6.5K
19 กรกฎาคม 2552

'โอ บอง แปง' คลอดกาแฟไฟท์ติ้งแบรนด์ 


"โอ บอง แปง" เบนเข็มหันจับลูกค้าไทย ออกเมนูอาหาร-เครื่องดื่มราคาถูก หลังพิษเศรษฐกิจ- ไข้หวัด 2009 ทำยอดลูกค้าต่างชาติหาย พร้อมปรับระบบแมเนจเมนต์โรงงานสาขาหวังลดต้นทุน เผยเล็งตลาดส่งออก ควบลงทุนเพิ่มหากวิกฤติเศรษฐกิจคลี่คลาย


นางวิภา บุญปาลิต ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอบีพี คาเฟ่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านโอ บอง แปง เปิดเผยว่า จากวิกฤติเศรษฐกิจและไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เกิดขึ้นทำให้ยอดลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบให้ยอดซื้อของลูกค้าลดลง ซึ่งมีสัดส่วนลูกค้าคนไทยและชาวต่างชาติ 50:50 อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทปรับนโยบายโดยหันมามุ่งเน้นลูกค้าคนไทยมากขึ้น โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มฐานลูกค้าคนไทยให้มีสัดส่วน 60% ส่วนอีก 40% เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ


ดังนั้นบริษัทจึงปรับกลยุทธ์การทำตลาด โดยพัฒนาเมนูอาหารและเครื่องดื่มสำหรับลูกค้าคนไทย ในระดับราคาที่ต่ำกว่าเมนปกติ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าคนทำงานโดยเฉพาะ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 60% ของลูกค้าคนไทยทั้งหมด โดยเริ่มจากเมนูแซนด์วิชเทอริยากิ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และล่าสุดได้พัฒนากาแฟเย็น รสชาติใหม่สำหรับคนไทยออกวางจำหน่ายในราคา 45 บาท จากเมนูปกติที่กาแฟเย็นจะมีราคาตั้งแต่ 55-80 บาท ซึ่งผลตอบรับตลอด 1 เดือนที่ผ่านมาพบว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้ความสนใจซื้อมากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้บริษัทตัดสินใจที่จะจำหน่ายต่อไป และอาจจะจัดเป็นเมนูประจำในอนาคต
 


"ที่ผ่านมาลูกค้าคนไทยเป็นลูกค้าที่มีกำลังซื้ออย่างต่อเนื่อง มีพฤติกรรมการซื้ออาหารและเครื่องดื่มเฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน โดยมียอดซื้อประมาณ 100 - 150 บาทต่อครั้ง ใกล้เคียงกับลูกค้าต่างชาติ แม้การนำเสนอเมนูใหม่ในราคาพิเศษสำหรับคนไทยออกมา จะทำให้ยอดซื้อต่อครั้งลดลงเล็กน้อย แต่ก็ช่วยเพิ่มความถี่ในการเข้ามาซื้อสินค้าได้มากขึ้น ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมียอดซื้อเฉลี่ย 4 ครั้งต่อเดือน หรือเพิ่มขึ้นเท่าตัวทีเดียว" นางวิภากล่าวและว่า


อีกกลยุทธ์ที่นำมาใช้คือการให้บริการดีลิเวอรี เจาะตามอาคารสำนักงาน ซึ่งต่อไปบริษัทจะรุกหนักในการให้บริการดีลิเวอรี โดยจะจัดแบ่งโซน และเน้นการให้บริการอย่างทั่วถึงในเขตที่ตั้งของแต่ละสาขา พร้อมสร้างจำนวนสมาชิกให้เพิ่มขึ้น ตั้งทีมขายที่แข็งแรง พร้อมให้ค่าตอบแทนแก่พนักงานที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้พนักงานช่วยผลักดันสินค้าและเพิ่มยอดขายให้มากขึ้น
 


สำหรับเพื่อเป็นการลดต้นทุนให้ต่ำลง บริษัทได้ปรับระบบการบริหารจัดการใหม่หมด ทั้งภายในองค์กรและโรงงาน ซึ่งโอ บอง แปง เป็นร้านเบเกอรี่แห่งเดียวที่มีโรงงานผลิตเป็นของตนเองทำให้สามารถผลิตและพัฒนาสินค้าได้อย่างต่อเนื่องและมีคุณภาพ ถือเป็นจุดแข็งที่คู่แข่งไม่มี ทั้งนี้ในเดือนก.ค.นี้ บริษัทได้ลงทุนหลายสิบล้านบาทในการตั้งโรงงานแห่งใหม่ขึ้นในย่านบางปู ใกล้กับโรงงานเดิม เพื่อเป็นฐานในการผลิตและส่งสินค้าให้กับร้านสาขาทั้ง 35 แห่ง จากเดิมที่จะใช้การผลิตจากร้านสาขาแม่ ซึ่งมีพื้นที่ใหญ่และส่งให้กับร้านสาขาอื่นๆ ที่มีพื้นที่เล็ก แต่จากปัจจุบันที่ติดปัญหาเรื่องของค่าเช่าพื้นที่สูง ทำให้หันไปใช้การผลิตจากโรงงานแทน นอกจากนี้ในอนาคตโรงงานแห่งนี้จะเป็นฐานในการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศอินเดีย และมาเลเซีย ซึ่งกำลังจะมีแฟรนไชส์ร้านโอ บอง แปง ไปเปิดให้บริการในปีหน้าด้วย
 


นางวิภา กล่าวต่อว่า แผนการลงทุนในครึ่งปีหลัง บริษัทจะขยายสาขาเพิ่ม 2-3 สาขาโดยเน้นในสาขาที่มีอาคารสำนักงานมาก อาทิ สีลม รวมทั้งจะพัฒนาเมนูอาหารเครื่องดื่มสำหรับคนไทยเพิ่มขึ้น ส่วนผลประกอบการของบริษัทตั้งเป้าที่จะเติบโต 3-5% ซึ่งเป็นเป้าหมายใหม่ที่ปรับลดลงจากเดิมที่ตั้งเป้าจะโตเกือบ 10% 
 

อ้างอิงจากฐานเศรษฐกิจ

ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่ มาแล้ว! ทูลเก..
5,453
PLAY Q by CST bright u..
1,062
มาแล้ว! #งานแฟรนไชส์ ม..
940
อร่อย! เลิศ! รสเด็ด ก๋..
931
สุดปัง! แฟรนไชส์หม่าล่..
781
ลงทุนกับ “ซุปซุป” ร้าน..
755
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด