1.2K
26 สิงหาคม 2562
แฟรนไชส์2แสนล้านสะเทือน! ออกกฎคุมขาใหญ่เอาเปรียบ
 

 
ธุรกิจแฟรนไชส์ 2.2 แสนล้านสะเทือน บอร์ดแข่งขันทางการค้าเตรียมออกกฎเหล็กคุมเข้ม สกัดขาใหญ่มัดมือชกรายย่อย กำหนดเงื่อนไขให้เปิดเผยข้อมูล-แจงค่าใช้จ่ายยิบ โฟกัส 6 พฤติกรรมเสี่ยงบีบซื้อสินค้า-บริการไม่เป็นธรรม ฝ่าฝืนโทษปรับไม่เกิน10% ของรายได้ ชี้ “ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม-การศึกษา” ฮิตแฟรนไชซอร์ทะลัก 572 ราย 
 
นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ กรรมการการแข่งขันทางการค้า ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวปฏิบัติการค้าที่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณากฎหมายลำดับรองด้านการกำกับดูแลการแข่งขันทางการค้าที่ออกตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า วันที่ 23 สิงหาคมนี้ จะมีการประชุมเพื่อรับฟังความเห็นจากตัวแทนของกลุ่มบุคคลที่มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อประกอบการพิจารณายกร่างประกาศคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า เรื่องแนวทางพิจารณาการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมในธุรกิจแฟรนไชส์ พ.ศ. …. ตามบทบัญญัติมาตรา 57 การปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม แห่ง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า
 
 
 
ขณะเดียวกัน นอกจากการจัดประชาพิจารณ์ในวันดังกล่าวแล้ว สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าได้เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถแสดงความเห็นต่อร่างประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของสำนักงานแข่งขันทางการค้า ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม-20 กันยายน 2562 จากนั้นจะนำความคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้มาพิจารณาปรับปรุงร่างประกาศดังกล่าวก่อนประกาศบังคับใช้ต่อไป
 
คุมเข้มธุรกิจแฟรนไชส์ 2 แสน ล.
 
ร่างไกด์ไลน์นี้กำหนดขึ้นเพื่อให้การประกอบธุรกิจแฟรนไชส์มีการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม โดยเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชซอร์ต้องไม่กระทำการใด ๆ อันเป็นผลให้เกิดความเสียหายกับคนที่ซื้อแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชซี

ซึ่งปัจจุบันตามข้อมูลของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า ธุรกิจแฟรนไชส์มีมูลค่าตลาดปีละ 2.2-2.3 แสนล้านบาท มีการเติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2549-2560 ปีละ 10% โดยปี 2560 มีเจ้าของแฟรนไชซอร์ 572 ราย เพิ่มขึ้น 8.3% โดยเฉพาะแฟรนไชส์ธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจการศึกษามีจำนวนมาก หากมีพฤติกรรมที่แข่งขันไม่เป็นธรรม จะมีความผิดตามมาตรา 57 พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า
 
งัดกฎเหล็กต้องเปิดข้อมูล
 
นายสันติชัยกล่าวว่า สาระสำคัญของร่างประกาศจะกำกับดูแลแฟรนไชส์ (franchise) โดยกำหนดให้การประกอบธุรกิจในลักษณะที่เป็น “แฟรนไชซอร์” (franchisor) หรือเจ้าของแฟรนไชส์ ที่ทำสัญญาให้ “แฟรนไชซี” (franchisee) ประกอบธุรกิจ โดยใช้รูปแบบ ระบบ ขั้นตอน และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของตน หรือที่ตนมีสิทธิที่จะให้ผู้อื่นใช้

เพื่อประกอบธุรกิจภายในระยะเวลา หรือเขตพื้นที่ที่กำหนด ต้องดำเนินการตามประกาศฉบับนี้ และการประกอบธุรกิจต้องอยู่ภายใต้การส่งเสริมและควบคุมของกฎหมาย ตามแผนการดำเนินธุรกิจของแฟรนไชซอร์

