1.6K
2 มีนาคม 2560
“มหากิจศิริ” ซื้อพิซซ่าฮัท ยัมฯ หยุดลงทุนขายตามรอยเคเอฟซี

 
“มหากิจศิริ” ลดเสี่ยงธุรกิจเดินเรือที่ยังขาดทุน สยายปีกธุรกิจอาหารสร้างรายได้และการเติบโตอีกทางหนึ่ง ล่าสุดคว้าไลเซนส์พิซซ่าฮัทในไทย เป้าหมายเปิดใหม่อีก 100 สาขาใน 4 ปี ด้านยัมฯ ขายไลเซนส์พิซซ่าฮัท อ้างให้คู่ค้าลุยจะเร็วกว่า
       
นางสาวอุษณา มหากิจศิริ กรรมการ บริษัท พี เอช แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าวตั้งขึ้นมาจากการร่วมทุนระหว่าง บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือทีทีเอ ถือหุ้น 70% กับบริษัท พีเอ็ม แคปปิตอล จำกัด ถือหุ้น 30% ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือข่ายของนายประยุทธ มหากิจศิริ ที่เป็นคู่ค้ากับเนสท์เล่ในไทยมานานกว่า 40 ปีในการผลิตเนสกาแฟ เพื่อรับสิทธิ์เป็นแฟรนไชซีแบรนด์พิซซ่าฮัทในไทยนาน 10 ปีและต่อ 10 ปี โดยจะเป็นผู้ลงทุน บริหาร จัดการ ทั้งหมดจากบริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
       
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า ทีทีเอรายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า ผลประกอบการปี 59 ขาดทุนสุทธิ 418.3 ล้านบาท ทั้งนี้ธุรกิจเดินเรือซึ่งเป็นธุรกิจหลักของกลุ่มนั้นที่ผ่านมาขาดทุน และผู้ประกอบการเดินเรือรายใหญ่ในเอเชียก็ปิดตัวไปหลายรายเพราะเศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี แต่ของบริษัทยังสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ได้

แม้ว่าจะเป็นธุรกิจหลัก แต่ก็ต้องขยายธุกริจใหม่ๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ก็ทรงตัว ทั้งน้ำมัน ปุ๋ย ถ่านหิน และอื่นๆ คืออาหารที่สัดส่วนรายได้เพียง 5-6% เท่านั้น แต่เป็นธุรกิจที่เติบโตดีและลงทุนมีผลตอบแทนเร็ว ซึ่งปัจจุบันนี้ในเครือมีอาหารมากกว่า 10 แบรนด์แล้วจึงต้องการมาเน้นธุรกิจอาหารมากขึ้น
       
นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีทีเอเป็นโฮลดิ้งคอมปานี สนใจการลงทนธุรกิจที่หลากหลาย และธุรกิจอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่บริษัทมองว่ามีการเติบโตที่รวดเร็วและความผันผวนน้อย
       
โดยปี 2560 นี้มีแผนเปิดพิซซ่าฮัทใหม่อีก 10-15 สาขา และจะรีโนเวตสาขาเดิมให้มีภาพลักษณ์ใหม่ที่สดใส ซึ่งปัจจุบันเราซื้อมารวม 92 สาขา คงต้องใช้ระยะเวลาอีกสักพักในการรีโนเวต ทั้งนี้วางเป้าหมายระยะยาวอีก 4 ปีจะเปิดอีก 100 สาขา รวมเป็นเกือบ 200 สาขาในทุกรูปแบบ แต่จะปรับรูปแบบร้านนั่งรับประทานให้มีขนาดเล็กลงและมีการบริการที่ทันสมัย จะเน้นเปิดในต่างจังหวัดมากขึ้น เพราะเดิมกว่า 80% ของสาขากระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งคาดว่าจะทำให้สามารถแข่งขันกับตลาดรวมพิซซาที่มีมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท
       
นางสาววรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้จัดการทั่วไป แบรนด์พิซซ่าฮัท บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (ซึ่งจะย้ายมาร่วมงานกับทาง พีเอช แคปปิตอล) กล่าวว่า ปี 2559 ที่ผ่านมาพิซซ่าฮัทเปิดใหม่ได้ 7-8 สาขา เติบโต 2 หลัก ซึ่งตลาดพิซซายังไปได้ดี แต่เพื่อความแข็งแกร่งและการขยายตัวที่รวดเร็ว จึงได้ขายไลเซนส์กับพาร์ตเนอร์ที่สนใจหลายรายแต่สรุปขายให้กับ พีเอช แคปปิตอล ซึ่งเป็นไปตามนโยบายพิซซ่าฮัททั่วโลกที่จะให้ทางแฟรนไชซีรับไลเซนส์ดำเนินการลงทุนแทน

แต่ยัมฯ ยังป็นเจ้าของแบรนด์เหมือนเดิม ซึ่งเดิมเมื่อหลายสิบปีก่อนพิซซ่าฮัทในไทยก็ให้ไลเซนส์รายอื่นเป็นแฟรนไชซีทำ แต่ได้นำกลับมาดำเนินการเองช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุดขายให้กับพีเอชแคปปิตอล ซึ่งผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ทางยัมฯ ก็ได้ขายไลเซนส์กิจการเคเอฟซีให้กับแฟรนไชซีทั้งหมด ไม่ได้ดำเนินการลงทุนในไทยเองแล้ว

อ้างอิงจาก  ผู้จัดการออนไลน์
       
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
สาขาใหม่มาแล้ว! บุราณ ..
963
รวมภาพบรรยากาศ คอร์ส F..
662
“เติมพลังความรู้” กับ ..
595
มาโนอิ ร่วมงานครบรอบ 1..
564
สมาร์ทเบรน จินตคณิต เป..
557
โทกิวอช ร้านสะดวกซัก เ..
519
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด