2.3K
2 ตุลาคม 2559
เฮฟต้า รุกขายแฟรนไชส์วัสดุก่อสร้างตปท.

 
"เฮฟต้า" ลุยหาพาร์ตเนอร์ขยายแฟรนไชส์บุก AEC สปป.ลาว เมียนมา เนปาล อินเดีย เร่งหาตลาดใหม่ ปรับตัวรับมือเศรษฐกิจซบ ยอดขายตลาดในประเทศหดกว่า 50% พร้อมปัดฝุ่นระบบโลจิสติกส์ ซัพพลายเชนหลังบ้านเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร
 
นางสาววันทา เปี่ยมพงศ์สุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฮฟต้า จำกัด ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายโครงสร้างประตู หน้าต่าง เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดขายปี 2558 ลดลงเกือบ 50% จากรายได้ทั้งหมดที่ 200 ล้านบาท

โดยเฉพาะสถานการณ์ในช่วงครึ่งปีหลัง ได้ส่งผลกับทุกธุรกิจ ดังนั้น ในปี 2559 บริษัทจึงได้ปรับแผน โดยการหาตลาดใหม่ ใช้รูปแบบขยายแฟรนไชส์หาพาร์ตเนอร์ เพื่อออกไปสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น สปป.ลาว เมียนมาเนปาล อินเดีย ฯลฯ
 
 
ขณะเดียวกันสนใจหาพาร์ตเนอร์เพื่อลงทุนตามหัวเมืองใหญ่ภายในประเทศ เช่น จ.สงขลา จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครราชสีมา จากปัจจุบันบริษัทมีพาร์ตเนอร์ ทั้งหมด 12 ราย(เฉพาะในประเทศ) คาดว่านโยบายการขยายตลาดในลักษณะดังกล่าวจะส่งผลให้รายได้ปีนี้เติบโตปีละประมาณ 10% และอาจเติบโตแบบก้าวกระโดดหลังจากขยายตลาดไปลงทุนยังต่างประเทศ
 
"นโยบายลงทุนไปเพื่อนบ้าน เริ่มจากการเปิดตลาดใน สปป.ลาว เมื่อปลายปีที่แล้ว และที่กัมพูชาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างการเจรจาพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นรายหนึ่งในประเทศเนปาล จากที่เราเคยไปออกงานแสดงสินค้า ลูกค้าชอบสินค้าของเราจึงเป็นโอกาสที่ลูกค้าจะนำสินค้าเข้าไปเปิดตลาด ส่วนอินเดียตลาดนี้ใหญ่มากเราสนใจและกำลังศึกษาลู่ทางอยู่ และเมียนมามีศักยภาพการเติบโตที่สูงมาก เพราะกำลังเปิดประเทศ มีโครงการลงทุนก่อสร้างจำนวนมากใน 2 ประเทศนี้ จึงถือเป็นเป้าหมายหลัก"
 
 
สำหรับรูปแบบการลงทุนจะใช้วิธีการขยายแฟรนไชส์ไปกับพาร์ตเนอร์ไม่ใช่การลงทุนตรง100% โดยพาร์ตเนอร์จะเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด จำเป็นต้องเตรียมงบฯลงทุนไว้ที่ 2 ล้านบาททั้งในส่วนของเครื่องจักร แวร์เฮ้าส์ สร้างโรงงาน จ้างคน จากนั้นบริษัทจะเข้าไปเซตระบบการบริหารจัดการงานให้ และสอนในเรื่องของการขาย การผลิต รวมถึงการติดตั้ง อุปกรณ์หลังการขาย ภายใต้แบรนด์สินค้าของเฮฟต้า จากนั้นจะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ รูปแบบการลงทุนลักษณะนี้เหมาะกับผู้ประกอบการรายย่อย
 
บริษัทได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการกับทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) ในโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อยกระดับการแข่งขัน (MDICP Standard) แน่นอนว่ารางวัลจากการผ่านโครงการดังกล่าวถือเป็นเครื่องการันตีศักยภาพขององค์กรและประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจเนื่องจากโครงการจะสอนการพัฒนาและปรับปรุงส่วนการผลิต การยกระดับการบริหารจัดการองค์กรให้เป็นระบบมาตรฐานสากล การเพิ่มความสามารถและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีนำไปสู่นวัตกรรม การเสริมสร้างความสามารถทางการบริหารการเงินและการลงทุน"
 
 
"บางรายอาจจะไม่สนใจในโครงการที่รัฐจัดขึ้นแต่การที่จะอยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้รายย่อยเองจะต้องกลับไปทบทวนเรื่องของนโยบายภายในองค์กรก่อนการอบรมทีมงานสำคัญอย่าง MDICP เขามีเจ้าหน้าที่ช่วยอบรมมาดูสถานที่จริงมาช่วยแนะนำ รัฐถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เอกชนโดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็ก เพราะบางรายไม่มีทางออกจริง ๆรัฐช่วยสนับสนุน และผลักดันให้รายเล็กเป็นรายกลาง สามารถขยายตลาดไปต่างประเทศได้ และในอนาคตจะพัฒนาเป็นรายใหญ่ เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในเศรษฐกิจของไทย"
 
หากประเมินภาพรวมภาวะเศรษฐกิจครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่ามีแนวโน้มดีขึ้น ดังนั้น การพยายามผลิต สินค้าตามไลฟ์สไตล์นับเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งให้ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น

อ้างอิงจาก  ประชาชาติธุรกิจ
 
ขอบคุณรูปภาพจาก  http://goo.gl/GjcM0r
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
ผู้สนับสนุน (Sponsor)
แฟรนไชส์ P.P.TYRE ร่วม..
1,419
แฟรนไชส์ “ไจแอ้นลูกชิ้..
1,343
“โฮมแคร์ภิบาล” จัด Ope..
1,245
ชีสซี่ฟราย สแน็ค เปิด ..
870
เรียนสร้างแฟรนไชส์ ในค..
839
ออลส์ บับเบิ้ลที เปิด ..
529
ข่าวแฟรนไชส์มาใหม่
ข่าวอื่นในหมวด