ่มสิ่งทอ พร้อมต่อยอดผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมในโครงการยกระดับธุรกิจเริ่มต้นที่จะเชื่อมโยงงานวิจัย และเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นเครื่องมือพัฒนาโมเดลการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ พร้อมยกระดับสู่มาตรฐานสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งใน และต่างประเทศได้

 

"ถือว่าทั้ง 2 โครงการได้รับการตอบรับดีจากผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เพราะเพียงเปิดรับสมัคร 100 รายไม่นานก็ถูกจองเต็ม เนื่องจากเป็นโครงการที่ให้การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการอย่างแท้จริง โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการที่ให้ความสนใจจะอยู่ในกลุ่มของเกษตรแปรรูป ธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ และอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งคาดว่าภายในปีหน้าจะได้รับการตอบรับดีเช่นเดิม" ผอ.สสว.กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม สสว.เตรียมเดินหน้าโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยวางกลยุทธ์การพัฒนาทั้งระบบที่มีผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจ เช่น การสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการ การปรับปรุงสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมด้านกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจในอนาคตต่อไป

 

อ้างอิงจาก : MGROnline.com