ขณะที่แฟรนไชซีมีหน้าที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้แก่แฟรนไชซอร์ เพื่อให้เกิดการทำธุรกิจที่เป็นธรรม โดยกำหนดเงื่อนไขให้แฟรนไชซอร์ต้องเปิดเผยรายละเอียดข้อมูลการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ของตนให้แฟรนไชซีทราบ 4 เรื่องหลัก ๆ ให้เกิดความเป็นธรรม ป้องกันการเอารัดเอาเปรียบผู้ประกอบการรายย่อย
 
ให้แจงยิบสารพัดค่าใช้จ่าย
 
ประกอบด้วย 1) ข้อมูลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายก่อนดำเนินการ และค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินการ เช่น ค่าธรรมเนียมแฟรนไชส์ (franchise fee) ค่าสิทธิ (royalty fee) ค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม และค่าใช้จ่ายในการซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจ วิธีการคำนวณค่าใช้จ่าย รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการจ่ายเงิน และเงื่อนไขในการคืนเงิน เป็นต้น
 
2) ต้องเปิดเผยรายละเอียดแผนการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น การให้ความช่วยเหลือในการบริหารจัดการ การฝึกอบรม การให้คำแนะนำ จำนวนและสถานที่ตั้งของแฟรนไชซีในพื้นที่ใกล้เคียงในปัจจุบันและอนาคต และรายละเอียดการส่งเสริมการขาย เป็นต้น

3) ต้องเปิดเผยข้อมูลสาระเกี่ยวกับสิทธิในเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร และลิขสิทธิ์ที่เกี่ยวข้อง ช่วงเวลาที่มีผลบังคับใช้ ขอบเขตการอนุญาต รวมทั้งเงื่อนไขข้อจำกัด 4) ต้องเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการต่อสัญญาแฟรนไชส์ การแก้ไข การยกเลิก การเพิกถอนสัญญาแฟรนไชส์

 
ขยายสาขาต้องให้รายเดิมก่อน
 
นอกจากนี้ ร่างประกาศดังกล่าวได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีที่แฟรนไชซอร์ต้องการเปิดร้าน หรือสาขาเพิ่มเติมในพื้นที่ที่มีร้านแฟรนไชซีรายเดิมอยู่แล้ว โดยกำหนดเงื่อนไขให้เจ้าของแฟรนไชส์ต้องแจ้งให้แฟรนไชซีเดิมในพื้นที่ทราบก่อนล่วงหน้า และให้สิทธิ์ในการเปิดร้าน หรือสาขาเพิ่มเติมแก่แฟรนไชซีรายเดิมในพื้นที่ก่อนเป็นอันดับแรก

โดยให้มีหนังสือแจ้งแฟรนไชซีเป็นลายลักษณ์อักษร และกำหนดให้แฟรนไชซีแจ้งความประสงค์ในการเปิดร้าน หรือสาขาเพิ่มเติม เป็นลายลักษณ์อักษรแก่เฟรนไชซอร์ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยให้คำนึงถึงศักยภาพของแฟรนไชซีรายเดิมในการประกอบการเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณา
 
