1.1K
4 เมษายน 2562
สวทช. จับมือภาคี 12 หน่วยงาน ขับเคลื่อนอุตฯไม้ศก.ครบวงจร
 
 
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ 12ภาคี ภาครัฐ เอกชน และสมาคมที่เกี่ยวข้องกับไม้เศรษฐกิจ รวม เปิดตัว “กลุ่มพัฒนาอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจร” เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจร ให้เป็นเครื่องมือตัวใหม่ในการพัฒนาประเทศที่จะสร้างรายได้ปีละ 2-4 ล้านล้านบาท 
 
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ทำให้โลกหันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ และนำไม้จากแหล่งที่จัดการอย่างยั่งยืนมาใช้ประโยชน์ ความต้องการไม้ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มเช่นนี้ไปอีกนาน การเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น ชีวมวลยิ่งเร่งอัตราความต้องการใช้ไม้ของโลกให้เร็วและมากขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยปลูกต้นไม้ได้โตกว่าเขตอบอุ่น 5-7 เท่า 
 
โดยภาคเกษตรของไทยกำลังประสบปัญหาหลายด้าน การปรับเปลี่ยนไปปลูกไม้เศรษฐกิจเป็นทางเลือกที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ ซึ่งเทคโนโลยีการใช้ประโยชน์ไม้ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็วจนคาดไม่ถึง ไม้สามารถสร้างเป็นอาคารสูงหลายสิบชั้น ผลิตเป็นเสื้อผ้า พลาสติก น้ำมัน ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สารเคมีต่างๆ แม้กระทั่งใช้ในทางการแพทย์และการเสริมความงาม ทำให้ในช่วงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจรมีศักยภาพที่จะสร้างรายได้ให้ประเทศประมาณปีละ 2-4 ล้านล้านบาท 
 
สำหรับ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีต้องใช้เวลาในการดำเนินงานตามขั้นตอน กว่าจะถึงระดับลงมือปฏิบัติงานจริงใช้เวลา 1-2 ปี หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างคุณค่าให้กับไม้เศรษฐกิจรวม 12 แห่ง จึงได้ร่วมมือทำความตกลงว่าจะช่วยกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจครบวงจรให้บรรลุเป้าหมายปีละ 2-4 ล้านล้านบาท ให้ไปในทิศทางที่เห็นชอบร่วมกัน จากนั้นแต่ละหน่วยงานจะนำไปดำเนินการในกรอบของตนเองต่อไป
 
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ประกอบไปด้วย จำนวน 12 หน่วยงาน ได้แก่ 1) คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 2) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก 3) มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ 4) องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ 5) กรมป่าไม้ 6) วิสาหกิจชุมชน ชมรมไม้กฤษณา (ไม้หอม) แห่งประเทศไทย 7) สมาคมศิษย์เก่าวนศาสตร์ 8) สมาคมธุรกิจไม้โตเร็ว 9) สมาคมธุรกิจไม้ 10) สมาคมการค้าชีวมวลไทย 11) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และ 12) สวทช. ทุกหน่วยงานจะได้ใช้ศาสตร์ที่ตัวเองมีมาทำงานร่วมกัน
 
ทั้งนี้ รวมถึงสร้างมาตรฐาน การทดสอบ และการสอบย้อนกลับว่าไม้เหล่านั้นมาจากป่าปลูกหรือไม่ เพื่อร่วมกันดูแลให้อุตสาหกรรมไม้เศรษฐกิจเป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน และอยู่คู่กับเศรษฐกิจไทย โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมภายในประเทศ โดยมีความร่วมมือ 5 ปี และมอบหมายให้ สวทช. เป็นฝ่ายเลขานุการกลุ่ม
 
ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ หนึ่งในภาคีร่วมลงนามขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม้ครบวงจร กล่าวว่า จากนโยบายรัฐบาลในเรื่องการส่งเสริมการผลิตไม้เศรษฐกิจในปัจจุบัน และการแก้ไขกฎหมายที่อำนวยความสะดวกในเรื่องที่ให้ประชาชนปลูกไม้มีค่า ทั้งในที่ดินที่เป็นที่ดินกรรมสิทธิ์และที่ดินที่รัฐอนุญาตใช้ประโยชน์ เพราะฉะนั้นเราจะมีพื้นที่อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 60 ล้านไร่ที่จะเป็นเป้าหมายในการปลูกไม้เศรษฐกิจ
 
ดังนั้น จึงควรเร่งสร้างให้เกิดห่วงโซ่อุปทานของไม้เศรษฐกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ได้กล้าไม้พันธุ์ดี เมื่อไม้โตแล้วเป็นไม้ที่มีคุณภาพ รวมถึงความรู้ในเรื่องกระบวนการตัดไม้หลังจากที่ไม้โตแล้ว การต่อยอดพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ไม้เพื่อเพิ่มมูลค่า ตลอดจนการส่งเสริมให้เกิดการค้าไม้ไปยังต่างประเทศ ทั้งในส่วนไม้ท่อน ไม้แปรรูป และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้ 
 
อ้างอิงจาก : MGROnline.com
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
6,076
PLAY Q by CST bright u..
1,307
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
945
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
941
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
790
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
769
ข่าว SMEsมาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด