5.4K
14 สิงหาคม 2552
“เคอาร์ซี”เสริมพอร์ตเรดแมงโก้ดัน“กาแฟ-เบอร์เกอร์”โสมบุกไทย 

 
 
 
       เคอาร์ซี ลุยต่อ หลังปั้น ไอศกรีมเรดแมงโก้ติดลมบนแล้ว ลั่นสิ้นปีนี้นำเข้าอีก 2 แบรนด์ใหม่ ทั้งแฟรนไชส์ “TOM N TON” กาแฟสไตล์เกาหลี และ“KRAZE” เบอร์เกอร์สัญชาติเกาหลีสู้ศึกในไทย
       
       นางสาวฐิตินันท์ เกียรติไพบูลย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคอาร์ซี (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้บริหารร้านไอศกรีมเรดแมงโก้ แฟรนไชส์จากประเทศเกาหลี เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจร้านไอศกรีมเรดแมงโก้ในไทยมาได้ระยะหนึ่งและประสบความสำเร็จอย่างดีแล้วนั้น บริษัทฯเตรียมที่จะขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกในไลน์อื่น
      
       ทั้งนี้วางแผนว่าภายในสิ้นปีนี้หรือย่างช้าต้นปีหน้า จะเปิดตัวอีก 2 ธุรกิจแฟรนไชส์ใหม่ จากประเทศเกาหลี ซึ่งเป็นเจ้าของและบริษัทเดียวกันกับแฟรนไชส์ไอศกรีมเรดแมงโก้ ที่บริษัทฯ ร่วมทุนกับทางเกาหลีเปิดธุรกิจในไทย



 
       
       โดย 2 ธุรกิจใหม่นั้นคือ แฟรนไชส์ร้านกาแฟชื่อว่า “TOM N TON” และแฟรนไชส์ร้านเบอร์เกอร์เกาหลีชื่อว่า “KRAZE” สไตล์เกาหลี ทั้งสองธุรกิจ ซึ่งจะนำเข้ามาทำในนามของบริษัท เคอาร์ซี เนื่องจากที่ผ่านมาทางผู้ร่วมทุนที่เป็นเจ้าของแบรนด์มั่นใจในศักยภาพการบริหารงานของบริษัทฯจึงพร้อมที่จะเปิดธุรกิจใหม่นี้เข้ามาในเมืองไทย ทั้งๆที่ ทั้งสองแบรนด์ดังกล่าวนี้ยังไม่เคยออกนอกประเทศเกาหลีแต่อย่างใด ครั้งนี้จะเป็นครั้งแรก
      
       นางสาวฐิตินันท์ กล่าวว่า สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ร้านกาแฟเกาหลี “TOM N TON” นั้นเป็นธุรกิจและแบรนด์ที่ได้รับความสำเร็จอย่างดีในเกาหลี มีสาขาประมาณ 100 กว่าแห่ง และถือเป็นแบรนด์ผู้นำในระดับต้นๆของธุรกิจนี้ในเกาหลี
      
       ทั้งนี้คาดว่าการลงทุนเปิดสาขาร้านกาแฟ “TOM N TON” จะใช้งบประมาณ 2-3 ล้านบาทต่อสาขา ที่เป็นแบบเต็มรูปแบบ โดยจะพิจารณาทำเลที่มีศักยภาพ อย่างไรก็ตามหากทำเลนั้นมีผู้ประกอบการเปิดอยู่แล้วก็อาจจะพิจารณาเปิดได้หากตลาดยังมีความต้องการและเปิดกว้างอยู่ เพราะมั่นใจในรสชาติกาแฟและรูปแบบของร้านที่จะดึงดูดคนได้ คาดว่าราคาเริ่มต้นที่ 85 บาทต่อแก้ว


       
       ส่วนธุรกิจร้านเบอร์เกอร์ “KRAZE” นั้นคาดว่าจะต้องใช้งบลงทุนเปิดสาขาประมาณ 4-5 ล้านบาทต่อสาขา รวมทั้งอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ด้วย สำหรับร้านเบอร์เกอร์ “KRAZE” จับกลุ่มเป้าหมายระดับบน เพราะเป็นเบอร์เกอร์แบบพรีเมียมมีราคาค่อนข้างสูง ในเกาหลีขายเฉลี่ย 100 บาทขึ้นไป เนื่องจากใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ เป็นเบอร์เกอร์ออร์แกนิค
      
       ส่วนรูปแบบร้านทั้งสองแบรนด์นั้นคงต้องทำการศึกษาและพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร ทั้งในเรื่องของขนาดพื้นที่ และจำนวนที่นั่งรวมทั้งเมนูด้วย
      
       “ยอมรับว่า ทั้ง 2 ตลาดคือ ร้านกาแฟและร้านเบอร์เกอร์ ในเมืองไทยแข่งขันกันค่อนข้างรุนแรง โดยเฉพาะร้านกาแฟนั้น มีผู้ประกอบการจำนวนมากทั้งไทยและต่างชาติ มีทั้งรายเล็กและรายใหญ่ แต่มั่นใจว่า ตลาดยังเปิดกว้าง หากผู้ประกอบการรายใหม่มีจุดเด่นที่แตกต่าง ซึ่งเรามั่นใจว่าทั้งเบอร์เกอร์กับกาแฟ เรามีจุดเด่นแน่นอน แต่รอให้เปิดตัวก่อน อีกทั้งเราสามารถสร้างศักยภาพทั้งสามแบรนด์ร่วมกันได้เช่น โปรโมชันร่วมกัน เป็นต้น” นางสาวฐิตินันท์


       
       สำหรับแนวทางการลงทุนนั้น ในช่วงแรกบริษัทฯจะเป็นผู้ลงทุนเองก่อนทั้งหมด เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และเพื่อต้องการที่จะควบคุมคุณภาพให้ดีก่อน ส่วนในอนาคตหากมีผู้สนใจก็พร้อมที่จะขายแฟรนไชส์ เพื่อให้การขยายสาขาเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
       
       ส่วนธุรกิจไอศกรีมเรดแมงโก้นั้น แผนดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 5 แห่ง เป็นของแฟรนไชส์ทั้งหมด เช่นที่ ดิจิตอลเกตุเวย์ เซ็นทรัลเวิลด์(เดิมมี 1 สาขาแล้ว) ทองหล่อ เงื่อนไขแฟรนไชส์เดิม คือ ลงทุน 2-3 ล้านบาท ขนาดพื้นที่ประมาณ 35 ตารางเมตร และลงทุน 4 สาขา ขนาดใหญ่พื้นที่ 75 ตารางเมตร  ปัจจุบัน เรดแมงโก้มีสาขา 30 แห่ง โดยตั้งแต่ต้นปีเปิดไปแล้ว 6 สาขา  สัดส่วนร้านเป็นของบริษัทฯ 30%  และแฟรนไชส์ 70% คาดว่าสิ้นปีนี้จะมีสาขารวมอยู่ที่ 35 สาขา
 
 
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
alls BUBBLE TEA แฟรนไช..
1,112
ยู้ฮู หวานเย็นเปิดสาขา..
1,002
รสเด็ดก๋วยเตี๋ยวกระทุ่..
900
สัมมนาลงทุน แฟรนไชส์คุ..
748
ยินดีต้อนรับ “ครอบครัว..
668
DOCTOR COSMETICS ACADE..
598
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด