เบอร์เกอร์คิงส่ง 'วอปเปอร์ บาร์' เชิญชวนลูกค้าเข้าร้านสุดแนว

 

 
เบอร์เกอร์ คิง เตรียมเปิดวอปเปอร์ บาร์ ร้านแนวใหม่ที่กระตุ้นความอยากรับประทานด้วยการสัมผัสบรรยากาศการปรุงอาหาร พร้อมบริการใหม่ที่ให้ลูกค้าเลือกท็อปปิ้งหลากชนิดสำหรับเบอร์เกอร์ของตนประเดิมแห่งแรกในสวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ

นายรัส ไคลน์ ประธานฝ่ายการตลาด กลยุทธ์ และ นวัตกรรมในตลาดโลกของ บริษัท เบอร์เกอร์ คิง คอร์ป เจ้าของเชนร้านแฮมเบอร์เกอร์อันดับสองของประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยถึงการเปิดร้านสาขาภายใต้คอนเซ็ปต์ "วอปเปอร์ บาร์" ร้านขนาดเล็กที่ให้บริการเมนูที่เป็นเอกลักษณ์ของเบอร์เกอร์ คิง หลากชนิด ซึ่งมีบรรยากาศของร้านเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง "เป็นรูปแบบที่จะเปิดโอกาสให้บริษัทได้นำเสนอแฮมเบอร์เกอร์ยอดนิยมของชาวอเมริกัน ที่ลูกค้าสามารถเลือกสรรส่วนประกอบได้เองพร้อมให้บริการในรูปแบบของ 'ห้องปฏิบัติการนวัตกรรม'"

บริษัทได้เปิดร้านวอปเปอร์ บาร์ แห่งแรกที่ ยูนิเวอร์แซล ซิตี้วอล์ก สวนสนุกในเมืองออร์แลนโด มลรัฐฟลอริดาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา

คอนเซ็ปต์ วอปเปอร์ บาร์ ของเบอร์เกอร์ คิงคล้ายกับคอนเซ็ปต์ร้านกาแฟ "แมค คาเฟ่" ของแมคโดนัลด์ เชนร้านแฮมเบอร์เกอร์อันดับหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของเบอร์เกอร์ คิง มีข้อแตกต่างเพียงวอปเปอร์ บาร์ จะให้บริการแฮมเบอร์เกอร์ แทนที่จะให้บริการกาแฟระดับพรีเมียม เหมือนแมค คาเฟ่ ของแมคโดนัลด์

จุดเด่นประการหนึ่งคือวอปเปอร์ บาร์ ใช้พื้นที่ตั้งไม่มากนักทำให้สามารถจัดตั้งได้ในบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด เช่น สถานกาสิโน และ ท่าอากาศยาน

ลูกค้าสามารถเลือกสั่งเมนูวอปเปอร์ ดับเบิล วอปเปอร์ หรือ สเต็ก เฮ้าส์ เอ็กซ์ที แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นหนาคุณภาพสูง และสามารถเลือกเครื่องเคียงที่จะใส่ในแฮมเบอร์เกอร์ได้อีก 22 รายการ โดยเมนูอาหารที่ลูกค้าสั่งจะทำขึ้นโดยพนักงานผู้เชี่ยวชาญที่เบอร์เกอร์ คิงเรียกว่า "วอปเปอริสต้า" (Whopperista) ซึ่งลูกค้าจะมองเห็นขั้นตอนต่างๆของการปรุงแฮมเบอร์เกอร์ได้อย่างชัดเจน

นอกจากนั้นในร้านใหม่นี้ยังมีการนำเสนอเมนูอาหารพิเศษที่เรียกว่า "Bar Favorites" เช่น เมนู เบอร์เบิน วอปเปอร์ ทรีชีส สเต็ก เฮ้าส์ เอ็กซ์ที เป๊ปเปอร์ เบคอน สเต็กเฮ้าส์ เอ็กซ์ที และ แองกรี้ วอปเปอร์ เป็นต้น

เบอร์เกอร์คิงระบุว่าคอนเซ็ปต์ของร้านวอปเปอร์ บาร์ เป็นแนวคิดการตกแต่งร้านในรูปแบบใหม่ ที่ทันสมัย และมีเอกลักษณ์โดดเด่น ซึ่งการย่างเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ด้วยเปลวไฟเป็นจุดเด่นที่สำคัญ บริษัทยังได้เปลี่ยนรูปแบบเครื่องแต่งกายของพนักงานให้เน้นสีแดง ดำและเทา คล้ายกับสีสันของร้านใหม่ นอกจากนั้นยังได้เปลี่ยนภาชนะใส่อาหารมาเป็นกล่องกระดาษชนิดใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับเมนูแฮมเบอร์เกอร์ที่มีเครื่องเคียงหลากชนิดที่ลูกค้าสามารถสั่งเพิ่มได้

บริษัทมีแผนจะเปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ในเมืองลอส แองเจลีส นิวยอร์ก ก่อนที่จะขยายสู่ตลาดโลกในช่วง 6-12 เดือนข้างหน้า โดยมีแผนจะเปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ในเมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนีในช่วงฤดูร้อนปีนี้ คาดว่าจะมีการขยายสาขาทั้งหมด 6 แห่งในปี 2552

นายไคลน์ ระบุว่า "วิสัยทัศน์ของเราคือการขยายสาขาวอปเปอร์ บาร์ 300-500 แห่ง และหากแนวคิดของบริษัทถูกต้อง การเปิดร้านดังกล่าวจะเป็นเครื่องรับประกันความสำเร็จของร้านสาขาเบอร์เกอร์คิงอย่างแน่นอน"

ปัจจุบัน เบอร์เกอร์ คิง มีร้านสาขา 11,700 แห่งใน 50 มลรัฐของสหรัฐอเมริกา และ 74 ประเทศทั่วโลก ร้านสาขาส่วนใหญ่เป็นร้านแฟรนไชส์อิสระ ในปี 2551 นิตยสาร ฟอร์บส์ จัดให้เบอร์เกอร์ คิง อยู่ใน 1,000 อันดับบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ














อ้างอิงจาก ฐานเศรษฐกิจ