สถาบันอาหาร กระทรวงอุตฯ เร่งเครื่องโครงการ “เชื่อมั่นอาหารไทย” หนุนธุรกิจแฟรนไชส์ให้เข้มแข็ง ชูจุดขายคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย

 

สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม ยังคงเดินหน้าโครงการ “เชื่อมั่นอาหารไทย” สร้างการรับรู้และยกระดับภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัท ที เอส เอ็น เวิลด์ซัพพลาย จำกัด เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์รูปแบบ คีออส ภายใต้แบรนด์ “ขาหมูเจ้าสัว” และ “อูเอโนะ ราเมน” ช่วยสนับสนุนข้อมูล งานวิจัย งานด้านเทคนิค งานพัฒนาบุคลากรและวิศวกรรมอาหาร พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยกระดับคุณภาพความปลอดภัย และรักษามาตรฐานการผลิตให้สามารถพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างเข้มแข็ง หวังส่งเสริมอาชีพให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้อีกทางหนึ่ง คาดปี 2554 ขยายแฟรนไชส์ได้ 5,000 สาขาทั่วกรุงเทพฯ

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เผยว่า สถาบันอาหารเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานโครงการ “เชื่อมั่นอาหารไทย” (Thailand Food Forward) เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมอาหารของประเทศไทย โดยมุ่งสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของลูกค้าในผลิตภัณฑ์อาหารที่ผลิตในประเทศ ควบคู่กับการใช้ยุทธวิธีทางการตลาด เพื่อผลักดันการส่งออกและให้ประเทศไทยเป็นครัวของโลกอย่างแท้จริง ดังนั้นจึงได้ทำบันทึกความร่วมมือร่วมกับบริษัท ที เอส เอ็น เวิลด์ซัพพลาย จำกัด ผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหาร ซึ่งมีความประสงค์ในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการฯ เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านอาหาร โดยสถาบันอาหารจะให้การสนับสนุนในด้านข้อมูล งานวิจัย และแนวนโยบายเพื่อพัฒนา ขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกระดับคุณภาพความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ และแก้ไขปัญหาด้านมาตรฐานอาหาร ขณะเดียวกันยังจะให้ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมอาหารโดยรวม

“การลงนามบันทึกความร่วมมือกับบริษัท ที เอส เอ็น เวิลด์ซัพพลาย ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้โครงการ “เชื่อมั่นอาหารไทย” ซึ่งเป็นโครงการที่เร่งสร้างการรับรู้และยกระดับภาพลักษณ์ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารของไทย เพื่อทำให้ผู้นำเข้าและผู้บริโภคในตลาดโลกเกิดความเชื่อมั่นอาหารไทยในด้านคุณภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย ซึ่งจะเป็นการสร้างจุดขายที่ชัดเจนให้แก่ผลิตภัณฑ์อาหารไทยในตลาดโลก ตลอดจนสร้างโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ผลิตไทยได้พบกับคู่ค้ามากขึ้น เกิดความเข้าใจความต้องการของลูกค้า และค้นพบช่องทางการตลาดใหม่ๆ” นายยุทธศักดิ์ กล่าว

ด้านนายธีรยุทธ ทุมมานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที เอส เอ็น เวิลด์ซัพพลาย จำกัด กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับแฟรนไชส์ รูปแบบ คีออส ภายใต้แบรนด์ “ขาหมูเจ้าสัว” และ “อูเอโนะ ราเมน” ซึ่งภายในปี 2552 นี้ จะสร้างแบรนด์ของตัวเองก่อนโดยกำหนดเปิดสาขาเองไว้จำนวน 30-50 สาขา เพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักทั่วกรุงเทพฯ และจะขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ให้ได้ 5,000 สาขาในเขตกรุงเทพฯ ภายในปี 2554

โดยบริษัทจะจัดโซนนิ่งตัวแทนขายไว้จำนวน 22 กลุ่ม จาก 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ เพื่อกระจายสินค้าให้กับลูกค้าได้อย่างทั่วถึง นอกจากนี้จะขยายตลาดออกไปยังต่างประเทศ โดยเน้น 5 กลุ่มประเทศเป้าหมาย คือ ยุโรป, อเมริกา, ไต้หวัน, สิงคโปร์, และจีน ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารไทย

“แฟรนไชส์ ขาหมูเจ้าสัว และอูเอโนะ ราเมน เป็นธุรกิจที่สามารถช่วยคนตกงานให้มีงานทำ มีอาชีพ และ มีกิจการเป็นของตนเอง การลงทุนไม่สูง ทำง่ายและสะดวก ขาหมูที่ขายเป็นสูตรพิเศษชาววัง บรรจุในถุงสุญญากาศอย่างดีพร้อมน้ำจิ้ม ไม่ใส่สารกันบูดและผงชูรส สามารถเก็บได้นาน 365 วัน โดยไม่ต้องแช่เย็น ผู้ที่สนใจสามารถซื้อแฟรนไชส์พร้อมรถเข็นและอุปกรณ์การขายได้ในราคาเพียง 35,000 บาท เป็นการซื้อ แฟรนไชส์เพียงครั้งเดียว ไม่เก็บค่าโฆษณาและค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกเช่นเดียวกับ อูเอโนะ ราเมน” นายธีรยุทธ กล่าว

สำหรับบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานด้านอาหาร และปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตเพื่อให้สามารถแข่งขันได้โดยเฉพาะการผลิตให้ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับวิกฤตเศรษฐกิจและเป็นการบูรณาการความรู้ และความชำนาญของผู้เชี่ยวชาญ โดยบริษัทฯ จะนำความรู้ที่ได้จากสถาบันอาหาร ไปปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกต่อไป