สกัดขาใหญ่มัดมือชกแฟรนไชซี
 
ขณะเดียวกันได้กำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขในการปฏิบัติทางการค้าของแฟรนไชซอร์ ที่อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายแก่แฟรนไชซี ตามมาตรา 57 ด้วย โดยมีแนวทางในการพิจารณา 7 ด้าน ได้แก่
  1. การกำหนดเงื่อนไขที่เป็นการจำกัดสิทธิของแฟรนไชซี โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร เช่น การกำหนดให้แฟรนไชซีต้องซื้อสินค้าหรือบริการอื่นที่ไม่มีความเกี่ยวข้อง กับสินค้าหรือบริการแฟรนไชส์ หรือสินค้าหรือบริการประกอบแฟรนไชส์ จากแฟรนไชซอร์ หรือจากซัพพลายเออร์ที่แฟรนไชซอร์กำหนดเท่านั้น
  2. การกำหนดโควตาให้แฟรนไชซีต้องซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบในปริมาณที่สูงกว่าความต้องการใช้จริง และห้ามคืนสินค้าหรือวัตถุดิบส่วนเกิน
  3. การกำหนดเงื่อนไขเพิ่มเติมให้แฟรนไชซีต้องปฏิบัติภายหลังการลงนามในสัญญาร่วมกันแล้ว เช่น กำหนดให้แฟรนไชซีซื้อสินค้าหรือบริการอื่น หรือกระทำการอย่างอื่นนอกเหนือจากที่ได้กำหนดไว้ในสัญญาแฟรนไชส์
  4. การห้ามแฟรนไชซีซื้อสินค้าหรือบริการกับซัพพลายเออร์ (supplier) รายอื่นที่ขายสินค้า หรือบริการที่มีคุณภาพเท่าเทียมกัน และราคาถูกกว่า โดยให้ซื้อจากแฟรนไชซอร์ หรือจากซัพพลายเออร์ที่แฟรนไชซอร์กำหนดเท่านั้น หากพบว่าการกำหนดเงื่อนไขเป็นไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
  5. การห้ามแฟรนไชซีขายลดราคาสำหรับสินค้าที่เน่าเสียง่าย (perishable goods) หรือใกล้หมดอายุ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร
  6. การกำหนดเงื่อนไขที่แตกต่างกันระหว่างแฟรนไชซีโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร และนำไปสู่การเลือกปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม (discrimination) และ
  7. การกำหนดเงื่อนไขที่ไม่เหมาะสมอื่นใดที่มีวัตถุประสงค์นอกเหนือจากการรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียง คุณภาพ และมาตรฐานของแฟรนไชซอร์ตามสัญญา
ฝ่าฝืนปรับ 10% ของรายได้
 
สำหรับบทกำหนดโทษของผู้ที่กระทำการฝ่าฝืน บทบัญญัติตามมาตรา 57 ซึ่งถือเป็นการลงโทษทางการปกครอง ตาม พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า กฎหมายกำหนดให้ลงโทษปรับในอัตราไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่ได้กระทำความผิด แต่หากเป็นกรณีที่ผู้ฝ่าฝืนกระทำความผิดในปีแรกของการประกอบธุรกิจ กฎหมายกำหนดให้ชำระค่าปรับทางการปกครองในอัตราไม่เกิน 1,000,000 บาท
 
อาหาร-เครื่องดื่ม-การศึกษา ฮิต
 
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์มีมูลค่าตลาดปีละ 2.2-2.3 แสนล้านบาท เติบโตเฉลี่ยตั้งแต่ปี 2549-2560 ปีละ 10% โดยปี 2560 มีเจ้าของแฟรนไชซอร์ 572 ราย เพิ่มขึ้น 8.3% ประเภทแฟรนไชส์ยอดนิยมจะเป็นกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม และธุรกิจการศึกษา ซึ่งมีอยู่จำนวนมาก สำหรับการลงทุนสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ผู้ค้าขายรายใหม่ ๆ ที่ต้องการประกอบธุรกิจภายใต้แฟรนไชส์ วงเงินลงทุนเริ่มต้นมีตั้งแต่ไม่ถึง 10,000 บาท จนถึงหลักกว่า 1,000,000 บาท
 
อย่างไรก็ตาม จากที่ธุรกิจนี้ขยายตัวต่อเนื่องทุกปี และเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการ ผู้ค้ารายย่อยจำนวนมาก ทำให้ที่ผ่านมามีปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมในลักษณะเอารัดเอาเปรียบ หรือการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นจำนวนมากตามไปด้วย สาเหตุหลักมาจากยังไม่มีกฎหมายกำกับดูแลธุรกิจแฟรนไชส์โดยตรง
 
 
อ้างอิงจาก  https://www.prachachat.net
 
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
1,181
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
793
“เติมพลังความรู้” กับ ..
628
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
604
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
602
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
542
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด