"สยามเวลเนส" มาถูกทาง ตัวเลขรายได้-กำไรปี"59 ยังพุ่งสูง เตรียมทุ่มงบฯ 250 ล้านบาทลงทุนต่อเนื่องอีก 10 สาขาในปีหน้า ส่วนโครงการเปิดขายแฟรนไชส์สู่ตลาดจีน-CLMV ยังอยู่ระหว่างการเจรจา

คาดได้ข้อสรุปแน่นอนภายในกลางปีหน้า ล่าสุดทุ่ม 80 ล้านแจ้งเกิดสปาโมเดลใหม่ "Onsen & Spa" สไตล์ญี่ปุ่น ผสมผสาน 2 ศาสตร์แห่งเอเชีย บนพื้นที่ 1,800 ตารางเมตร ใจกลางทองหล่อ มั่นใจสิ้นปีนี้ยอดขายรวมโตทะลุ 40%

 

นายณรัล วิวรรธนไกล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเวลเนส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA ผู้ประกอบการธุรกิจสปาครบวงจร ภายใต้แบรนด์ระรินจินดา เวลเนส สปา, เล็ทส์ รีแลกซ์ สปา (Let"s Relex) และบ้านสวน มาสสาจ สปา เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธุรกิจสปาในประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตได้ดี และยังขยายตัวในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศที่ได้ขยับสู่ความเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียขณะที่ตลาดในประเทศเองก็ยังมีใช้จ่ายด้านสุขภาพที่สูงขึ้นเช่นกัน

 

จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ทำให้บริษัทยังคงมีแผนลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2560 นี้ บริษัทมีแผนลงทุนอีกราว 250 ล้านบาท สำหรับขยายสาขาใหม่อีก 10 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด อาทิ กระบี่, ภูเก็ต เป็นต้น จากปัจจุบันที่เปิดให้บริการไปแล้ว 28 แห่ง

 

โมเดลใหม่ - สยามเวลเนส กรุ๊ป ได้ลงทุนสปาโมเดลใหม่ "Onsen & Spa" ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์ของความเป็นออนเซนของญี่ปุ่น และศาสตร์การนวดสปาด้วยสมุนไพรสดแบบไทยต้นตำรับ
 

 

สำหรับปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนสาขาใหม่เพิ่ม 10 แห่งเช่นกัน ขณะนี้เปิดให้บริการไปแล้วรวม 7 แห่ง และมีแผนเปิดอีก 3 แห่งภายในสิ้นปีนี้ ประกอบด้วย สาขาถนนบรมราชชนนี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรูปแบบสแตนด์อะโลน, สาขาศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมา และสาขาห้างสรรพสินค้ายูดี ทาวน์ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะทำให้สิ้นปีนี้บริษัทมีสาขารวมทั้งหมด 31 แห่ง

 

"ในส่วนของแผนการขยายสาขาในรูปแบบการขายแฟรนไซส์ ซึ่งได้เปิดแผนเจรจาไปบ้างแล้ว ทั้งในประเทศจีนและประเทศในกลุ่ม CLMV นั้น ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการเจรจาทั้งหมด คาดว่าน่าจะได้ข้อสรุปและเห็นผลชัดเจนภายในครึ่งปีแรกของปี 2560 นี้" นายณรัลกล่าว

 

นายณรัลกล่าวต่อไปว่า ล่าสุดนี้บริษัทได้เปิดให้บริการ Let"s Relex Spa สาขาใหม่ล่าสุดในโมเดลใหม่ที่เป็น "Onsen & Spa" สไตล์ญี่ปุ่น ใจกลางทองหล่อ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 1,800 ตารางเมตร บริเวณชั้น 5 โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์พอยท์ สุขุมวิท 55

ภายใต้ชื่อ Let"s Relax Onsen & Spa Thonglor ออนเซนสปาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในกรุงเทพฯและของประเทศไทย ซึ่งเป็นการผสาน 2 ศาสตร์แห่งเอเชีย คือศาสตร์ของความเป็นออนเซน พร้อมการนวดสปาด้วยสมุนไพรสดแบบไทยต้นตำรับ

 

โดย Let"s Relax Onsen & Spa Thonglor แห่งนี้ ประกอบด้วย 1.บ่อน้ำแร่เกโระ (Gero Hot Springs Bath) แยกผู้หญิง-ผู้ชาย ส่วนละ 5 บ่อ ทุกบ่อใช้น้ำแร่จาก Gero จังหวัดทาคายามา ที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นแหล่งน้ำแร่ 1 ใน 3 ที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น 2.บ่อซิลก์บาธ (Silk Bath) เป็นบ่อที่มีฟองเล็กละเอียดขาวบริสุทธิ์อัดแน่นจนเห็นเป็นสีขาว ช่วยเติมออกซิเจนให้ผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น

 

3.บ่อโซดา (Soda Bath) พรายฟองโซดาละเอียด จะซึมซาบล้ำลึกให้ผ่อนคลาย พร้อมปรับสมดุลและขับสารพิษ และช่วยทำให้การหมุนเวียนของเลือดให้ดียิ่งขึ้น 4.บ่อเวิร์ลพูล (Whirlpool Bath) เป็นบ่อน้ำวนด้วยแรงดันน้ำ ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าให้ทุกส่วนของร่างกาย และ 5.บ่อน้ำเย็น (Cold Bath) ช่วยเพิ่มความสดชื่น ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดและการเต้นของหัวใจ
 

 

นอกจากนี้ ยังมีห้องหินร้อน (Hot Stonebed Bath) ที่ช่วยผ่อนคลายด้วยความร้อนผ่านหินธรรมชาติและไอเกลือหิมาลายันที่มีแร่ธาตุถึง 84 ชนิด, ห้อง คูลดาวน์ (Cool Down Room) ห้องที่มีอุณหภูมิเย็นที่ช่วยผ่อนคลายความร้อนในร่างกาย หลังจากที่ใช้ห้องหินร้อน ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และห้องไอน้ำและเซาน่า (Steam and Sauna) ที่จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

 

"ในส่วนของบริการสปาเราก็มีให้เลือกที่หลากหลายเมนูอาทินวดอโรมาหินร้อน,นวดอโรมาน้ำมัน,นวดไทยประคบสมุนไพร, นวดกดจุดฝ่าเท้าและฝ่ามือ, นวดหลังไหล่, นวดหน้า, ขัดผิว, พอกผิว เป็นต้น" นายณรัลกล่าว

 

นายณรัลกล่าวเพิ่มเติมถึงแผนการลงทุนระยะยาวสำหรับปี 2561 ด้วยว่า บริษัทยังคงวางเป้าหมายการลงทุนในสาขาใหม่ไว้ที่ 10 แห่ง ซึ่งจะทำให้สิ้นปี 2561 บริษัทจะมีสาขารวมทั้งหมด 51 แห่งแน่นอน

และเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมีศักยภาพในการรักษาอัตราการเติบโตทั้งในด้านรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องได้ โดยปีนี้คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตของรายได้อยู่ที่ประมาณ 40% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา หรือมีรายได้รวมประมาณ 760 ล้านบาท

 

อ้างอิงจาก  prachachat.net

ขอบคุณรูปภาพจาก  www.facebook.com/buffettcode